ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
รายงานผลการศึกษาการพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ตามแนวคิดทฤษฎีคอนสตรัคติวิส

ชื่อเรื่อง การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ตามแนวคิดทฤษฎี

คอนสตรัคติวิสต์ เรื่อง การคูณ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาลวัดกลาง

ชื่อผู้ศึกษา นางพัณต์ณิตา ทองมี ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการ

โรงเรียนเทศบาลวัดกลาง สำนักการศึกษา เทศบาลนครขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น

ปีที่พิมพ์ 2557

บทคัดย่อ

การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้

คณิตศาสตร์ตามแนวคิดทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ เรื่อง การคูณ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาล

วัดกลาง 2) พัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง การคูณ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาลวัดกลาง ให้มีจำนวนนักเรียนไม่น้อยกว่าร้อยละ75 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนร้อยละ 75 ขึ้นไป กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3/3 โรงเรียนเทศบาลวัดกลาง สังกัดสำนักการศึกษา เทศบาลนครขอนแก่น ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2557 จำนวน 32 คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) รูปแบบการศึกษาเป็นการศึกษาเชิงปฏิบัติการ (Action Research) มีวงจรการปฏิบัติการ 4 วงจร คือ วงจรที่ 1 แผนการจัดการเรียนรู้ที่

1–5 วงจรที่ 2 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 6–10 วงจรที่ 3 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 11–13 วงจรที่ 4 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 14–17 เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา แบ่งเป็น 3 ประเภท คือ 1) เครื่องมือที่ใช้ในการทดลองปฏิบัติจริง ได้แก่แผนการจัดการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ตามแนวคิดทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ เรื่อง การคูณ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 17 แผน แต่ละแผนใช้เวลาทำการสอน 1 ชั่วโมง 2) เครื่องมือที่ใช้ในการสะท้อนผลการปฏิบัติ ได้แก่ แบบสังเกตพฤติกรรมการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ แบบบันทึกผลการใช้แผนการจัดการเรียนรู้ แบบสังเกตพฤติกรรมการเรียนของนักเรียน (ด้านทักษะ/กระบวนการ) และ (ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์) แบบสัมภาษณ์นักเรียนเกี่ยวกับกิจกรรมการเรียนรู้ แบบฝึกทักษะท้ายแผน จำนวน 17 ชุด แบบทดสอบท้ายวงจร มี 4 ชุด แต่ละชุดมีจำนวน 20 ข้อ ผลงานนักเรียน 3) เครื่องมือที่ใช้ในการประเมินประสิทธิภาพการจัดการเรียนรู้ได้แก่ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง การคูณ เป็นแบบทดสอบปรนัย 4 ตัวเลือก จำนวน 40 ข้อ ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ผู้ศึกษาได้เก็บรวบรวมข้อมูลจากทุกแผนการจัดการเรียนรู้ด้วยเครื่องมือที่ใช้ในการสะท้อนผลการปฏิบัติ เมื่อสิ้นสุดแต่ละวงจรให้นักเรียนทำแบบทดสอบท้ายวงจรและทำการสะท้อนผลการปฏิบัติ แล้วนำข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์ อภิปราย เพื่อปรับปรุงกิจกรรมการเรียนรู้แต่ละวงจรให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นและปรับใช้ในวงจรต่อไป การวิเคราะห์ข้อมูล ใช้สถิติพื้นฐานคือ ค่าเฉลี่ย (x̄) ร้อยละ และสรุปความเรียง

ผลการศึกษา พบว่า

1. พัฒนากิจกรรมการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ตามแนวคิดทฤษฎีคอนสตรัค

ติวิสต์ เรื่อง การคูณ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาลวัดกลาง เป็นการจัดกิจกรรมที่มุ่งให้นักเรียนได้สร้างความรู้ด้วยตนเองจากสถานการณ์ปัญหาที่สร้างขึ้นให้สอดคล้องกับความสนใจและประสบการณ์ของนักเรียนเพื่อให้เกิดความรอบรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับมโนมติในเรื่องที่เรียน รวมทั้งการพัฒนาทักษะ/กระบวนการทางคณิตศาสตร์ โดยการให้นักเรียนได้เรียนรู้ที่จะแก้ปัญหาด้วยตนเองด้วยวิธีการที่หลากหลาย นักเรียนได้อภิปรายแสดงความคิดเห็นและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นซึ่งกันและกัน โดยมีกิจกรรมการเรียนรู้ ดังนี้ คือ 1) ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน เป็นขั้นที่ผู้เรียนจะได้ทบทวนความรู้เดิม โดยการเล่นเกม เพื่อกระตุ้นให้นักเรียนเกิดความสนใจในการเรียน 2) ขั้นสอน 2.1) ขั้นสร้างความขัดแย้ง

