ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

การจัดการเรียนการสอนแบบคละชั้นในโรงเรียนขนาดเล็ก: กรณีศึกษาโรงเรียนผาขวางวิทยา สาขาบ้านแคววัวดำ จังหวัดเชียงราย

“การจัดการเรียนการสอนแบบคละชั้นในโรงเรียนขนาดเล็ก: กรณีศึกษาโรงเรียนผาขวางวิทยา

สาขาบ้านแคววัวดำ จังหวัดเชียงราย”

(Multigrade Teaching Management in Small Schools: A Case Study of Phakhwang Wittaya School, Ban Kwae Wua Dam Branch, Chiang Rai Province)

นายณัฐกฤษฎ์ อินเตชะ

ครูชำนาญการพิเศษ โรงเรียนผาขวางวิทยา สาขาบ้านแคววัวดำ

สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงราย เขต 1

ชื่อบทความ

“การจัดการเรียนการสอนแบบคละชั้นในโรงเรียนขนาดเล็ก: กรณีศึกษาโรงเรียนผาขวางวิทยา สาขาบ้านแคววัวดำ จังหวัดเชียงราย”

(Multigrade Teaching Management in Small Schools: A Case Study of Phakhwang Wittaya School, Ban Kwae Wua Dam Branch, Chiang Rai Province)

ชื่อผู้เขียน

นายณัฐกฤษฎ์ อินเตชะ

ครูชำนาญการพิเศษ โรงเรียนผาขวางวิทยา สาขาบ้านแคววัวดำ

สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงราย เขต 1

บทคัดย่อ (Abstract)

ภาษาไทย

บทความทางวิชาการฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาบริบทและเสนอแนวทางการจัดการเรียนการสอนแบบคละชั้นในโรงเรียนขนาดเล็ก โดยใช้โรงเรียนผาขวางวิทยา สาขาบ้านแคววัวดำ จังหวัดเชียงราย เป็นกรณีศึกษา โรงเรียนดังกล่าวเปิดทำการเรียนการสอนตั้งแต่ระดับก่อนประถมศึกษาถึงระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีนักเรียนทั้งหมด 29 คน ซึ่งเป็นนักเรียนกลุ่มชาติพันธุ์ร้อยละ 100 ประกอบด้วยกลุ่มชาติพันธุ์ลาหู่และปะกาเกอะญอ มีบุคลากรทางการศึกษาจำนวน 5 คน ประกอบด้วย ข้าราชการครู 1 คน ครูธุรการ 1 คน ครูพี่เลี้ยงเด็กพิการ 1 คน พี่เลี้ยงครู 1 คน และนักการภารโรง 1 คน

จากข้อจำกัดด้านจำนวนครูผู้สอนและภาระงานที่มาก ส่งผลให้โรงเรียนจำเป็นต้องจัดการเรียนการสอนในรูปแบบคละชั้น โดยมีครูประจำการสอนในสายวิชาการโดยตรงเพียง 1 คน การสอนแบบคละชั้นในบริบทดังกล่าวจึงเป็นทั้ง “ความท้าทาย” และ “โอกาส” ในการยกระดับคุณภาพผู้เรียน โดยเฉพาะในรายวิชาภาษาไทยและคณิตศาสตร์ ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญของการเรียนรู้ในระดับต่อไป

ผลการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงบริบทและการทบทวนเอกสารทางวิชาการชี้ให้เห็นว่า การจัดการเรียนการสอนแบบคละชั้นที่มีประสิทธิภาพควรมุ่งเน้นกระบวนการเรียนรู้แบบร่วมมือ (Cooperative Learning) การเรียนรู้โดยใช้โครงงานเป็นฐาน (Project-Based Learning) และการจัดการเรียนรู้แบบแตกต่างตามศักยภาพของผู้เรียน (Differentiated Instruction) ทั้งนี้ควรบูรณาการเทคโนโลยีทางการศึกษาอย่างเหมาะสม เช่น การใช้สื่อดิจิทัลเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ในรายวิชาภาษาไทยและคณิตศาสตร์ ซึ่งจะช่วยลดภาระงานของครูผู้สอน และเพิ่มโอกาสให้ผู้เรียนทุกคนสามารถเข้าถึงการเรียนรู้อย่างเท่าเทียม

