ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
รายงานผลการพัฒนาแบบฝึกทักษะด้านการคิดคำนวณเรื่องการหาร กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้น

ชื่องานศึกษา : รายงานผลการพัฒนาแบบฝึกทักษะด้านการคิดคำนวณเรื่องการหาร

กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3โรงเรียน

บ้านตันหยง

ผู้ศึกษา : นางสาวมาฤนี มามะ

สังกัด : โรงเรียนบ้านตันหยง สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษายะลา

เขต 2

ปีการศึกษา : 2558

บทคัดย่อ

การพัฒนาแบบฝึกทักษะด้านการคิดคำนวณเรื่องการหารกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีวัตถุประสงค์ของการศึกษา คือ 1)เพื่อพัฒนาแบบฝึกทักษะด้านการคิดคำนวณเรื่องการหารของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ประจำปีการศึกษา 2558 ให้มีประสิทธิ์ภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ก่อนและหลังเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะด้านการคิดคำนวณเรื่องการหารและ 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยแบบฝึกทักษะด้านการคิดคำนวณเรื่องการหารของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาประกอบด้วย 1) แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะด้านการคิดคำนวณเรื่องการหารของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 16 ตอน รวม 18 ชั่วโมง2) แบบฝึกทักษะด้านการคิดคำนวณเรื่องการหารของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 16 แผน 18 แบบฝึก3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนด้วยแบบฝึกทักษะด้านการคิดคำนวณเรื่องการหารของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ชนิดเลือกตอบแบบปรนัย 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อและ 4) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยแบบฝึกทักษะด้านการคิดคำนวณเรื่องการหารของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 10 ข้อประชากรที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบ้านตันหยง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษายะลา เขต 2 ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2558 จำนวน 25 คนโดยการคัดกรองจากนักเรียนที่มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนต่ำในหน่วยการเรียนรู้เรื่องการหาร ที่ผู้รายงานเป็นผู้สอน การวิเคราะห์ข้อมูลใช้ค่าสถิติ ร้อยละ และค่าเฉลี่ย

ผลการศึกษาพบว่า

1. ชุดแบบฝึกทักษะด้านการคิดคำนวณเรื่องการหารของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3ประจำปีการศึกษา 2558 โรงเรียนบ้านตันหยง สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษายะลา เขต 2มีค่าประสิทธิภาพเท่ากับ 81.91/86.85แสดงว่า มีประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์ 80/80

2.นักเรียนมีระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน โดยมีค่าพัฒนาเฉลี่ยคิดเป็นร้อยละ 86.85

3.ผลการประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อแบบฝึกทักษะด้านการคิดคำนวณเรื่องการหารของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนบ้านตันหยง สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษายะลา เขต 2 เฉลี่ยโดยรวมอยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.48 คิดเป็นร้อยละ 89.57

ข้อเสนอแนะ

1.จากผลของการใช้ชุดแบบฝึกทักษะด้านการคิดคำนวณเรื่องการหารของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 พบว่า มีประสิทธิภาพของชุดฝึกทักษะเท่ากับ81.91/86.85ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนด ดังนั้นครูผู้สอนกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์สามารถนำชุดแบบฝึกทักษะดังกล่าวไปเป็นเครื่องมือในการพัฒนาแบบฝึกทักษะด้านการคิดคำนวณเรื่องการหารของนักเรียนในระดับชั้นต่างๆ ต่อไป

2.จากผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ก่อนและหลังเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะด้านการคิดคำนวณเรื่องการหาร พบว่าผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน มีค่าเฉลี่ย 26.05 คิดเป็นร้อยละ 86.85 นักเรียนมีพัฒนาการด้านการคิดคำนวณเรื่องการหารสูงขึ้น สามารถนำไปใช้ในการพัฒนาการเรียนการสอนกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ต่อไปได้

3. จากผลการประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยแบบฝึกทักษะด้านการคิดคำนวณเรื่องการหารของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 พบว่า ประเด็นด้านกิจกรรมการเรียนรู้เปิดโอกาสให้นักเรียนแสดงความคิดเห็น ทำให้นักเรียนกล้าคิด กล้าตอบ กล้าตัดสินใจ มีค่าเฉลี่ยต่ำสุดเท่ากับ 4.00คิดเป็นร้อยละ 80.00 ดังนั้นครูผู้สอนควรเปิดโอกาสให้นักเรียนแสดงความคิดเห็นกล้าคิด กล้าตอบกล้าตัดสินใจ มีความเหมาะสมมากยิ่งขึ้น

โพสต์โดย นี : [7 พ.ย. 2559 เวลา 16:16 น.]
อ่าน [3695] ไอพี : 101.51.115.96
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โพสต์โดย

คุณ -

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 19,391 ครั้ง
ร่าง พรฎ.ว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้าง และการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ....
ร่าง พรฎ.ว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้าง และการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ....

