ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
พัฒนาผลการเรียนรู้ของผู้เรียนโดยใช้ชุดการเรียนรู้ร่วมกับกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้น เรื่อง ระบบนิเวศ วิชาวิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3

ชื่อเรื่อง รายงานการพัฒนาผลการเรียนรู้ของผู้เรียนโดยใช้ชุดการเรียนรู้ร่วมกับกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้น เรื่อง ระบบนิเวศ วิชาวิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3

ผู้ศึกษาค้นคว้า นางวรรณเพ็ญ คำชนะชัย

ปีที่ศึกษาค้นคว้า 2560

บทคัดย่อ

การศึกษาค้นคว้าครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) พัฒนากิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้ชุดการเรียนรู้ร่วมกับกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้น เรื่อง ระบบนิเวศ วิชาวิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 (2) เพื่อศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียนที่เรียนโดยใช้ชุดการเรียนรู้ร่วมกับกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้น เรื่อง ระบบนิเวศ วิชาวิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 (3) เพื่อศึกษาเจตคติของนักเรียนต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้ชุดการเรียนรู้ร่วมกับกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้น เรื่องระบบนิเวศ วิชาวิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนหนองตูมหนองงูเหลือม สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 1 จำนวน 17 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้าได้แก่ (1) ชุดการเรียนรู้จำนวน 6 ชุด (2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 1 ฉบับ จำนวน 30 ข้อ ที่มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.95 และ (3) แบบวัดเจตคติของนักเรียนที่มีต่อชุดการเรียนรู้ จำนวน 20 ข้อ มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.895 ดำเนินการทดลองเพื่อหาประสิทธิภาพของชุดการเรียนรู้ตามกระบวนการ 1:1 ปรับปรุงในส่วนที่บกพร่องและทดลองซ้ำตามกระบวนการ 1:3 ปรับปรุงแก้ไขให้สมบูรณ์และนำไปทดลองตามกระบวนการ 1:100 หรือภาคสนาม ซึ่งได้ค่าประสิทธิภาพของชุดการเรียนรู้ (E1/E2) เท่ากับ 82.22/81.11,83.83/82.22 และ 82.86/81.19 ตามลำดับ แล้วนำชุดการเรียนรู้ไปใช้ประกอบการเรียนการสอนกับนักเรียนกลุ่มตัวอย่าง ตามแผนการจัดการเรียนรู้ที่สร้างขึ้น นำผลการทดลองมาหาประสิทธิภาพของการจัดการเรียนรู้ (E1/E2) ใช้ค่าสถิติ t-test เพื่อศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน และใช้ค่า x ̅ และ S.D. ในการศึกษาเจตคติของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่มีต่อชุดการเรียนรู้

ผลการศึกษาพบว่า (1) การจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้ชุดการเรียนรู้ร่วมกับกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้น เรื่อง ระบบนิเวศ วิชาวิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีประสิทธิภาพ เท่ากับ 84.51/81.18 (2) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่เรียนโดยใช้ชุดการเรียนรู้ร่วมกับกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้น เรื่อง ระบบนิเวศ วิชาวิทยาศาสตร์ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 พบว่า ค่าคะแนนเฉลี่ยผลการทดสอบหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 (3) เจตคติของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่มีต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้ชุดการเรียนรู้ ร่วมกับกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้น เรื่อง ระบบนิเวศ วิชาวิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยส่วนรวมมีค่าคะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 4.54 อยู่ในระดับเห็นด้วยมากที่สุด และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.57

โดยสรุป การจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้ชุดการเรียนรู้ร่วมกับกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้น เรื่อง ระบบนิเวศ วิชาวิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีประสิทธิภาพเหมาะสม สามารถกระตุ้นและสร้างแรงจูงใจให้นักเรียนเกิดความสนใจในการเรียน นักเรียนมีเจตคติที่ดีต่อการเรียนมาก ส่งผลให้นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น จึงควรสนับสนุนให้ครูนำไปใช้ในการจัดการเรียนการสอนต่อไป

โพสต์โดย BM : [5 ธ.ค. 2561 เวลา 21:30 น.]
อ่าน [4364] ไอพี : 49.48.112.64
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โพสต์โดย

คุณ BM

  ความคิดเห็นที่ 1

ขอชื่นชมผลงานครับ

วันที่โพสต์ [5 ธ.ค. 2561 เวลา 21:32 น.] ไอพี : [49.48.112.64] หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 23,148 ครั้ง
Franck Muller นาฬิกาไม่เรียงเลข โดดไปมา คลิกดูซิว่าทำงานยังไง
Franck Muller นาฬิกาไม่เรียงเลข โดดไปมา คลิกดูซิว่าทำงานยังไง