คำสำคัญ: การสอนแบบคละชั้น, โรงเรียนขนาดเล็ก, การเรียนรู้ร่วมมือ, ภาษาไทย, คณิตศาสตร์

English Abstract

Academic English Version (APA-ready style)

This academic article aims to examine the contextual realities and propose effective approaches for managing multigrade teaching in small schools, with Phakhwang Wittaya School, Ban Kwae Wua Dam Branch, Chiang Rai Province serving as the case study. The school provides education from the pre-primary level through Grade 6, with a total enrollment of 29 students, all belonging to ethnic minority groups—specifically the Lahu and Karen (Pgaz K’Nyau) communities. The teaching staff comprises five members: one government teacher, one administrative assistant, one special-needs teaching aide, one teaching assistant, and one janitor. Due to the shortage of qualified teachers and the heavy administrative workload, the school necessarily implements a multigrade teaching system, with only a single teacher directly responsible for classroom instruction.

Consequently, multigrade teaching represents both a challenge and an opportunity for improving the quality of learning, particularly in Thai Language and Mathematics, which are fundamental to the development of core academic competencies.

The analysis of empirical data and relevant scholarly literature indicates that effective multigrade instruction should emphasize Cooperative Learning, Project-Based Learning, and Differentiated Instruction aligned with students’ individual abilities across grades. Furthermore, the judicious use of educational technologies—such as digital media tools for teaching Thai and Mathematics—can reduce teachers’ instructional burdens while enhancing equitable learning opportunities for all students within the multigrade classroom context.

Keywords: Multigrade Teaching, Small Schools, Cooperative Learning, Thai Language, Mathematics

บทนำ (Introduction)

ประเทศไทยมีโรงเรียนขนาดเล็กมากกว่า 15,000 แห่งทั่วประเทศ (สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน, 2566) ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ชนบทและภูเขา โรงเรียนเหล่านี้มีจำนวนนักเรียนลดลงอย่างต่อเนื่องและมักมีครูไม่ครบชั้น การจัดการเรียนการสอนจึงจำเป็นต้องใช้รูปแบบ “การสอนแบบคละชั้น” (Multigrade Teaching) เพื่อให้การจัดการเรียนรู้ดำเนินไปได้อย่างต่อเนื่องภายใต้ข้อจำกัดด้านบุคลากร

โรงเรียนผาขวางวิทยา สาขาบ้านแคววัวดำ เป็นตัวอย่างที่สะท้อนบริบทดังกล่าวได้อย่างชัดเจน โรงเรียนแห่งนี้มีนักเรียนจำนวนเพียง 29 คน ครูเพียง 1 คน ร่วมกับบุคลากรสนับสนุนอีก 4 คน ซึ่งทำให้ไม่สามารถจัดครูประจำชั้นครบทุกระดับได้ การจัดการเรียนการสอนแบบคละชั้นจึงเป็นทางออกสำคัญในการจัดการเรียนรู้ให้แก่ผู้เรียนทุกระดับ ตั้งแต่ชั้นอนุบาลถึงประถมศึกษาปีที่ 6

แม้ว่าการสอนแบบคละชั้นจะช่วยให้โรงเรียนขนาดเล็กสามารถดำเนินการจัดการเรียนรู้ได้ แต่ในทางปฏิบัติยังมีข้อจำกัดหลายประการ เช่น ครูต้องวางแผนการสอนหลายระดับในเวลาเดียวกัน ภาระงานเอกสารและกิจกรรมส่งผลให้เวลาสอนลดลง อีกทั้งนักเรียนในชั้นเรียนคละมีความแตกต่างทั้งด้านอายุ ความสามารถ และแรงจูงใจในการเรียน ส่งผลให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน โดยเฉพาะในวิชาภาษาไทยและคณิตศาสตร์ ยังอยู่ในระดับต่ำกว่ามาตรฐาน

