ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
ผลงานทางวิชาการนางนิตยา ขันตี

บทคัดย่อ

ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ เพื่อส่งเสริม

กระบวนการคิด คุณธรรม จริยธรรม และค่านิยมที่พึงประสงค์ ตามหลักปรัชญา

ของเศรษฐกิจพอเพียง กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม

ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3

ผู้วิจัย นางนิตยา ขันตี ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะครูชำนาญการพิเศษ

โรงเรียนเทศบาลเมืองขลุง ๑ (บุรวิทยาคาร) เทศบาลเมืองขลุง จังหวัดจันทบุรี

ปีที่พิมพ์ 2557

การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยและพัฒนา (R&D) มีวัตถุประสงค์ดังนี้ 1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ เพื่อส่งเสริมกระบวนการคิด คุณธรรมจริยธรรม และค่านิยมที่พึงประสงค์ ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 2) เพื่อพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ เพื่อส่งเสริมกระบวนการคิด คุณธรรมจริยธรรม และค่านิยมที่พึงประสงค์ ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 3) เพื่อทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ เพื่อส่งเสริมกระบวนการคิด คุณธรรมจริยธรรม และค่านิยมที่พึงประสงค์ ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 4) เพื่อประเมินผลรูปแบบการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ เพื่อส่งเสริมกระบวนการคิด คุณธรรมจริยธรรม และค่านิยมที่พึงประสงค์ ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ในประเด็นดังนี้ 4.1) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่ได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมกระบวนการคิด คุณธรรม จริยธรรม และค่านิยมที่พึงประสงค์ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน 4.2) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมกระบวนการคิด คุณธรรม จริยธรรม และค่านิยมที่พึงประสงค์ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 แหล่งข้อมูลและกลุ่มตัวอย่างตามวัตถุประสงค์การวิจัยดังนี้ แหล่งข้อมูลและกลุ่มตัวอย่างตามวัตถุประสงค์การวิจัยตอนที่ 1ได้แก่1) เอกสารหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 และหลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนเทศบาลเมืองขลุง ๑ (บุรวิทยาคาร) กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม 2) เอกสารแนวคิด ทฤษฎี งานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนเพื่อส่งเสริมกระบวนการคิด คุณธรรม จริยธรรม และค่านิยมที่พึงประสงค์ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 3) ครูวิชาสังคมศึกษา จำนวน 8 คน นักเรียน จำนวน 30 คน ผู้ปกครองนักเรียน จำนวน 30 คน แหล่งข้อมูลและกลุ่มตัวอย่างตามวัตถุประสงค์การวิจัยตอนที่ 2 ได้แก่ 1) เอกสารข้อมูลพื้นฐานที่ได้วิเคราะห์ในขั้นตอนที่ 1 2) ผู้เชี่ยวชาญด้านรูปแบบและด้านการสอนวิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม จำนวน 5 คนนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาลเมืองขลุง ๑ (บุรวิทยาคาร) ที่ไม่ใช่กลุ่มตัวอย่างในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2557 จำนวน 30 คน 3) เอกสารตำราเกี่ยวกับทฤษฎีหลักการ กระบวนการคิด และคุณธรรมจริยธรรมและค่านิยมที่พึงประสงค์ และแบบสอบถามความพึงพอใจเครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลและแหล่งข้อมูลและกลุ่มตัวอย่างตามวัตถุประสงค์การวิจัยตอนที่ 3, 4 ได้แก่นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาลเมืองขลุง ๑ (บุรวิทยาคาร) ที่กำลังศึกษาในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2557 จำนวน 1 ห้องเรียน จำนวนนักเรียน 26 คนโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster random Sampling)เครื่องมือในการวิจัยครั้งนี้ประกอบด้วย 1) รูปแบบการเรียนการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญเพื่อส่งเสริมกระบวนการคิด คุณธรรม จริยธรรม และค่านิยมที่พึงประสงค์ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 2) คู่มือการใช้รูปแบบการเรียนการสอน 3) แผนการจัดการเรียนรู้ 4) แบบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 5) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อรูปแบบการเรียนการสอนที่พัฒนาขึ้น การวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้โปรแกรมคำนวณสำเร็จรูป และการวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis) สถิติที่ใช้ได้แก่ การหาค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบความแตกต่างของค่าเฉลี่ยโดยใช้การทดสอบค่าทีแบบไม่อิสระต่อกัน (t-test ชนิด Dependent Samples) Analysis) ผลการวิจัย พบว่า

1. ผลการศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญเพื่อส่งเสริมกระบวนการคิด คุณธรรม จริยธรรม และค่านิยมที่พึงประสงค์ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 พบว่าหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ยึดหลักการและแนวคิดสำคัญคือ มีมาตรฐานการเรียนรู้เป็นเป้าหมายในการพัฒนาผู้เรียน ผลการศึกษาหลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาแบละวัฒนธรรม ในสาระที่ 3 เศรษฐศาสตร์ พบว่า ต้องการให้นักเรียนมีความเข้าใจกระบวนการต่างๆ ผลการศึกษาทฤษฎีการเรียนรู้ พบว่าพฤติกรรมนิยม เป็นการเรียนรู้ผลของการเปลี่ยนแปลงความรู้หรือพฤติกรรม ผลการศึกษาเกี่ยวกับแนวคิดอภิปัญญาในการแก้ปัญหา พบว่าการเข้าใจกระบวนการคิด การควบคุมและตรวจสอบการรู้คิดของตนเอง สามารถเลือกใช้ยุทธวิธีที่เหมาะสมกับการกระทำอย่างใดอย่างหนึ่ง กำกับการคิดของตนเองขณะแก้ปัญหา ประเมินการแก้ปัญหา และเห็นความสำคัญของภาระงาน ผลการศึกษาการพัฒนาทักษะการคิด คุณธรรมจริยธรรมและค่านินมที่พึงประสงค์ ประกอบหนังสือส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรม โดยใช้ รูปแบบการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ เพื่อส่งเสริมกระบวนการคิด คุณธรรมจริยธรรม และค่านิยมที่พึงประสงค์ ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม หมายถึง การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ เพื่อส่งเสริมกระบวนการคิด คุณธรรม จริยธรรม และค่านิยมที่พึงประสงค์ โดยผู้วิจัยได้ออกแบบกิจกรรมการเรียนการสอน โดยนำเนื้อหาสาระการเรียนรู้ เศรษฐศาสตร์ ชุด เศรษฐกิจพอเพียง กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ซึ่งผู้วิจัยได้ทำการคัดเลือกรูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่พัฒนาความรู้และทักษะกระบวนการคิดและพัฒนาคุณธรรม จริยธรรมและค่านิยมที่พึงประสงค์ ที่เหมาะสมกับเนื้อหามาใช้ในการวิจัย เพื่อให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ สอดแทรกคุณธรรมจริยธรรม และคุณลักษณะที่พึงประสงค์ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง หมายถึง พฤติกรรมที่ต้องการให้นักเรียนเกิดขึ้น จากรูปแบบการจัดการเรียนเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ โดยใช้หนังสือนิทานที่มีภาพประกอบเป็นภาพการ์ตูนระบายสีสวยงาม น่าสนใจ และแสดงเหตุการณ์และเนื้อหาที่ผู้วิจัยตั้งใจจะให้สื่อความหมายเกี่ยวกับคุณธรรม จริยธรรม ซึ่งมีจำนวน 10 เรื่อง ได้แก่ 1) ความพอประมาณ 2) เด็กดีมีเหตุผล 3) การมีภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี 4) ความรู้คู่คุณธรรม 5) ความเพียร 6) ความซื่อสัตย์ 7) ความสามัคคี 8) ความกตัญญู 9) ความมีน้ำใจ และ10) ความมีวินัย ผลการศึกษากิจกรรมการเรียนรู้ของผู้เรียน พบว่า 1) ผู้เรียนต้องรับผิดชอบต่อการเรียนรู้ของตนเอง 2) ผู้เรียนจะต้องมีส่วนร่วมในกิจกรรมการเรียนรู้ เข้าร่วมกิจกรรมอย่างกระตือรือร้น และ 3) ผู้เรียนต้องมีการประเมินตนเองรวมทั้งพัฒนาตนเองให้ก้าวหน้า ผลการศึกษาปัญหาในรายวิชาวิทยาศาสตร์ พบว่า 1) ครูมีพื้นฐานความรู้และความสามารถในการถ่ายทอดความรู้ที่แตกต่างกัน 2) พื้นฐานความรู้ของนักเรียนแตกต่างกัน 3) วัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือวิทยาศาสตร์มีไม่เพียงพอต่อการทำปฏิบัติการ ผลการศึกษาความต้องการในการพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนของครู นักเรียนและผู้ปกครอง โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด

2. ผลการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญเพื่อส่งเสริมกระบวนการคิด คุณธรรม จริยธรรม และค่านิยมที่พึงประสงค์ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 พบว่า รูปแบบการเรียนการสอนที่พัฒนาขึ้นมีองค์ประกอบดังนี้

1) หลักการ 2) จุดมุ่งหมาย 3) กระบวนการเรียนรู้ รูปแบบการสอนที่เหมาะสม ดังนี้

การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ เพื่อส่งเสริมกระบวนการคิด คุณธรรม จริยธรรม และค่านิยมที่พึงประสงค์ โดยผู้วิจัยได้ออกแบบกิจกรรมการเรียนการสอน โดยนำเนื้อหาสาระการเรียนรู้ เศรษฐศาสตร์ ชุด เศรษฐกิจพอเพียง กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ซึ่งผู้วิจัยได้ทำการคัดเลือกรูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่พัฒนาความรู้และทักษะกระบวนการคิดและพัฒนาคุณธรรม จริยธรรมและค่านิยมที่พึงประสงค์ ที่เหมาะสมกับเนื้อหามาใช้ในการวิจัย เพื่อให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ ดังนี้ 1) รูปแบบการสอนโดยสร้างศรัทธาและโยนิโสมนสิการ 2) รูปแบบการสอนโดยการทำค่านิยมให้กระจ่าง 3) รูปแบบการสอนโดยใช้กระบวนการสร้างนิสัย 4) รูปแบบการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้เป็นกลุ่ม 5) รูปแบบการสอนเพื่อพัฒนาจริยธรรม 6) รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบอุปนัย ผลการตรวจสอบคุณภาพจากผู้เชี่ยวชาญ 5 คน ในภาพรวมได้ค่าความเหมาะสม/สอดคล้องมีค่าเฉลี่ย ( = 4.60) ซึ่งแสดงว่ารูปแบบการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ เพื่อส่งเสริมกระบวนการคิด คุณธรรมจริยธรรม และค่านิยมที่พึงประสงค์ ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ของนักเรียนประถมศึกษาปีที่ 3 ที่พัฒนาขึ้นมีความเหมาะสม/สอดคล้องเชิงโครงสร้าง สามารถนำไปทดลองใช้ได้และผลการหาประสิทธิภาพ (E1 / E2) โดยการทดลองภาคสนาม (Field Tryout) ได้ค่าประสิทธิภาพของรูปแบบการเรียนการสอนโดย 84.83/84.69 ทดลองกับกลุ่มตัวอย่าง ได้ค่าประสิทธิภาพของรูปแบบการเรียนการสอนโดย 85.28/85.41

3. ผลการทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญเพื่อส่งเสริมกระบวนการคิด คุณธรรม จริยธรรม และค่านิยมที่พึงประสงค์ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 พบว่า ค่าประสิทธิภาพของรูปแบบการเรียนการสอนจากการทดลองกับกลุ่มตัวอย่างได้ค่าประสิทธิภาพ(E1 / E2) ของรูปแบบการเรียนการสอนเท่ากับ 85.28/85.41

4. ผลการประเมินผลของรูปแบบการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญเพื่อส่งเสริมกระบวนการคิด คุณธรรม จริยธรรม และค่านิยมที่พึงประสงค์ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีผลดังนี้

4.1 นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับ .01

4.3 นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนด้วยรูปแบบที่พัฒนาขึ้น อยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.59)

โพสต์โดย รองลือ : [18 ก.ย. 2559 เวลา 10:08 น.]
อ่าน [3427] ไอพี : 223.24.116.84
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โพสต์โดย

คุณ -

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 15,798 ครั้ง
การเลี้ยงกบคอนโดร่วมกับปลาดุก เพลินๆ สร้างรายได้ รับชมกันได้เลยครับ
การเลี้ยงกบคอนโดร่วมกับปลาดุก เพลินๆ สร้างรายได้ รับชมกันได้เลยครับ

เปิดอ่าน 10,644 ครั้ง
 ประโยชน์ของการดื่มน้ำ
ประโยชน์ของการดื่มน้ำ

เปิดอ่าน 16,288 ครั้ง
ผลวิจัยชี้ใบสาบเสือแห้งห้ามเลือดได้ดีกว่าผ้าก๊อซ
ผลวิจัยชี้ใบสาบเสือแห้งห้ามเลือดได้ดีกว่าผ้าก๊อซ

เปิดอ่าน 24,647 ครั้ง
ไขข้อข้องใจ การบ้านยังจำเป็นสำหรับเด็กยุคใหม่หรือไม่?
ไขข้อข้องใจ การบ้านยังจำเป็นสำหรับเด็กยุคใหม่หรือไม่?

