การพัฒนาคุณภาพการศึกษาเป็นภารกิจสำคัญของสถานศึกษาทุกแห่งตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ซึ่งมุ่งเน้นให้ผู้เรียนได้รับการพัฒนาอย่างรอบด้าน ทั้งด้านสติปัญญา คุณธรรม จริยธรรม และทักษะชีวิต เพื่อให้สามารถดำรงชีวิตและพัฒนาตนเองในสังคมได้อย่างมีประสิทธิภาพ พระราชบัญญัติฉบับนี้ได้กำหนดให้สถานศึกษาต้องมีระบบบริหารจัดการคุณภาพที่มีประสิทธิผล รวมทั้งต้องส่งเสริมและพัฒนาครูให้สามารถจัดการเรียนรู้ที่มีคุณภาพสอดคล้องกับมาตรฐานการศึกษา (สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา, ๒๕๖๐) ซึ่งการนิเทศการศึกษาเป็นกลไกสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนการพัฒนาครูและคุณภาพผู้เรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในระดับนโยบาย กระทรวงศึกษาธิการได้กำหนดยุทธศาสตร์การพัฒนาในแผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๖๐๒๕๖๙ โดยเน้นการยกระดับคุณภาพครู การพัฒนาระบบนิเทศภายใน การใช้ข้อมูลสารสนเทศเพื่อวางแผนงานพัฒนา และการยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียนให้สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในโรงเรียนขนาดเล็กซึ่งมักประสบปัญหาทรัพยากรจำกัด การบริหารจัดการที่ไม่เป็นระบบ และการสอนที่ไม่สอดคล้องกับความแตกต่างระหว่างผู้เรียน (กระทรวงศึกษาธิการ, ๒๕๖๐)
นโยบายของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๗๒๕๖๘ ได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาระบบนิเทศแบบบูรณาการ เพื่อให้ครูได้รับการพัฒนาวิชาชีพอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งเน้นการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ การใช้เทคโนโลยี และการเสริมสร้างสมรรถนะผู้เรียนในทุกมิติ (สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน, ๒๕๖๗) นอกจากนี้ นโยบายของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาตรังกระบี่ ยังเน้นการยกระดับคุณภาพสถานศึกษาด้วยการนิเทศภายในอย่างเป็นระบบตามวงจร PDCA โดยมุ่งแก้ปัญหาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและพัฒนาศักยภาพครูให้สามารถจัดการเรียนรู้ที่สอดคล้องกับบริบทของผู้เรียน (สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาตรัง กระบี่, ๒๕๖๗) สอดคล้องกับวิจัยของ ราชันภัทร ปิยะตระกูล (๒๕๖๑) พบว่าการนิเทศแบบร่วมพัฒนา (Collaborative Supervision) ช่วยเสริมทักษะการสอนของครูและเพิ่มผลสัมฤทธิ์ของผู้เรียนอย่างมีนัยสำคัญ ในขณะที่สมคิด รุ่งโรจน์ (๒๕๖๒) ระบุว่าการใช้เทคโนโลยีและระบบนิเทศที่มีประสิทธิภาพช่วยยกระดับคุณภาพการจัดการเรียนรู้ได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะในโรงเรียนขนาดเล็ก
เมื่อพิจารณาบริบทของโรงเรียนเขาดินประชานุกูล ซึ่งเป็นโรงเรียนขนาดเล็ก พบว่ามีข้อจำกัดหลายด้าน เช่น การขาดครูที่ตรงเอกในบางกลุ่มสาระ สื่อและนวัตกรรมการเรียนรู้ยังไม่เพียงพอ การบริหารจัดการเรียนรู้ยังขาดความต่อเนื่อง และระบบนิเทศภายในยังไม่เข้มแข็ง ส่งผลให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนในบางกลุ่มสาระการเรียนรู้ต่ำกว่าเป้าหมายที่สถานศึกษากำหนด ตลอดจนผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (Ordinary National Educational Test) หรือ O-NET ในแต่ละกลุ่มสาระการเรียนรู้ที่จัดสอบยังต่ำกว่าระดับประเทศ นอกจากนี้ยังพบว่านักเรียนบางคนมีความรู้พื้นฐานทางการเรียนแตกต่างกันค่อนข้างสูง โดยยังขาดการจัดการเรียนรู้ที่ตอบสนองต่อความต้องการรายบุคคลอย่างแท้จริง
แนวทางแก้ปัญหาและพัฒนา
เพื่อแก้ไขปัญหาคุณภาพการศึกษาและยกระดับผลสัมฤทธิ์ของผู้เรียน โรงเรียนเขาดินประชานุกูลได้ดำเนินการปรับระบบนิเทศภายในให้มีความเข้มแข็งและเป็นระบบมากยิ่งขึ้น โดยมุ่งเน้นการวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐานของผู้เรียน ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และความต้องการจำเป็นของครู เพื่อใช้เป็นฐานในการวางแผนพัฒนาการจัดการเรียนรู้แบบเฉพาะเจาะจง นอกจากนี้ โรงเรียนได้พัฒนาศักยภาพครูผ่านกระบวนการจัดการความรู้ (Knowledge Management) การทำ PLC การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างครู และการอบรมเชิงปฏิบัติการด้านนวัตกรรมการสอน รวมถึงการสนับสนุนเทคโนโลยีและสื่อการสอนที่เหมาะสม เพื่อลดข้อจำกัดด้านทรัพยากรของโรงเรียนขนาดเล็ก