อย่างไรก็ตาม การสอนแบบคละชั้นไม่ได้เป็นเพียง “ทางออกเฉพาะหน้า” แต่ยังเป็นโอกาสสำคัญในการพัฒนา “การเรียนรู้แบบร่วมมือระหว่างวัย” และ “การสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง” ซึ่งเป็นแนวทางสำคัญของการจัดการศึกษาในศตวรรษที่ 21 งานวิจัยของ Little (2001) และ Veenman (1995) พบว่าการสอนแบบคละชั้นสามารถส่งเสริมการพึ่งพาอาศัยกันทางการเรียนรู้ การฝึกทักษะการสื่อสาร และการคิดวิเคราะห์ได้ดีกว่าการเรียนชั้นเดียว

ดังนั้น บทความทางวิชาการนี้จึงมุ่งศึกษาแนวทางการจัดการเรียนการสอนแบบคละชั้นในโรงเรียนขนาดเล็ก โดยเฉพาะในบริบทของโรงเรียนผาขวางวิทยา สาขาบ้านแคววัวดำ เพื่อเสนอแนวทางเชิงปฏิบัติในการจัดการเรียนการสอนที่เหมาะสมกับบริบทจริงของโรงเรียนไทยในชนบท

แนวคิด ทฤษฎี และงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง

การสอนแบบคละชั้น (Multigrade Teaching) หมายถึง การจัดการเรียนรู้ที่ผู้สอนคนเดียวต้องรับผิดชอบนักเรียนตั้งแต่สองชั้นปีขึ้นไปในเวลาเดียวกัน (Veenman, 1995) ซึ่งเป็นแนวปฏิบัติที่พบได้มากในโรงเรียนขนาดเล็กทั่วโลก โดยเฉพาะในพื้นที่ชนบทหรือภูเขา เนื่องจากจำนวนครูไม่เพียงพอ หรือมีนักเรียนต่อชั้นน้อย (Little, 2001) งานศึกษาหลายชิ้นชี้ว่า การสอนแบบคละชั้นสามารถส่งเสริมทักษะทางสังคม การเรียนรู้ร่วมกัน และความรับผิดชอบส่วนบุคคลของผู้เรียนได้ หากมีการจัดการอย่างเหมาะสม (UNESCO, 2015)

แนวคิดหลักที่เกี่ยวข้องกับการจัดการเรียนการสอนแบบคละชั้น ประกอบด้วย

1. ทฤษฎีโครงสร้างนิยม (Constructivism) — เน้นให้ผู้เรียนสร้างความรู้จากประสบการณ์จริง ครูเป็นผู้อำนวยความสะดวก (Vygotsky, 1978)

2. แนวคิดการเรียนรู้แบบร่วมมือ (Cooperative Learning) — นักเรียนต่างระดับสามารถเรียนรู้ซึ่งกันและกัน ผ่านกิจกรรมกลุ่ม (Johnson & Johnson, 2009)

3. แนวคิดการสอนแบบแตกต่างตามศักยภาพผู้เรียน (Differentiated Instruction) — จัดกิจกรรมให้เหมาะกับระดับความสามารถของผู้เรียนแต่ละคน (Tomlinson, 2017)

4. แนวคิด Active Learning และ Project-Based Learning — เน้นให้ผู้เรียนลงมือทำจริง ใช้ปัญหาหรือโครงงานเป็นฐาน เพื่อบูรณาการการเรียนรู้ของหลายชั้นปีร่วมกัน (Katz & Chard, 2000)

แนวทางการจัดการเรียนการสอนแบบคละชั้นในวิชาภาษาไทยและคณิตศาสตร์

1. วิชาภาษาไทย

การสอนภาษาไทยในชั้นเรียนคละควรมุ่งพัฒนาทักษะฟัง พูด อ่าน เขียน โดยใช้กิจกรรมที่เปิดโอกาสให้ผู้เรียนช่วยเหลือกัน

• การจัดกลุ่มอ่านออกเสียงตามระดับความสามารถ นักเรียนระดับสูงเป็นพี่เลี้ยงช่วยรุ่นน้องอ่านและสะกดคำ

• กิจกรรมเขียนเรื่องราวร่วมกัน (Shared Writing) ให้กลุ่มคละชั้นแต่งเรื่องหรือบทสนทนาสั้น ครูประเมินตามระดับชั้น

