ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เรื่อง ชีวิตสัมพันธ์ โดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ (5Es) ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3

การศึกษาครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) พัฒนาประสิทธิภาพของชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เรื่อง ชีวิตสัมพันธ์ โดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ (5Es) ของนักเรียนชั้นประถม ศึกษาปีที่ 3 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 (2) หาดัชนีประสิทธิผลของชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เรื่อง ชีวิตสัมพันธ์ โดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ (5Es) ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 (3) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เรื่อง ชีวิตสัมพันธ์ โดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ (5Es) ของนักเรียนชั้นประถม ศึกษาปีที่ 3 (4) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เรื่อง ชีวิตสัมพันธ์ โดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ (5Es) ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มตัวอย่างได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3/4 โรงเรียนอนุบาลสุพรรณบุรี สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุพรรณบุรี เขต 1 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 จำนวน 46 คนเครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ประกอบด้วย (1) ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เรื่อง ชีวิตสัมพันธ์ โดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ (5Es) ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 4 ชุด (2) แผนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 18 แผน (3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แบบปรนัย ชนิดเลือกตอบ จำนวน 20 ข้อ และ (4) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เรื่อง ชีวิตสัมพันธ์ โดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ (5Es) ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าเฉลี่ย ร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ดัชนีประสิทธิผล (E.I.) และการทดสอบสมมุติฐานใช้การทดสอบค่าที t-test (Dependent Samples)

ผลการวิจัยพบว่า (1) ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เรื่อง ชีวิตสัมพันธ์ โดยใช้กระบวน การสืบเสาะหาความรู้ (5Es) ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ทั้ง 4 ชุด มีประสิทธิภาพ E1/E2 เท่ากับ 96.36/87.71 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้ 80/80 (2) ดัชนีประสิทธิผลของชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เรื่อง ชีวิตสัมพันธ์ โดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ (5Es) ของนักเรียนชั้นประถม ศึกษาปีที่ 3 มีค่าเท่ากับ 0.7911 หรือร้อยละ 79.11 แสดงให้เห็นว่าผู้เรียนมีความรู้เพิ่มขึ้นร้อยละ 79.11 ผู้เรียนมีความก้าวหน้าในการเรียนรู้ (3) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3/4 ที่เรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เรื่อง ชีวิตสัมพันธ์ โดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ (5Es) ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 (4) นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เรื่อง ชีวิตสัมพันธ์ โดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ (5Es) ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.52, S.D = 0.52)

โพสต์โดย ครูแอร์ : [2 ก.ค. 2561 เวลา 00:10 น.]
อ่าน [4308] ไอพี : 184.22.108.6
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 43,407 ครั้ง
โมเดลกระดาษ
โมเดลกระดาษ

เปิดอ่าน 20,320 ครั้ง
กันเกรา
กันเกรา

เปิดอ่าน 65,396 ครั้ง
วิเคราะห์พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ หมวดที่ 9 เทคโนโลยีเพื่อการศึกษา มาตรา 63-69
วิเคราะห์พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ หมวดที่ 9 เทคโนโลยีเพื่อการศึกษา มาตรา 63-69

เปิดอ่าน 12,637 ครั้ง
การค้ำประกันสัญญาอนุญาตให้ ขรก.ลาศึกษาต่อ ตามกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ฯ ฉบับใหม่
การค้ำประกันสัญญาอนุญาตให้ ขรก.ลาศึกษาต่อ ตามกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ฯ ฉบับใหม่

เปิดอ่าน 14,839 ครั้ง
ยิ่งเดิน ยิ่งดีต่อสุขภาพ
ยิ่งเดิน ยิ่งดีต่อสุขภาพ

เปิดอ่าน 210,388 ครั้ง
อิทธิบาท 4 ธรรมะที่ใช้ในการทำงาน สู่ความสำเร็จ
อิทธิบาท 4 ธรรมะที่ใช้ในการทำงาน สู่ความสำเร็จ

เปิดอ่าน 15,210 ครั้ง
ลายมือคนใจมีเมตตาธรรม
ลายมือคนใจมีเมตตาธรรม

เปิดอ่าน 51,284 ครั้ง
การศึกษาไทย…ไปถึงไหนแล้ว?? ผู้เขียน สหัส แก้วยัง
การศึกษาไทย…ไปถึงไหนแล้ว?? ผู้เขียน สหัส แก้วยัง

เปิดอ่าน 6,557 ครั้ง
เอกสาร ก้าวแรกการจัดการเรียนรู้โดยใช้โครงงานเป็นฐาน Project Based Learnning PBL
เอกสาร ก้าวแรกการจัดการเรียนรู้โดยใช้โครงงานเป็นฐาน Project Based Learnning PBL

เปิดอ่าน 10,535 ครั้ง
เมื่อไหร่ควรพูด และเมื่อไหร่ควรเงียบ
เมื่อไหร่ควรพูด และเมื่อไหร่ควรเงียบ

เปิดอ่าน 9,703 ครั้ง
ดีเอสไอเตือนชาวเน็ต!! ระวังติดอีเมล์ไวรัสเรียกค่าไถ่
ดีเอสไอเตือนชาวเน็ต!! ระวังติดอีเมล์ไวรัสเรียกค่าไถ่

เปิดอ่าน 112,743 ครั้ง
รำข้าว คืออะไร ใช้ทำอะไรได้บ้าง
รำข้าว คืออะไร ใช้ทำอะไรได้บ้าง

เปิดอ่าน 34,697 ครั้ง
หลักในการบริหารเวลาของคนเป็นครู
หลักในการบริหารเวลาของคนเป็นครู

เปิดอ่าน 14,533 ครั้ง
ถั่วพร้า
ถั่วพร้า

เปิดอ่าน 3,592 ครั้ง
"เตามหาเศรษฐี" คืออะไร?
"เตามหาเศรษฐี" คืออะไร?

เปิดอ่าน 6,671 ครั้ง
การปลูกกระเทียม
การปลูกกระเทียม
เปิดอ่าน 13,856 ครั้ง
น้ำตกแปลก แหวกแนว มหัศจรรย์ลีลาแห่งสายน้ำ
น้ำตกแปลก แหวกแนว มหัศจรรย์ลีลาแห่งสายน้ำ
เปิดอ่าน 9,768 ครั้ง
สอนลูกรู้จักใช้จ่าย
สอนลูกรู้จักใช้จ่าย
เปิดอ่าน 24,085 ครั้ง
3กลุ่มผลไม้ไทย อุดมสารต้านมะเร็ง
3กลุ่มผลไม้ไทย อุดมสารต้านมะเร็ง
เปิดอ่าน 22,738 ครั้ง
4 เรื่องฝากครรภ์ที่แม่ต้องรู้
4 เรื่องฝากครรภ์ที่แม่ต้องรู้

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