เปิดอ่าน 12,016 ครั้ง
จากหัวใจดวงน้อยๆ ที่อยากบอกรักพ่อหลวง ผ่านบทเพลง "เล่าสู่หลานฟัง"
จากหัวใจดวงน้อยๆ ที่อยากบอกรักพ่อหลวง ผ่านบทเพลง "เล่าสู่หลานฟัง"

เปิดอ่าน 28,278 ครั้ง
แตงกวา พืชใช้น้ำน้อย ปลูกข้างบ้านได้
แตงกวา พืชใช้น้ำน้อย ปลูกข้างบ้านได้

เปิดอ่าน 28,716 ครั้ง
5 วิธีชำระหนี้ กยศ. ให้หมดอย่างรวดเร็ว
5 วิธีชำระหนี้ กยศ. ให้หมดอย่างรวดเร็ว

เปิดอ่าน 1,095 ครั้ง
ประโยชน์ของการดื่มน้ำเปล่า
ประโยชน์ของการดื่มน้ำเปล่า

เปิดอ่าน 14,992 ครั้ง
รวมสถานที่เที่ยวงานวันเด็กแห่งชาติปี 52
รวมสถานที่เที่ยวงานวันเด็กแห่งชาติปี 52

เปิดอ่าน 10,215 ครั้ง
พฤติกรรมทำร้ายกระดูกสันหลัง
พฤติกรรมทำร้ายกระดูกสันหลัง

เปิดอ่าน 15,009 ครั้ง
10 โรคเรื้อรังของคนวัย 40 อัพ
10 โรคเรื้อรังของคนวัย 40 อัพ

เปิดอ่าน 22,561 ครั้ง
แชร์ประสบการณ์หัดพูด อังกฤษ ฉบับ Advance ได้ผลจริง
แชร์ประสบการณ์หัดพูด อังกฤษ ฉบับ Advance ได้ผลจริง

เปิดอ่าน 105,484 ครั้ง
คำศัพท์ภาษาอังกฤษเกี่ยวกับป้ายบอกสถานที่และชื่อห้องในโรงเรียน
คำศัพท์ภาษาอังกฤษเกี่ยวกับป้ายบอกสถานที่และชื่อห้องในโรงเรียน

เปิดอ่าน 32,092 ครั้ง
ประโยชน์ของมัลติมีเดีย
ประโยชน์ของมัลติมีเดีย

เปิดอ่าน 10,239 ครั้ง
วิธีเอาตัวรอดจากไฟไหม้
วิธีเอาตัวรอดจากไฟไหม้

เปิดอ่าน 11,160 ครั้ง
เหนือกว่า
เหนือกว่า 'กิมจิฟีเวอร์' 'ศัลยกรรมไทย'
เปิดอ่าน 12,007 ครั้ง
6 เหตุผลน่าแปลกใจ ทำไมถึงนอนไม่หลับ
6 เหตุผลน่าแปลกใจ ทำไมถึงนอนไม่หลับ
เปิดอ่าน 19,751 ครั้ง
สมุนไพรไทยลดความอ้วน ลดไขมัน ตัวช่วยเพื่อหุ่นสวยเป๊ะ
สมุนไพรไทยลดความอ้วน ลดไขมัน ตัวช่วยเพื่อหุ่นสวยเป๊ะ
เปิดอ่าน 31,011 ครั้ง
เคยสังเกต โลโก้ 7-ELEVEn มั้ย..ทำไม n ถึงตัวเล็ก!!
เคยสังเกต โลโก้ 7-ELEVEn มั้ย..ทำไม n ถึงตัวเล็ก!!
เปิดอ่าน 25,373 ครั้ง
ทำไมจึงไม่บรรจุน้ำอัดลมให้เต็มขวด?
ทำไมจึงไม่บรรจุน้ำอัดลมให้เต็มขวด?

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