• การใช้เทคโนโลยีช่วยสอน เช่น คลิปเสียง YouTube หรือ AI-Chat ฝึกออกเสียงคำยากและอ่านจับใจความ

2. วิชาคณิตศาสตร์

ควรใช้การสอนแบบ “เรียนรู้จากสถานการณ์จริง” เชื่อมโยงกับชีวิตประจำวัน

• กิจกรรมคณิตศาสตร์ในชีวิตประจำวัน เช่น คำนวณค่าใช้จ่ายในโรงอาหาร หรือ วัดพื้นที่สนามโรงเรียน

• ระบบคู่เรียน (Peer Tutoring) ให้นักเรียนชั้นสูงช่วยติวชั้นล่าง สร้างการเรียนรู้แบบ “พี่สอนน้อง”

• การใช้สื่อดิจิทัลแบบโต้ตอบ (Khan Academy Kids, YouTube Kids Math) ให้เด็กฝึกฝนซ้ำตามระดับของตนเอง

การประยุกต์ใช้แนวทางในโรงเรียนผาขวางวิทยา

โรงเรียนผาขวางวิทยา สาขาบ้านแคววัวดำ มีการนำแนวคิดเหล่านี้มาปรับใช้จริงในลักษณะต่อไปนี้

1. จัดกลุ่มเรียนแบบผสมอายุ (อนุบาล–ป.2 และ ป.3–ป.6) เพื่อให้เกิดการเรียนรู้ร่วมกันและช่วยเหลือกันระหว่างวัย

2. ใช้กระบวนการสอนแบบโครงงาน (Project-Based Learning) เช่น โครงงาน “สวนผักโรงเรียนเรา” ที่บูรณาการวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และภาษาไทยร่วมกัน

3. จัดทำตารางสอนแบบสลับเวลา (Block Schedule) โดยสอนเนื้อหาหลักช่วงเช้า และกิจกรรมกลุ่มช่วงบ่าย

4. บูรณาการ AI และสื่อเทคโนโลยีง่าย ๆ เช่น ใช้ ChatGPT ช่วยสร้างแบบฝึกหัดคณิตศาสตร์ หรือ ให้ครูใช้ Google Slides นำเสนอคำศัพท์ภาษาไทย

ผลการดำเนินการทำให้ครูสามารถบริหารเวลาได้ดีขึ้น นักเรียนมีส่วนร่วมในการเรียนมากขึ้น และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเฉลี่ยในภาคเรียนหลังสูงกว่าภาคเรียนก่อน ร้อยละ 15 โดยเฉพาะในวิชาคณิตศาสตร์พื้นฐานและการอ่านออกเสียงภาษาไทย

สรุปแนวคิดสำคัญ

• การสอนแบบคละชั้นไม่ใช่ปัญหา แต่คือโอกาสในการสร้างชุมชนแห่งการเรียนรู้

• ครูต้องออกแบบการสอนที่ยืดหยุ่น และใช้แนวทาง Active Learning ร่วมกับเทคโนโลยีดิจิทัล

• ผู้บริหารควรสนับสนุนให้มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างครูโรงเรียนขนาดเล็ก และใช้ข้อมูลผลสัมฤทธิ์ในการพัฒนาการสอนอย่างต่อเนื่อง

อภิปรายผล ข้อเสนอแนะ และสรุปเชิงนโยบาย

1. การอภิปรายผล

จากการศึกษาบริบทและแนวทางการจัดการเรียนการสอนแบบคละชั้นในโรงเรียนผาขวางวิทยา สาขาบ้านแคววัวดำ พบว่าแม้โรงเรียนจะมีข้อจำกัดด้านบุคลากรและทรัพยากรอย่างมาก แต่การนำแนวคิด “การสอนแบบคละชั้น” มาใช้ร่วมกับการเรียนรู้แบบโครงงานและการเรียนรู้ร่วมมือ (Project-Based & Cooperative Learning) กลับสามารถสร้าง “พลวัตการเรียนรู้ใหม่” ให้เกิดขึ้นได้อย่างน่าสนใจ

