ครูบ้านนอก

บทคัดย่อ

การศึกษานี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) สร้าง พัฒนา และใช้แผนการจัดการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) หาดัชนีประสิทธิผล 3) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน 4) ประเมินความพึงพอใจของนักเรียน จากการเรียนรู้โดยใช้แผนการจัดการเรียนรู้ที่สร้างและพัฒนาขึ้น สมมุติฐานการศึกษา ไดแก่ แผนการจัดการเรียนรู้ที่สร้างและพัฒนาขึ้นมีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 และนักเรียนที่เรียนโดยใช้แผนการจัดการเรียนรู้ที่ผู้ศึกษาสร้างและพัฒนาขึ้น มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติประชากร

ในการศึกษาเลือกแบบเจาะจง (Purprosive Sampling) จากนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนกันรลักษ์วิยาคม ปีการศึกษา 2552 จำนวน 120 คน โดยใช้ประชากรเป็นกลุ่มตัวอย่าง เครื่องมือเก็บรวบรวมข้อมูลที่ใช้ในการศึกษามี 4 ชุด คือ แผนการจัดการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นัธยมศึกษาปปีที่ 2 จำนวน 4 แผน แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน แบบปรนัยชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ โดยใช้แผนการจัดการเรียนรู้ที่ผู้ศึกษาสร้างและพัฒนาขึ้น และแบบสอบถามความคิดเห็นของนักเรียนที่มีต่อการเรียนรู้โดยใช้แผนการจัดการเรียนรู้ที่ผู้ศึกษาสร้างและพัฒนาขึ้น สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน

ผลการศึกษาพบว่า การเรียนรู้ของนักเรียนตามแผนการจัดการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นมัธยมมศึกษาปีที่ 2 ที่ผู้ศึกษาสร้างและพัฒนาขึ้น มีประสิทธิภาพเท่ากับ 86.75/93.85 ที่สูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด 80/80 ที่ตั้งไว้ ดัชนีประสิทธิผลที่แสดงว่านักเรียนมีความรู้เท่ากับ 0. 89 หรือคิดเป็นร้อยละ 0.89 นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 นักเรียนมีความพึงพอใจโดยรวมในระดับ

“เห็นด้วย” ต่อการเรียนรู้โดยใช้แผนการจัดการเรียนรู้ที่ผู้ศึกษาสร้างและพัฒนาขึ้น ( = 4.39 S.D = 0.73)

สรุปได้ว่าแผนการจัดการเรียนรู้เหมาะสมต่อพัฒนาการเรียนรู้ของนักเรียน ควรนำไปเผยแพร่เพื่อเป็นแหล่งอ้างอิงในการศึกษาค้นคว้า และพัฒนาคุณภาพนักเรียนอย่างกว้างขวางต่อไป

เว็บน่าสนใจ