ชณิดา โคลงชัย.(2558). การพัฒนาแบบรูปการสอนแบบสร้างองค์ความรู้เพื่อส่งเสริมทักษะการสร้างความ รู้คู่คุณธรรมของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนารูปแบบการสอนสร้างองค์ความรู้เพื่อส่งเสริมทักษะการสร้างความรู้คู่คุณธรรม ด้วยกระบวนการวิจัยและพัฒนา(R&D) 4 ขั้นตอนดังนี้
ขั้นที่ 1 สร้างรูปแบบการสอน เป็นการสร้างรูปแบบการสอนและเครื่องมือประกอบการใช้รูปแบบแบบการสอน ได้แก่ แผนการจัดการเรียนรู้ แบบทดสอบทักษะการสร้างความรู้คู่คุณธรรมของนักเรียน แบบสอบถามความคิดเห็นของครูผู้สอน โดยการวิเคราะห์เอกสาร ผลงานวิจัย และประเมินคุณภาพ โดยผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 5 คน
ขั้นที่ 2 ขั้นปรับปรุงคุณภาพรูปแบบการสอน โดยการวิจัยเชิงปฏิบัติการ (Action Research) กับกลุ่มที่คล้ายกับกลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 30 คน โรงเรียนเทศบาลวัดลุ่มมหาชัยชุมพล สังกัดกองการศึกษา เทศบาลนครระยอง ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2557 โดยการจัดการเรียนรู้จำนวน 1 ชุดกิจกรรม และการศึกษานำร่องครูผู้สอนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเทศบาลวัดลุ่มมหาชัยชุมพล สังกัดกองการศึกษา เทศบาลนครระยอง ทดลองจัดการเรียนรู้ จำนวน 1 ชุดกิจกรรม กับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 66 คน
ขั้นที่ 3 ขั้นทดลองใช้รูปแบบการสอน เป็นการทดลองใช้รูปแบบการสอนแบบสร้างองค์ความรู้ เพื่อส่งเสริมทักษะการสร้างความรู้คู่คุณธรรม โดยการวิจัยเชิงทดลองแบบ Nonrandomized control Group Pretest-Posttest Design กับนักเรียนกลุ่มทดลอง คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเทศบาล วัดปากน้ำ สังกัดกองการศึกษา เทศบาลนครระยอง ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2557 จำนวน 21 คน ส่วนนักเรียนกลุ่มควบคุม คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเทศบาลวัดโขดทิมทาราม สังกัดกองการศึกษา เทศบาลนครระยอง ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2557 จำนวน 22 คน วิเคราะห์ผลการ ทดสองสถิติ test for dependent และสถิติ one-way MANOVA
ขั้นที่ 4 ขั้นขยายผลของรูปแบบการสอน เป็นการนำรูปแบบการสอนแบบสร้างองค์ความรู้เพื่อส่งเสริมทักษะการสร้างความรู้คู่คุณธรรม ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ไปให้ครูผู้สอนกลุ่มสาระสังคมศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม จังหวัดระยอง จำนวน 4 โรงเรียนทดลองการจัดการเรียนรู้ ด้วยแผนการจัดการเรียนรู้ ที่ปรับปรุงมาจากการทดลองใช้รูปแบบการสอนและแผนการจัดการเรียนรู้ที่ ผู้ศึกษาเขียนขึ้นเอง โดยทดลองจัดการเรียนรู้กับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2558 จำนวน 1 ชุดกิจกรรมและวิเคราะห์ข้อมูลจากแบบสอบถามความคิดเห็นของครูผู้สอน
ผลการศึกษาสรุปดังนี้
1. รูปแบบการสอนแบบสร้างองค์ความรู้เพื่อส่งเสริมการสร้างความรู้คู่คุณธรรมของนักเรียน
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 พัฒนาขึ้นมีองค์ประกอบ ดังนี้
การวางแผน (Plan) เป็นกระบวนการกำหนดเรื่อง เนื้อหา วิธีการและแนวปฏิบัติในการเรียนรู้
รูปแบบเกี่ยวกับเรื่องที่เลือกไว้ล่วงหน้า
การแสวงหาความรู้ (Inquriry)เป็นกระบวนการค้นหาและรวบรวมความรู้จากแหล่งเรียนรู้ในการเรียนรู้โดยการสังเกต สอบถาม ลงมือปฏิบัติกิจกรรมและบันทึกข้อมูล
การจัดความรู้ (Cassification) เป็นกระบวนการสะท้อนและแลกเปลี่ยนความรู้ที่เกิดจากการเรียนรูจากแหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ โดยการสนทนา แลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างกันและปฏิบัติกิจกรรมตามขั้นตอน
การสรุปความรู้ (Conclusion) เป็นกระบวนการในการทบทวนทำความเข้าใจเกี่ยวกับความรู้ที่ได้โดยการเรียบเรียงให้เป็นระบบแล้วนำความรู้ไปสร้างผลงานโดยการบรรยาย รายงาน นำเสนอผลงาน และสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้
2. ผลการทดลองใช้รูปแบบการสอนแบบสร้างองค์ความรู้เพื่อส่งเสริมทักษะการสร้างความรู้คู่
คุณธรรม ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 เป็นการวิเคราะห์ข้อมูลจากการเปรียบเทียบคะแนนเฉลี่ยทักษะการสร้างความรู้คู่คุณธรรมของนักเรียนระหว่างกลุ่มทดลองกับกลุ่มควบคุม พบว่า
2.1 คะแนนเฉลี่ยทักษะการสร้างความรู้คู่คุณธรรมของนักเรียนระหว่างกลุ่มทดลองและกลุ่ม
ควบคุม ก่อนการใช้รูปแบบการสอบแบบสร้างองค์ความรู้เพื่อส่งเสริมทักษะการสร้างความรู้คู่คุณธรรม ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที 5 ไม่แตกต่างกัน
2.2 คะแนนเฉลี่ยทักษะการสร้างความรู้คู่คุณธรรมของนักเรียนระหว่างกลุ่มทดลองและกลุ่ม
ควบคุม หลังการทดลองใช้รูปแบบการสอนแบบสร้างองค์ความรู้เพื่อส่งเสริมทักษะการสร้างความรู้คู่คุณธรรม ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ 0.01
2.3 คะแนนเฉลี่ยทักษะการสร้างความรู้คู่คุณธรรมของนักเรียนกลุ่มทดลองระหว่างก่อนและ
หลัง การทดลองใช้รูปแบบการสอนแบบสร้างองค์ความรู้ เพื่อส่งเสริมทักษะการสร้างความรู้คู่คุณธรรม ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ 0.01
3. ครูผู้สอนที่ทดลองใช้รูปแบบการสอนแบบการสร้างองค์ความรู้เพื่อส่งเสริมทักษะการสร้าง
ความรู้คู่คุณธรรม ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 เห็นว่ารูปแบบการสอนมีความเหมาะสมในระดับมากถึงมากที่สุด