ผลการดำเนินการสะท้อนให้เห็นว่า

• นักเรียนระดับชั้นสูงมีความรับผิดชอบต่อการเรียนมากขึ้น และสามารถเป็น “พี่เลี้ยงทางวิชาการ” ให้กับนักเรียนรุ่นน้องได้จริง

• เด็กชั้นเล็กเกิดความมั่นใจในการเรียนรู้มากขึ้น เพราะได้รับการสนับสนุนจากเพื่อนในชั้นเรียนเดียวกัน

• ครูสามารถลดภาระการสอนซ้ำ และใช้เวลาในการออกแบบกิจกรรมที่ตอบสนองผู้เรียนทุกระดับได้ดียิ่งขึ้น

ผลการสังเกตเชิงคุณภาพพบว่า “ความสัมพันธ์ในชั้นเรียน” และ “บรรยากาศการเรียนรู้ร่วมกัน” ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

สิ่งนี้สอดคล้องกับงานของ Little (2001) และ Veenman (1995) ที่ชี้ว่าชั้นเรียนคละสามารถส่งเสริมความร่วมมือทางสังคม และการพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ของผู้เรียนได้ดีกว่าการสอนแบบชั้นเดียว หากมีการวางแผนที่เป็นระบบ

นอกจากนี้ การบูรณาการเทคโนโลยีและสื่อดิจิทัล เช่น การใช้คลิปวิดีโอสอนคณิตศาสตร์ หรือการให้ครูใช้ AI สร้างแบบฝึกหัดเฉพาะกลุ่มผู้เรียน ยังช่วยลดภาระงานและเพิ่มคุณภาพการสอนในวิชาหลักอย่าง ภาษาไทยและคณิตศาสตร์ ซึ่งเป็นจุดอ่อนสำคัญของโรงเรียนขนาดเล็กในชนบท

2. ข้อเสนอแนะเชิงปฏิบัติ (Practical Recommendations)

1. ด้านการจัดการเรียนรู้

o ควรจัดกลุ่มนักเรียนแบบ “พี่สอนน้อง” อย่างมีระบบ โดยใช้ตารางกิจกรรมร่วม เช่น “ชั่วโมงอ่านหนังสือร่วมกัน” หรือ “คณิตคิดสนุก”

o ใช้แนวทาง Differentiated Instruction ปรับเนื้อหาและแบบฝึกหัดให้เหมาะกับความสามารถของผู้เรียนแต่ละกลุ่ม

o พัฒนาสื่อการเรียนรู้เฉพาะกลุ่ม เช่น ใบงานสองระดับ (พื้นฐาน–ขั้นสูง) เพื่อให้ทุกคนมีความท้าทายที่เหมาะสม

2. ด้านครูและบุคลากรทางการศึกษา

o ครูควรได้รับการอบรมเรื่องการวางแผนสอนแบบคละชั้น การใช้เทคโนโลยีช่วยสอน และการประเมินผลที่หลากหลาย

o ควรสร้างเครือข่าย “ครูโรงเรียนขนาดเล็ก” ระดับเขต เพื่อแลกเปลี่ยนแนวปฏิบัติที่ดี (Best Practices)

o ให้ความสำคัญกับการพัฒนาครูในฐานะ “ผู้ออกแบบการเรียนรู้” มากกว่าผู้สอนตามตำรา

3. ด้านการมีส่วนร่วมของชุมชน

o ส่งเสริมให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการเรียนรู้ เช่น เชิญผู้รู้ท้องถิ่นมาช่วยสอนกิจกรรมหรือภูมิปัญญาท้องถิ่น

o ใช้สถานที่และทรัพยากรของชุมชนเป็นแหล่งเรียนรู้ (Community as a Learning Space)

4. ด้านนโยบายและการสนับสนุนจากต้นสังกัด

o สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาควรจัดทำ “แผนพัฒนาโรงเรียนขนาดเล็กแบบคละชั้น” เป็นนโยบายเฉพาะ

o สนับสนุนงบประมาณสำหรับจัดหาสื่อดิจิทัลและอุปกรณ์เทคโนโลยีพื้นฐาน

o พัฒนาแพลตฟอร์มกลาง (Online Platform) สำหรับครูโรงเรียนขนาดเล็ก เพื่อแลกเปลี่ยนแผนการสอนและทรัพยากร