ภายใต้กรอบ KDPS Model โรงเรียนได้เสริมสร้างประสิทธิภาพการบริหารจัดการโดยการกระจายงานและมอบหมายภารกิจนิเทศอย่างเป็นระบบ (Distribution) ให้กับครูแกนนำที่มีความเชี่ยวชาญ พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้ผู้ปกครองและชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาคุณภาพการศึกษา (Participation) เช่น การให้ข้อมูลผู้เรียน การสนับสนุนกิจกรรม และการร่วมติดตามความก้าวหน้า ขณะเดียวกัน ได้มุ่งพัฒนาคุณภาพผู้เรียน (Students Quality) ผ่านการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ Active Learning การซ่อมเสริมและดูแลรายกรณี และการประเมินผลต่อเนื่อง ส่งผลให้การพัฒนาครูและผู้เรียนเป็นไปอย่างสอดคล้องกัน และช่วยแก้ปัญหาคุณภาพการศึกษาได้อย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืน
วัตถุประสงค์
๑. เพื่อพัฒนาระบบนิเทศภายในโรงเรียนเขาดินประชานุกูลให้มีประสิทธิภาพตามมาตรฐานคุณภาพ
๒. เพื่อยกระดับคุณภาพการจัดการเรียนรู้ของครูด้วยการนิเทศโดยใช้ KDPS Model
๓. เพื่อเพิ่มผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและสมรรถนะของนักเรียนให้สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
๔. เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมของครู ผู้ปกครอง และชุมชนในการพัฒนาคุณภาพการศึกษาอย่างยั่งยืน
ผลที่เกิดตามวัตถุประสงค์
๑. ระบบนิเทศภายในได้รับการพัฒนาอย่างมีประสิทธิภาพตามมาตรฐานคุณภาพ โรงเรียนได้พัฒนารูปแบบการนิเทศภายในที่ชัดเจนและเป็นระบบ โดยใช้ KDPS Model ที่บูรณาการกับวงจร PDCA ทำให้สามารถวิเคราะห์ปัญหา วางแผนการนิเทศ (K-Plan) และดำเนินการนิเทศอย่างตรงจุด (D-Do) โดยมีคู่มือและเครื่องมือในการกำกับติดตามที่ได้มาตรฐาน ซึ่งช่วยให้การนิเทศและการบริหารจัดการมีคุณภาพและมีความโปร่งใสสูง โดยโรงเรียนได้รับผลคะแนนการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานอยู่ในระดับ A ดีเยี่ยม
๒. คุณภาพการจัดการเรียนรู้ของครูเพิ่มสูงขึ้นด้วยการนิเทศโดยใช้ KDPS Model การนิเทศและการจัดการความรู้ (K-Knowledge Management) ผ่านกระบวนการ PLC ส่งผลให้ ครูผู้สอนทุกคน มีความรู้ความเข้าใจและสามารถนำเทคนิคการสอนแบบ Active Learning และนวัตกรรมสื่อเทคโนโลยีมาใช้ในการจัดการเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ครูสามารถออกแบบแผนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ และปรับปรุงตนเองอย่างต่อเนื่องจนมีผลงานที่โดดเด่น เช่น ได้รับรางวัลชนะเลิศการประกวดวิธีการปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practice) ด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อการจัดการเรียนการสอน
๓. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและสมรรถนะของนักเรียนสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผลจากการที่ครูมีคุณภาพการสอนที่ดีขึ้น ได้ส่งผลโดยตรงต่อผู้เรียน ทำให้ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ของนักเรียนในทุกกลุ่มสาระเพิ่มสูงขึ้นอย่างชัดเจน ซึ่งสะท้อนผ่านคะแนนเฉลี่ยที่สูงขึ้น และผลการประเมินภายนอก นำไปสู่การบรรลุเป้าหมายสูงสุดของโมเดล คือ S-Students Quality นอกจากนี้ นักเรียนยังได้รับการพัฒนาทักษะที่จำเป็น เช่น ทักษะการคิดวิเคราะห์ การสื่อสาร และมีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ในระดับดีเยี่ยมตามที่ตั้งเป้าหมายไว้
๔. เกิดการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในการพัฒนาคุณภาพการศึกษาอย่างยั่งยืน กระบวนการ P-Participation ได้สร้างการมีส่วนร่วมจากทั้ง ครู ผู้ปกครอง และคณะกรรมการสถานศึกษา ในการร่วมตรวจสอบและประเมินผลการดำเนินงาน โดยใช้ข้อมูลเชิงประจักษ์ในการสะท้อนความคิดเห็นและติดตามความก้าวหน้าของนักเรียนอย่างใกล้ชิด ความร่วมมือนี้ได้ขยายผลไปสู่การสนับสนุนกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนของโรงเรียน ทำให้โรงเรียนสามารถขยายผล KDPS Model ไปยังกลุ่มสาระอื่นและโรงเรียนเครือข่าย สร้างความยั่งยืนในการพัฒนาคุณภาพการศึกษาได้อย่างแท้จริง