เปิดอ่าน 22,413 ครั้ง
วัฎจักรการใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อการวิจัย (Internet research cycle)
วัฎจักรการใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อการวิจัย (Internet research cycle)

เปิดอ่าน 194 ครั้ง
ซื้อขาย มอเตอร์ไซค์กับ ENNXO แพลตฟอร์มออนไลน์สำหรับคนรักมอเตอร์ไซค์
ซื้อขาย มอเตอร์ไซค์กับ ENNXO แพลตฟอร์มออนไลน์สำหรับคนรักมอเตอร์ไซค์

เปิดอ่าน 14,054 ครั้ง
อย่าละเลยอาการไหล่ติด
อย่าละเลยอาการไหล่ติด

เปิดอ่าน 12,181 ครั้ง
เช้าควบเที่ยง เสี่ยงโรคอ้วน
เช้าควบเที่ยง เสี่ยงโรคอ้วน

เปิดอ่าน 10,231 ครั้ง
ขีปนาวุธเร็วกว่าเสียง
ขีปนาวุธเร็วกว่าเสียง

เปิดอ่าน 22,372 ครั้ง
วิธีจัดห้องเพื่อพัฒนาสมอง
วิธีจัดห้องเพื่อพัฒนาสมอง

เปิดอ่าน 13,168 ครั้ง
เจ๋งมั๊ยล่ะ ไอเดียอะไรนะ? ของเด็กไทยที่ถูกเลือกไปทดลองในอวกาศ
เจ๋งมั๊ยล่ะ ไอเดียอะไรนะ? ของเด็กไทยที่ถูกเลือกไปทดลองในอวกาศ

เปิดอ่าน 67,144 ครั้ง
การอ่านแบบ Scanning
การอ่านแบบ Scanning

เปิดอ่าน 14,544 ครั้ง
รายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะครุภัณฑ์ จำนวน 5 รายการ
รายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะครุภัณฑ์ จำนวน 5 รายการ

เปิดอ่าน 3,024 ครั้ง
8 วิธี กินปลอดภัย ป้องกันอาหารติดคอ
8 วิธี กินปลอดภัย ป้องกันอาหารติดคอ

เปิดอ่าน 15,838 ครั้ง
วิจัยพบ"ตำลึงทอง"รักษากระดูกพรุน
วิจัยพบ"ตำลึงทอง"รักษากระดูกพรุน

เปิดอ่าน 9,632 ครั้ง
บางอ้อ : ครูพันธุ์ใหม่ หัวใจไฮเทค
บางอ้อ : ครูพันธุ์ใหม่ หัวใจไฮเทค

เปิดอ่าน 9,142 ครั้ง
เคล็ดลับลูกน้อย สมองดีมีคุณธรรม
เคล็ดลับลูกน้อย สมองดีมีคุณธรรม

เปิดอ่าน 14,570 ครั้ง
10 เคล็ดลับ แค่นั่งก็ลดน้ำหนักได้
10 เคล็ดลับ แค่นั่งก็ลดน้ำหนักได้

เปิดอ่าน 10,497 ครั้ง
ชายวัย 70 ปี เหยียบไข่ 108 ฟองไม่แตก
ชายวัย 70 ปี เหยียบไข่ 108 ฟองไม่แตก
เปิดอ่าน 1,595 ครั้ง
Intrend ให้แบบไม่ OUT กับ 5 รูปแบบการสอน Active Learning ที่ครูต้องใช้ในยุคนี้
Intrend ให้แบบไม่ OUT กับ 5 รูปแบบการสอน Active Learning ที่ครูต้องใช้ในยุคนี้
เปิดอ่าน 1,310 ครั้ง
7 พิกัดที่เที่ยวเชียงราย เที่ยวง่ายๆ เที่ยวได้ทั้งปี
7 พิกัดที่เที่ยวเชียงราย เที่ยวง่ายๆ เที่ยวได้ทั้งปี
เปิดอ่าน 21,414 ครั้ง
ฮือฮา! นักวิทยาศาสตร์ค้นพบคลื่นความโน้มถ่วง-ทฤษฎี 100 ปีที่แล้วของไอน์สไตน์!
ฮือฮา! นักวิทยาศาสตร์ค้นพบคลื่นความโน้มถ่วง-ทฤษฎี 100 ปีที่แล้วของไอน์สไตน์!
เปิดอ่าน 15,870 ครั้ง
ไม่อยากเป็นโรคกระดูกพรุน น้ำมะเขือเทศช่วยได้
ไม่อยากเป็นโรคกระดูกพรุน น้ำมะเขือเทศช่วยได้

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