3. สรุปเชิงนโยบาย (Policy Implications)

จากกรณีศึกษาโรงเรียนผาขวางวิทยา สาขาบ้านแคววัวดำ สามารถสรุปได้ว่า

การสอนแบบคละชั้นเป็นทางออกที่ยั่งยืนสำหรับโรงเรียนขนาดเล็ก หากได้รับการบริหารจัดการอย่างเป็นระบบและได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐอย่างเหมาะสม

การพัฒนาการสอนแบบคละชั้นควรอยู่บนฐานของ

• ข้อมูล (Data-Based Management) เพื่อวางแผนกำลังคนและทรัพยากร

• นวัตกรรม (Pedagogical Innovation) เพื่อสร้างรูปแบบการเรียนรู้ใหม่ที่สอดคล้องกับผู้เรียนหลากหลายวัย

• ความร่วมมือ (Collaborative Networking) เพื่อให้โรงเรียนขนาดเล็กไม่โดดเดี่ยว แต่เติบโตจากการเรียนรู้ร่วมกันของเครือข่าย

ดังนั้น นโยบายที่สำคัญที่สุดคือ “การมองโรงเรียนขนาดเล็กไม่ใช่ปัญหา แต่คือโอกาสในการสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้”

หากหน่วยงานต้นสังกัดสามารถกำหนดนโยบายสนับสนุนแบบเฉพาะจุด เช่น การสร้างศูนย์สนับสนุนครูคละชั้นระดับเขต หรือโครงการพัฒนา “AI Tutor for Small Schools” จะเป็นแรงผลักดันสำคัญต่อการยกระดับคุณภาพการศึกษาในพื้นที่ห่างไกลของประเทศไทย

4. บรรณานุกรม (References)

• Johnson, D. W., & Johnson, R. T. (2009). Cooperation and the Use of Technology. New York: Cambridge University Press.

• Katz, L., & Chard, S. (2000). Engaging Children’s Minds: The Project Approach. Ablex Publishing.

• Darling-Hammond, L. (2017). Empowered Educators: How High-Performing Systems Shape Teaching Quality Around the World. Jossey-Bass.

• Fullan, M. (2019). Leading in a Culture of Change. San Francisco: Jossey-Bass.

• Little, A. (2001). Multigrade Teaching: Towards an International Research and PolicyAgenda. UNESCO-IIEP.

• Tomlinson, C. A. (2017). How to Differentiate Instruction in Academically Diverse Classrooms. ASCD.

• Veenman, S. (1995). Cognitive and Noncognitive Effects of Multigrade and Multilevel Classes. Review of Educational Research, 65(4), 319–381.

• UNESCO. (2015). Addressing the Challenges of Multigrade Teaching. Paris: UNESCO.

• สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. (2566). รายงานสถานภาพโรงเรียนขนาดเล็กในประเทศไทย.กรุงเทพฯ: สพฐ.

บทสรุปสำหรับผู้บริหาร (Executive Summary)

ชื่อบทความ:

การจัดการเรียนการสอนแบบคละชั้นในโรงเรียนขนาดเล็ก: กรณีศึกษาโรงเรียนผาขวางวิทยา สาขาบ้านแคววัวดำ จังหวัดเชียงราย

ผู้เขียน:

นายณัฐกฤษฎ์ อินเตชะ ครูชำนาญการพิเศษ โรงเรียนผาขวางวิทยา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงราย เขต 1

1. ความเป็นมาและความสำคัญ

โรงเรียนขนาดเล็กในประเทศไทยจำนวนมากต้องจัดการเรียนการสอนแบบคละชั้น เนื่องจากมีครูไม่ครบชั้นและจำนวนนักเรียนลดลง โดยเฉพาะโรงเรียนผาขวางวิทยา สาขาบ้านแคววัวดำ ซึ่งมีนักเรียนเพียง 29 คน และครู–บุคลากรเพียง 5 คน ทำให้ต้องจัดการเรียนการสอนแบบคละชั้นทุกระดับ อย่างไรก็ตาม การสอนแบบคละชั้นสามารถกลายเป็นนวัตกรรมการจัดการเรียนรู้ได้ หากได้รับการวางแผนและการสนับสนุนที่เหมาะสม.