ทางปัญญา จากการเสนอสถานการณ์ปัญหาต่าง ๆ ทำให้นักเรียนเกิดความขัดแย้งทางปัญญา ทำให้เกิดความสนใจและมีแรงจูงใจอยากรู้อยากเห็นเพื่อที่จะขจัดความขัดแย้ง 2.2) ขั้นกิจกรรมไตร่ตรองระดับกลุ่มย่อย นักเรียนได้พุดคุย ซักถาม อภิปราย โต้แย้ง แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับการแก้ปัญหาเหล่านั้นในเวลาเรียน ทำให้ครูได้ทราบว่านักเรียนคิดอะไรอยู่และแก้ปัญหาอย่างไร และการที่นักเรียนได้พูดคุยถึงเหตุผลในการเลือกวิธีการแก้ปัญหาของตนเองให้สมาชิกในกลุ่มได้สนทนาซักถาม อีกทั้งภาษาที่อยู่ในวัยเดียวกันทำให้นักเรียนสามารถเข้าใจวิธีการแก้ปัญหาได้ชัดเจนและรวดเร็วขึ้น 2.3) ขั้นกิจกรรมไตร่ตรองระดับชั้น นักเรียนที่เป็นตัวแทนกลุ่ม สามารถนำเสนอผลงานของกลุ่มได้ แสดงให้เห็นว่า นักเรียนในกลุ่มได้มีการช่วยเหลือกันในการทำให้สมาชิกในกลุ่มทุกคนมีความเข้าใจในวิธีดำเนินการแก้ปัญหาที่กลุ่มได้ร่วมกันสร้างขึ้น นอกจากนั้นครูจะใช้คำถามกระตุ้นให้นักเรียนหาวิธีการแก้ปัญหาเพิ่มเติม นักเรียนพยายามค้นหาวิธีการใหม่ที่แตกต่างจากวิธีการเดิม 3) ขั้นสรุปผลการสร้างโครงสร้างใหม่ทางปัญญา เป็นขั้นที่ช่วยให้นักเรียนได้สรุปแนวคิดหลักการ มโนมติของเนื้อหาสาระการเรียนรู้ ขั้นตอนและแนวทางแก้ปัญหา นักเรียนจะสรุปตามที่นักเรียนเข้าใจ ถึงแม้ว่าการใช้ภาษาของนักเรียนยังไม่ชัดเจนไม่ครอบคลุมไม่เป็นระบบเท่าที่ควร ครูต้องใช้คำถามนำเพื่อช่วยให้นักเรียนสรุปได้และเพื่อให้เกิดความคิดที่เป็นระบบยิ่งขึ้น นักเรียนสามารถสรุปแนวคิดหลักการมโนมติของเนื้อหาสาระการเรียนรู้ ได้ด้วยตนเอง และนำหลักการนั้นไปใช้ในการแก้ปัญหาในสถานการณ์ปัญหาต่าง ๆ ได้ 4) ขั้นฝึกทักษะ ให้นักเรียนทำแบบฝึกทักษะท้ายแผน ในการแก้ปัญหา พบว่า นักเรียนสามารถนำความรู้หรือหลักการมโนมติของเนื้อหาสาระที่เรียนไปใช้ในการแก้ปัญหาต่าง ๆ และสามารถอธิบายการได้มาซึ่งคำตอบได้ถูกต้องด้วยตนเอง เกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น

2. นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เฉลี่ยร้อยละ 81.80 และมีจำนวนนักเรียนที่ผ่าน

เกณฑ์ดังกล่าวคิดเป็นร้อยละ 90.63 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนตั้งแต่ร้อยละ 75 ขึ้นไป

โพสต์โดย ครูหน่อย : [29 ม.ค. 2559 เวลา 21:00 น.]
อ่าน [4573] ไอพี : 1.2.141.80
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โพสต์โดย

คุณ -

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 15,610 ครั้ง
สุดยอดจอดรถขั้นเทพ ทุบสถิติสไลด์เข้าที่จอดแคบที่สุด
สุดยอดจอดรถขั้นเทพ ทุบสถิติสไลด์เข้าที่จอดแคบที่สุด

