ผู้วิจัย นายอริย์ธัช ภาธรธนฤต
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อศึกษาสภาพ ปัญหา ความต้องการและแนวทางในการพัฒนารูปแบบการบริหารงานวิชาการที่ส่งผลต่อการจัดการเรียนรู้เชิงรุกด้วยกระบวนการชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพของครู 2) เพื่อสร้างและพัฒนารูปแบบการบริหารงานวิชาการที่ส่งผลต่อการจัดการเรียนรู้เชิงรุกด้วยกระบวนการชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพของครู 3) เพื่อศึกษาผลการทดลองใช้รูปแบบการบริหารงานวิชาการที่ส่งผลต่อการจัดการเรียนรู้เชิงรุกด้วยกระบวนการชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพของครู 4) เพื่อประเมินและปรับปรุงรูปแบบการบริหารงานวิชาการที่ส่งผลต่อการจัดการเรียนรู้เชิงรุกด้วยกระบวนการชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพของครู กลุ่มตัวอย่าง ที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่
ครูผู้สอนในโรงเรียนเทศบาลบ้านปากทาง อำเภอเมืองพิจิตร จังหวัดพิจิตร จำนวน 24 คน ที่สมัครใจเข้าร่วมโครงการวิจัย เครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล เป็นแบบสอบถามมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ แบ่งออกเป็น 4 ตอน ขั้นตอนที่ 1 ศึกษาสภาพปัญหา ความต้องการและแนวทางในการพัฒนารูปแบบการบริหารงานวิชาการที่ส่งผลต่อการจัดการเรียนรู้เชิงรุกด้วยกระบวนการชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพของครู ขั้นตอนที่ 2 สร้างและพัฒนารูปแบบการบริหารงานวิชาการที่ส่งผลต่อการจัดการเรียนรู้เชิงรุกด้วยกระบวนการชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพของครู ขั้นตอนที่ 3 ทดลองใช้รูปแบบการบริหารงานวิชาการที่ส่งผลต่อการจัดการเรียนรู้เชิงรุกด้วยกระบวนการชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพของครู ขั้นตอนที่ 4 ประเมินและปรับปรุงรูปแบบการบริหารงานวิชาการที่ส่งผลต่อการจัดการเรียนรู้เชิงรุกด้วยกระบวนการชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพของครู สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัยพบว่า 1) ผลการศึกษาสภาพ ปัญหา ความต้องการและแนวทางในการพัฒนารูปแบบการบริหารงานวิชาการที่ส่งผลต่อการจัดการเรียนรู้เชิงรุกด้วยกระบวนการชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพของครู มีความคิดเห็นต่อสภาพการจัดการเรียนรู้ภาพรวมอยู่ในระดับมาก (X ̅ = 3.56, S.D. = 0.58) และมีความคิดเห็นต่อปัญหาการจัดการเรียนรู้ภาพรวมอยู่ในระดับปานกลาง (X ̅ = 2.58, S.D. = 0.49)
1.2 แนวทางในการพัฒนารูปแบบการบริหารงานวิชาการที่ส่งผลต่อการจัดการเรียนรู้เชิงรุกด้วยกระบวนการชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพของครู คือ 1) ความรู้ความเข้าใจการเรียนรู้เชิงรุก 2) การออกแบบการจัดการเรียนรู้เชิงรุก 3) การเขียนแผนการจัดการเรียนรู้เชิงรุก 4) การจัดกิจกรรมการเรียนรู้เชิงรุก 5) การวัดและประเมินผลการจัดการเรียนรู้เชิงรุก
2. ผลการสร้างและพัฒนารูปแบบการบริหารงานวิชาการที่ส่งผลต่อการจัดการเรียนรู้เชิงรุกด้วยกระบวนการชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพของครู สามารถสรุปผลการวิจัยได้ดังนี้
2.1 ผลการสร้างรูปแบบการบริหารงานวิชาการที่ส่งผลต่อการจัดการเรียนรู้เชิงรุก ด้วยกระบวนการชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพของครู มีจำนวน 5 องค์ประกอบ คือ หลักการ วัตถุประสงค์ เนื้อหา กระบวนการจัดการเรียนรู้ และการวัดและประเมินผล โดยจัดกิจกรรม 4 ขั้น ได้แก่ ขั้น 1 สร้างความเข้มแข็งของทีม ขั้น 2 การพัฒนางานร่วมกัน ขั้น 3 ปฏิบัติการจัดการเรียนรู้ ขั้น 4 สะท้อนผลและแลกเปลี่ยน
2.2 ผลการของพัฒนารูปแบบการบริหารงานวิชาการที่ส่งผลต่อการจัดการเรียนรู้เชิงรุกด้วยกระบวนการชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพของครู องค์ประกอบรูปแบบการส่งเสริมความสามารถในการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครู โดยใช้การศึกษาชั้นเรียนผ่านชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพมีความเหมาะสมภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด (X ̅ = 4.54, S.D. = 0.50) คู่มือการใช้รูปแบบการส่งเสริมความสามารถในการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครู โดยใช้การศึกษาชั้นเรียนผ่านชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก (X ̅ = 4.40, S.D. = 0.50)
2.3 ผลการทดลองนำร่องใช้รูปแบบการส่งเสริมความสามารถในการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครูด้วยกระบวนการชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพของครู พบว่าความสามารถในการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครูโดยรวมอยู่ในระดับมาก (X ̅ = 4.29, S.D. = 0.46)
3. ผลการทดลองใช้รูปแบบการบริหารงานวิชาการที่ส่งผลต่อการจัดการเรียนรู้เชิงรุกด้วยกระบวนการชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพของครู พบว่า ความสามารถในการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครู ด้วยกระบวนการชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพของกลุ่มตัวอย่าง โดยรวมอยู่ในระดับมาก (X ̅ = 4.38, S.D. = 0.49) คะแนนเฉลี่ยร้อยละของความสามารถในการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครูหลังได้รับการพัฒนาด้วยกระบวนการชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ และระดับคุณภาพจำแนกเป็นรายบุคคล วงรอบที่ 1 วงรอบที่ 2 และวงรอบที่ 3 พบว่า ครูที่มีคะแนนความสามารถในการจัดการเรียนรู้เชิงรุกสูงกว่าเกณฑ์ร้อยละ 75 ในวงรอบที่ 1 มีจำนวน 5 คน วงรอบที่ 2 มีจำนวน 7 คน รอบวง 3 มีจำนวน 7 คน
4. ผลการประเมินและปรับปรุงรูปแบบการบริหารงานวิชาการที่ส่งผลต่อการจัดการเรียนรู้เชิงรุกด้วยกระบวนการชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพของครู พบว่าภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด (X ̅ = 4.59, S.D. = 0.49) และจำแนกรายด้านความเป็นประโยชน์อยู่ในระดับมากที่สุด (X ̅ = 4.64, S.D. = 0.48) ด้านความเป็นไปได้อยู่ในระดับมากที่สุด (X ̅ = 4.56, S.D. = 0.50) ด้านความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด (X ̅ = 4.57, S.D. = 0.50) และด้านความถูกต้องครอบคลุมอยู่ในระดับมากที่สุด (X ̅ = 4.58, S.D. = 0.50)