2. วัตถุประสงค์ของบทความ

1) เพื่อศึกษาบริบทของการจัดการเรียนการสอนแบบคละชั้นในโรงเรียนขนาดเล็ก

2) เพื่อเสนอแนวทางการจัดการเรียนรู้แบบคละชั้นในวิชาภาษาไทยและคณิตศาสตร์ที่มีประสิทธิภาพ

3) เพื่อพัฒนาแนวทางเชิงนโยบายในการยกระดับคุณภาพการศึกษาของโรงเรียนขนาดเล็ก

3. สาระสำคัญของบทความ

การสอนแบบคละชั้นเป็นแนวทางสำคัญของการจัดการศึกษาในบริบทที่ครูมีจำกัด โรงเรียนผาขวางวิทยาใช้แนวทาง Active Learning, Cooperative Learning, Project-Based Learning และ Differentiated Instruction เพื่อให้ผู้เรียนแต่ละระดับเรียนรู้ร่วมกัน ผลลัพธ์เบื้องต้นพบว่า นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเฉลี่ยสูงขึ้นร้อยละ 15 และมีทักษะการเรียนรู้ร่วมกันดีขึ้นอย่างชัดเจน.

4. ข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย

ระดับโรงเรียน: จัดทำตารางเรียนคละชั้นที่ยืดหยุ่นและใช้ระบบพี่สอนน้องพัฒนาแหล่งเรียนรู้ในโรงเรียน

และชุมชนให้เป็นฐานการเรียนรู้ร่วมกัน

ระดับครูและบุคลากร: จัดอบรมครูเกี่ยวกับการจัดการเรียนรู้แบบคละชั้นและการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล สร้างเครือข่ายแลกเปลี่ยนประสบการณ์

ระดับสำนักงานเขตพื้นที่: จัดตั้งศูนย์สนับสนุนครูโรงเรียนขนาดเล็ก สนับสนุนงบประมาณเพื่อพัฒนา

AI for Learning Tools

ระดับนโยบายส่วนกลาง: จัดทำยุทธศาสตร์โรงเรียนคละชั้นระดับชาติ และผลักดันนวัตกรรม ด้านการสอนให้เป็นส่วนหนึ่งของแผนพัฒนาการศึกษาแห่งชาติ.

5. ผลที่คาดว่าจะได้รับ

โรงเรียนขนาดเล็กมีระบบการจัดการเรียนรู้ที่มีคุณภาพและยั่งยืน ครูมีทักษะการสอนแบบยืดหยุ่น นักเรียนได้รับโอกาสทางการเรียนรู้อย่างเท่าเทียมและโรงเรียนผาขวางวิทยากลายเป็นต้นแบบโรงเรียนคละชั้นคุณภาพ.

6. สรุปประเด็นสำคัญ

การสอนแบบคละชั้นในโรงเรียนขนาดเล็กไม่ใช่ทางตันของการศึกษาไทยแต่เป็นแนวทางใหม่แห่งการสร้างนวัตกรรมการเรียนรู้ที่ยั่งยืน หากได้รับการสนับสนุนจากครู ผู้บริหารชุมชนและหน่วยงานต้นสังกัดอย่างเหมาะสม.

นายณัฐกฤษฎ์ อินเตชะ

ผู้จัดทำ

โพสต์โดย Kunkruboom : [28 ต.ค. 2568 (08:09 น.)]
อ่าน [57078] ไอพี : 49.228.245.91
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 91,915 ครั้ง
แรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ของแม็คเคลแลนด์
แรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ของแม็คเคลแลนด์

เปิดอ่าน 17,918 ครั้ง
การพระราชทานตราตั้งห้าง สารานุกรมไทย ฉบับกาญจนาภิเษก
การพระราชทานตราตั้งห้าง สารานุกรมไทย ฉบับกาญจนาภิเษก

เปิดอ่าน 16,265 ครั้ง
โรคฉี่หนู เชื้อร้ายที่มากับน้ำท่วม
โรคฉี่หนู เชื้อร้ายที่มากับน้ำท่วม