เปิดอ่าน 50,275 ครั้ง
คำกล่าวทักทาย กลุ่มประเทศอาเซียน
คำกล่าวทักทาย กลุ่มประเทศอาเซียน

เปิดอ่าน 20,706 ครั้ง
รวมคำอวยพรวันตรุษจีน พร้อมคำแปล
รวมคำอวยพรวันตรุษจีน พร้อมคำแปล

เปิดอ่าน 605 ครั้ง
ประโยชน์ของการนวดเท้าและขา
ประโยชน์ของการนวดเท้าและขา

เปิดอ่าน 12,011 ครั้ง
ทำความรู้จัก Mosaic กันก่อน
ทำความรู้จัก Mosaic กันก่อน

เปิดอ่าน 10,309 ครั้ง
7 วิธี เอาชนะริ้วรอย
7 วิธี เอาชนะริ้วรอย

เปิดอ่าน 18,518 ครั้ง
สาเหตุใหญ่ของป่วยเป็นมะเร็ง มาจากนิสัยการกินอยู่แต่ละคน
สาเหตุใหญ่ของป่วยเป็นมะเร็ง มาจากนิสัยการกินอยู่แต่ละคน

เปิดอ่าน 144,197 ครั้ง
ขั้นตอนปลูกผักบุ้งง่ายๆ ในตะกร้า แบบไฮโดรฯไม่ต้องใช้ดิน
ขั้นตอนปลูกผักบุ้งง่ายๆ ในตะกร้า แบบไฮโดรฯไม่ต้องใช้ดิน

เปิดอ่าน 18,944 ครั้ง
ประโยชน์และสรรพคุณทางยาของกระเทียม
ประโยชน์และสรรพคุณทางยาของกระเทียม

เปิดอ่าน 9,324 ครั้ง
แค่เครียด ก็ป่วยแล้ว
แค่เครียด ก็ป่วยแล้ว

เปิดอ่าน 9,826 ครั้ง
ขับเคลื่อนการศึกษาไทยอย่างไร จึงถูกใจประชาชน โดย ดร.ดำรงค์ ชลสุข
ขับเคลื่อนการศึกษาไทยอย่างไร จึงถูกใจประชาชน โดย ดร.ดำรงค์ ชลสุข

เปิดอ่าน 17,226 ครั้ง
ระบบการศึกษา กุญแจความสำเร็จของเกาหลี
ระบบการศึกษา กุญแจความสำเร็จของเกาหลี

เปิดอ่าน 17,558 ครั้ง
ดื่มล้างพิษ เพิ่มพลัง ตับ แข็งแรง
ดื่มล้างพิษ เพิ่มพลัง ตับ แข็งแรง

เปิดอ่าน 12,219 ครั้ง
จะยุบโรงเรียนขนาดเล็กอีกกี่แห่ง? : รองศาสตราจารย์ ดร.สมบัติ นพรัก
จะยุบโรงเรียนขนาดเล็กอีกกี่แห่ง? : รองศาสตราจารย์ ดร.สมบัติ นพรัก

เปิดอ่าน 97,808 ครั้ง
ระบบสารสนเทศทางธุรกิจ
ระบบสารสนเทศทางธุรกิจ

เปิดอ่าน 18,709 ครั้ง
สักขี คำที่คุ้นหู ที่จริงคือพืชนั่นเอง
สักขี คำที่คุ้นหู ที่จริงคือพืชนั่นเอง
เปิดอ่าน 8,778 ครั้ง
ลดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ต้องเร่งแก้ไขพฤติกรรม
ลดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ต้องเร่งแก้ไขพฤติกรรม
เปิดอ่าน 83,606 ครั้ง
5 สายอาชีพควรเรียน เป็นที่ต้องการในอีก 5 ปี
5 สายอาชีพควรเรียน เป็นที่ต้องการในอีก 5 ปี
เปิดอ่าน 14,718 ครั้ง
กิน เบต้าแคโรทีน มากไป เสี่ยงมะเร็ง
กิน เบต้าแคโรทีน มากไป เสี่ยงมะเร็ง
เปิดอ่าน 20,136 ครั้ง
มหัศจรรย์ "ผึ้งบำบัด" รักษาอาการเรื้อรัง-ไมเกรน-อัลไซเมอร์ กระแสตอบรับล้นหลาม
มหัศจรรย์ "ผึ้งบำบัด" รักษาอาการเรื้อรัง-ไมเกรน-อัลไซเมอร์ กระแสตอบรับล้นหลาม

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