Advertisement
Advertisement
1. กินดี
ไม่มีอะไรที่จะมาทดแทนการกินอาหารที่มีประโยชน์กับผิวได้ การกินอาหารในปริมาณที่เหมาะสม และได้รับสารอาหารที่จำเป็นต่อผิว อันได้แก่ วิตามิน A, C, E และ K จะส่งผลดีต่อสุขภาพผิวของคุณมาก ทั้งช่วยลดการผลิตน้ำมัน และทำให้ผิวมีความยืดหยุ่น ทนต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมภายนอกได้ดี ริ้วรอยแห่งวัย สามารถป้องกันได้ ด้วยการกินอาหารอย่าง ไข่ แอพพริคอต แครอท แคนตาลูป สตรอว์เบอร์รี ผลไม้ตระกูลซิตรัส ข้าวไม่ขัดสี ชาเขียว และถั่วต่าง ๆ ซึ่งให้กรดไขมันจำเป็น โปรตีนนั้นก็ดีต่อการสร้างผิวใหม่ และการบำรุงซ่อมแซมผิวที่ทรุดโทรม รวมทั้งไขมันเอง หากบริโภคในปริมาณที่เหมาะสม ก็จะมีคุณสมบัติต่อต้านการอักเสบของผิวหนังได้ด้วย ในขณะที่อาหารอีกสองจำพวก ได้แก่ แป้งและน้ำตาล ไม่ค่อยส่งผลดีต่อผิวมากเท่าใดนัก
2. ดูแลดี
ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวบางประเภท ประกอบไปด้วยสารเคมีที่แรงเกินไปสำหรับผิว แทนที่จะทำความสะอาดให้ผิวเกลี้ยงเกลา กลับส่งผลทำร้ายผิว ด้วยการชะน้ำมันธรรมชาติของผิวออกไป เช่นเดียวกับการใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่ไม่เหมาะกับสภาพผิวของตนเอง จึงทำให้ผิวกร้าน และเหี่ยวไว ในทำนองเดียวกันกับการอาบน้ำอุ่นจัด การล้างและขัดถูใบหน้าเกินความจำเป็น การสัมผัสใบหน้าบ่อย ๆ ก็ทำร้ายผิวได้ ยิ่งประการสุดท้าย ยิ่งเป็นการกระตุ้นให้เกิดสิว หรือเป็นผื่นได้ด้วย
3. หนีแดดจ้า
แม้แสงแดดจะมีประโยชน์ต่อร่างกาย เพื่อช่วยในการสังเคราะห์วิตามิน D แต่ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการรับแดด ก็ควรเป็นเพียงแดดยามสาย หรือยามบ่ายแก่ ๆ แค่วันละ 15 นาที เท่านั้นก็เพียงพอ การปะทะกับแดดจ้าบ่อย ๆ จะเร่งให้เกิดกระ ฝ้า ผิวแห้ง ตามมาด้วยรอยเหี่ยวย่นก่อนวัย ซ้ำร้ายอาจสะสมกลายเป็นมะเร็งผิวหนังในภายภาคหน้า ทางที่ดีเราจึงควรหลบแดดจ้า ไม่ว่าจะเป็นการสวมเสื้อคลุมให้มิดชิด กางร่ม ใช้ครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอ ก็จะช่วยปกป้องผิวได้ในระยะยาวเป็นอย่างดี
4. บอกลาความเครียด
สาเหตุของความเครียดนั้นมาได้ทั้งจากเรื่องหน้าที่การงาน และเรื่องส่วนตัว มันจึงเป็นสิ่งที่อยู่ใกล้ตัวเราเหลือเกิน นอกจากนี้ทั้งความเครียดกอปรเข้ากับไลฟ์สไตล์ยุคใหม่ ที่อะไร ๆ ก็เป็นไปอย่างฉับไว รวดเร็ว แต่กลับทำให้เรามีเวลานอนน้อยลง เวลาสำหรับเลือกสรรหาอาหารดี ๆ กินมีน้อยลง เวลาที่จะได้ดูแลร่างกายและจิตใจของตัวเองหดลงไปหมดทุกทาง ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนนำมาสู่ปัญหาผิว เริ่มตั้งแต่ผิวหมองคล้ำ ขาดน้ำ ผิวโทรมและฟื้นตัวยาก บ่อย ๆ เข้าผิวจึงดูโรยราแบบถาวร เพราะฉะนั้นหากเป็นไปได้ เลือกที่จะทิ้งความเครียดและความยุ่งเหยิงไว้ หรือตั้งรับจัดการกับมันอย่างมีสติ แก้ไขสาเหตุของปัญหา และแบ่งเวลามาดูแลตัวเองด้วย ก็จะเป็นทางออกที่อยู่ตรงกลางพอดี ๆ และทำให้ผิวดีด้วยค่ะ
ขอบคุณที่มา กระปุกดอทคอม
Advertisement
|
เปิดอ่าน 3,163 ครั้ง |
เปิดอ่าน 16,368 ครั้ง |
เปิดอ่าน 1,266 ครั้ง |
เปิดอ่าน 71,333 ครั้ง |
เปิดอ่าน 29,722 ครั้ง |
เปิดอ่าน 11,468 ครั้ง |
เปิดอ่าน 15,294 ครั้ง |
เปิดอ่าน 10,570 ครั้ง |
เปิดอ่าน 8,366 ครั้ง |
เปิดอ่าน 16,224 ครั้ง |
เปิดอ่าน 33,101 ครั้ง |
เปิดอ่าน 11,044 ครั้ง |
เปิดอ่าน 10,768 ครั้ง |
เปิดอ่าน 13,283 ครั้ง |
เปิดอ่าน 8,356 ครั้ง | |
|

เปิดอ่าน 9,517 ☕ คลิกอ่านเลย |

เปิดอ่าน 9,370 ☕ คลิกอ่านเลย | 
เปิดอ่าน 8,406 ☕ คลิกอ่านเลย | 
เปิดอ่าน 23,100 ☕ คลิกอ่านเลย | 
เปิดอ่าน 71,333 ☕ คลิกอ่านเลย | 
เปิดอ่าน 8,950 ☕ คลิกอ่านเลย | 
เปิดอ่าน 26,894 ☕ คลิกอ่านเลย |
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ 
เปิดอ่าน 18,939 ครั้ง | 
เปิดอ่าน 14,793 ครั้ง | 
เปิดอ่าน 13,000 ครั้ง | 
เปิดอ่าน 48,833 ครั้ง | 
เปิดอ่าน 20,484 ครั้ง |
|
|