เปิดอ่าน 14,197 ครั้ง
กิจกรรมวันสงกรานต์
กิจกรรมวันสงกรานต์

เปิดอ่าน 38,944 ครั้ง
การวิ่งเพื่อสุขภาพ (สุขศึกษา)
การวิ่งเพื่อสุขภาพ (สุขศึกษา)

เปิดอ่าน 8,336 ครั้ง
ราชบัณฑิตยสภาบัญญัติคำ "Metaverse" ใช้คำภาษาไทยว่า "จักรวาลนฤมิต"
ราชบัณฑิตยสภาบัญญัติคำ "Metaverse" ใช้คำภาษาไทยว่า "จักรวาลนฤมิต"

เปิดอ่าน 13,300 ครั้ง
ซดชา 3 ถ้วยช่วยต้านมะเร็ง ป้องกันโรคเนื้อร้ายของรังไข่สตรีได้
ซดชา 3 ถ้วยช่วยต้านมะเร็ง ป้องกันโรคเนื้อร้ายของรังไข่สตรีได้

เปิดอ่าน 13,293 ครั้ง
สมรรถนะที่จำเป็นสำหรับตำแหน่งข้าราชการพลเรือนสามัญ
สมรรถนะที่จำเป็นสำหรับตำแหน่งข้าราชการพลเรือนสามัญ

เปิดอ่าน 21,601 ครั้ง
อีกวิธีสำหรับหยุดอาการ "สะอึก"
อีกวิธีสำหรับหยุดอาการ "สะอึก"

เปิดอ่าน 17,314 ครั้ง
5 ทางเลือกเรียนภาษาอังกฤษด้วยตัวเองแบบ New-Normal
5 ทางเลือกเรียนภาษาอังกฤษด้วยตัวเองแบบ New-Normal

เปิดอ่าน 15,706 ครั้ง
อาชีพในฝันเด็กไทยปี 59
อาชีพในฝันเด็กไทยปี 59

เปิดอ่าน 17,849 ครั้ง
ฮิตจัด มาชม กังนัมสไตล์ ฉบับ "ทหารเรือไทย"
ฮิตจัด มาชม กังนัมสไตล์ ฉบับ "ทหารเรือไทย"

เปิดอ่าน 11,220 ครั้ง
9 มิ.ย.ของทุกปีเป็น "วันรัฐพิธี" ตามมติ ครม.
9 มิ.ย.ของทุกปีเป็น "วันรัฐพิธี" ตามมติ ครม.

เปิดอ่าน 13,253 ครั้ง
ทานผลไม้ ก็ช่วยป้องกันผมร่วงก่อนวัยได้
ทานผลไม้ ก็ช่วยป้องกันผมร่วงก่อนวัยได้

เปิดอ่าน 461 ครั้ง
5 เทคนิคเลือกชุดกระชับสัดส่วนหลังดูดไขมัน ช่วยฟื้นตัวเร็ว
5 เทคนิคเลือกชุดกระชับสัดส่วนหลังดูดไขมัน ช่วยฟื้นตัวเร็ว

เปิดอ่าน 15,874 ครั้ง
เตือน! โทรไม่ติดวางสายก่อน 6 วิ ไม่งั้นเสียเงิน
เตือน! โทรไม่ติดวางสายก่อน 6 วิ ไม่งั้นเสียเงิน
เปิดอ่าน 13,090 ครั้ง
"ครู" ผู้เปลี่ยนชีวิต "ศิษย์"
"ครู" ผู้เปลี่ยนชีวิต "ศิษย์"
เปิดอ่าน 15,241 ครั้ง
คำว่า สปา มาจากไหน
คำว่า สปา มาจากไหน
เปิดอ่าน 29,826 ครั้ง
คำสันธาน
คำสันธาน
เปิดอ่าน 17,005 ครั้ง
ผลิตพืชอินทรีย์ / สมุนไพรกำจัดโรคและแมลง
ผลิตพืชอินทรีย์ / สมุนไพรกำจัดโรคและแมลง

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
ติวสอบ GED
ติวสอบ SAT
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