เปิดอ่าน 17,087 ครั้ง
โมกบ้าน
โมกบ้าน

เปิดอ่าน 12,308 ครั้ง
ซดชา 3 ถ้วยช่วยต้านมะเร็ง ป้องกันโรคเนื้อร้ายของรังไข่สตรีได้
ซดชา 3 ถ้วยช่วยต้านมะเร็ง ป้องกันโรคเนื้อร้ายของรังไข่สตรีได้

เปิดอ่าน 28,622 ครั้ง
"หินถ่วงบวบ"ไอเดียปลูกบวม ได้ผลใหญ่ สวย และยาวมาก
"หินถ่วงบวบ"ไอเดียปลูกบวม ได้ผลใหญ่ สวย และยาวมาก

เปิดอ่าน 17,284 ครั้ง
ติดตั้งสายดินปักขวด อันตราย
ติดตั้งสายดินปักขวด อันตราย

เปิดอ่าน 20,028 ครั้ง
อริยสัจ 4
อริยสัจ 4

เปิดอ่าน 38,068 ครั้ง
สูตรลับการคูณแม่ 9 โดยใช้นิ้วมือทั้ง 10 นิ้ว(สุดยอดครับ)
สูตรลับการคูณแม่ 9 โดยใช้นิ้วมือทั้ง 10 นิ้ว(สุดยอดครับ)

เปิดอ่าน 27,652 ครั้ง
รามี (ramie) สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ เล่มที่ 17
รามี (ramie) สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ เล่มที่ 17

เปิดอ่าน 79,899 ครั้ง
สำนวนไทย
สำนวนไทย

เปิดอ่าน 19,795 ครั้ง
ระกำ
ระกำ

เปิดอ่าน 102,781 ครั้ง
อย่างเทพ! มาดูคลิปที่ใครดูต้องอมยิ้ม เมื่อคุณแม่ชาวญี่ปุ่นเตรียมตัวไปโรงเรียนให้ลูกตอนเช้า
อย่างเทพ! มาดูคลิปที่ใครดูต้องอมยิ้ม เมื่อคุณแม่ชาวญี่ปุ่นเตรียมตัวไปโรงเรียนให้ลูกตอนเช้า

เปิดอ่าน 20,498 ครั้ง
นโยบายสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 - 2565
นโยบายสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 - 2565

เปิดอ่าน 16,119 ครั้ง
รู้ไหมว่า..น้ำพริกตาแดง...ต้านมะเร็งได้
รู้ไหมว่า..น้ำพริกตาแดง...ต้านมะเร็งได้

เปิดอ่าน 9,766 ครั้ง
เคล็ดลับ 12 ข้อ จากแพทย์จีน
เคล็ดลับ 12 ข้อ จากแพทย์จีน

เปิดอ่าน 25,105 ครั้ง
ทาน "ถั่วงอก" แล้วส่งผลต่อสุขภาพอย่างไร
ทาน "ถั่วงอก" แล้วส่งผลต่อสุขภาพอย่างไร

เปิดอ่าน 24,516 ครั้ง
แนวทางปฏิบัติในการจัดหาพัสดุด้วยวิธีตลาดอิเล็กทรอนิกส์ (e-market) และด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding)
แนวทางปฏิบัติในการจัดหาพัสดุด้วยวิธีตลาดอิเล็กทรอนิกส์ (e-market) และด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding)
เปิดอ่าน 31,534 ครั้ง
6 หนทางสู่ความร่ำรวยตั้งแต่อายุยังน้อย
6 หนทางสู่ความร่ำรวยตั้งแต่อายุยังน้อย
เปิดอ่าน 847 ครั้ง
CMS คืออะไรอ่านได้ที่นี่
CMS คืออะไรอ่านได้ที่นี่
เปิดอ่าน 128,519 ครั้ง
สุดยอด! หนังสั้น"เดือนเพ็ญ"ผลงานนักเรียนยอดวิวกว่า2แสนวิวแล้ว
สุดยอด! หนังสั้น"เดือนเพ็ญ"ผลงานนักเรียนยอดวิวกว่า2แสนวิวแล้ว
เปิดอ่าน 18,695 ครั้ง
แคว่ก ๆ! ที่ครอบปากสุนัขรูปปากเป็ด เก๋ ๆ น่าใช้
แคว่ก ๆ! ที่ครอบปากสุนัขรูปปากเป็ด เก๋ ๆ น่าใช้

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