|
|
ชื่อเรื่อง การพัฒนาการจัดการเรียนรู้ โดยใช้รูปแบบการเรียนรู้ 3P2C โดยใช้สมองเป็นฐาน เพื่อพัฒนาทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาลวัดมเหยงคณ์
ผู้วิจัย นางเสริมศิริ พงษ์ศิลป์
ปีที่วิจัย 2559
บทคัดย่อ
การพัฒนาการจัดการเรียนรู้ โดยใช้รูปแบบการเรียนรู้ 3P2C โดยใช้สมองเป็นฐาน เพื่อพัฒนาทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาล วัดมเหยงคณ์ ใช้รูปแบบการวิจัยและพัฒนา (Research & Development ) โดยมีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนาการจัดการเรียนรู้ โดยใช้รูปแบบการเรียนรู้ 3P2C โดยใช้สมองเป็นฐาน เพื่อพัฒนาทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3โรงเรียนเทศบาลวัดมเหยงคณ์ 2)เพื่อสร้างและหาประสิทธิภาพของการจัดการเรียนรู้ โดยใช้รูปแบบการเรียนรู้ 3P2C โดยใช้สมองเป็นฐานเพื่อพัฒนาทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3โรงเรียนเทศบาลวัดมเหยงคณ์ ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ที่กำหนด 80/80 3.2) 3) เพื่อศึกษาผลการทดลองใช้รูปแบบการเรียนรู้ 3P2C โดยใช้สมองเป็นฐาน เพื่อพัฒนาทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3โรงเรียนเทศบาลวัดมเหยงคณ์ 3.1) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้รูปแบบการเรียนรู้ 3P2C โดยใช้สมองเป็นฐาน เพื่อพัฒนาทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษ สำหรับนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3.2) เพื่อศึกษาทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โดยใช้รูปแบบการเรียนรู้ 3P2C โดยใช้สมองเป็นฐาน เพื่อพัฒนาทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษ และ
4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อรูปแบบการเรียนรู้ 3P2C โดยใช้สมองเป็นฐานเพื่อพัฒนาทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาลวัดมเหยงคณ์ กลุ่มตัวอย่างในการวิจัยครั้งนี้เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3/4 โรงเรียนเทศบาลวัดมเหยงคณ์ สังกัดเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ปีการศึกษา 2559 จำนวน 36 คน ซึ่งได้มาโดยการสุ่มอย่างง่าย ( Simple Random Sampling) ใช้ระยะเวลาทดลองสอนในปีการศึกษา 2559 เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ 1) แผนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 8 แผน 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนแบบปรนัยชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ และ 3) แบบประเมินความพึงพอใจ เป็นแบบมาตรส่วนประมาณค่า (Likert Scale) 5 ระดับ จำนวน 15 ข้อ สถิติที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย (Mean) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน(Standard Deviation ) ค่าร้อยละ (Percentage) และค่า ttest
ผลการวิจัย พบว่า
ผลการพัฒนาและหาประสิทธิภาพของการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการเรียนรู้ 3P2C โดยใช้สมองเป็นฐานเพื่อพัฒนาทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษา ปีที่ 3โรงเรียนเทศบาลวัดมเหยงคณ์ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ที่กำหนด 80/80พบว่าการทดลองแบบเดี่ยว แบบกลุ่มเล็ก และแบบภาคสนาม มีค่าประสิทธิภาพ เท่ากับ 73.23/81.11 82.19/84.07 และ 92.36/88.33 ตามลำดับแสดงว่ามีประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์ 80/80
ผลการเปรียบเทียบคะแนนของการทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของกลุ่มตัวอย่างก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้รูปแบบการเรียนรู้ 3P2Cโดยใช้สมองเป็นฐานเพื่อพัฒนาทักษะ การสื่อสารภาษาอังกฤษสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3โรงเรียนเทศบาลวัดมเหยงคณ์พบว่า ผู้เรียนมีคะแนนทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 แสดงว่าการเรียนโดยใช้รูปแบบการเรียนรู้ 3P2C โดยใช้สมองเป็นฐานเพื่อพัฒนาทักษะ การสื่อสารภาษาอังกฤษผลทำให้นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น
นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการเรียนรู้ 3P2C โดยใช้สมองเป็นฐานเพื่อพัฒนาทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาลวัดมเหยงคณ์ โดยรวมอยู่ในระดับมาก มีความพึงพอใจเป็นรายข้อมากถึงมากที่สุด
|
โพสต์โดย ครูเอ : [23 มี.ค. 2562 เวลา 09:38 น.] อ่าน [4163] ไอพี : 118.173.8.106
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก
|
|
|
|
|
|
|
โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2. ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป
3. สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น
7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป
** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**
|
|
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ เปิดอ่าน 396,441 ครั้ง
| เปิดอ่าน 3,892 ครั้ง
| เปิดอ่าน 8,909 ครั้ง
| เปิดอ่าน 14,063 ครั้ง
| เปิดอ่าน 13,583 ครั้ง
| เปิดอ่าน 8,481 ครั้ง
| เปิดอ่าน 5,817 ครั้ง
| เปิดอ่าน 7,995 ครั้ง
| เปิดอ่าน 18,162 ครั้ง
| เปิดอ่าน 46,750 ครั้ง
| เปิดอ่าน 8,132 ครั้ง
| เปิดอ่าน 12,185 ครั้ง
| เปิดอ่าน 10,459 ครั้ง
| เปิดอ่าน 1,135 ครั้ง
| เปิดอ่าน 36,268 ครั้ง
| |
|
เปิดอ่าน 19,547 ครั้ง
| เปิดอ่าน 16,767 ครั้ง
| เปิดอ่าน 68,795 ครั้ง
| เปิดอ่าน 34,943 ครั้ง
| เปิดอ่าน 10,832 ครั้ง
|
|
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด
|