ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

รายงานการประเมินโครงการส่งเสริมและพัฒนาระบบประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา

บทคัดย่อ

ชื่อเรื่อง รายงานการประเมินโครงการส่งเสริมและพัฒนาระบบประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา

ผู้รับผิดชอบ นางสาวียะ พันธุ์ฤทธิ์

ระยะเวลาในการประเมินโครงการ เดือน ตุลาคม 2558 ถึง เดือน กันยายน 2559

วัตถุประสงค์ของการประเมินโครงการ

1. เพื่อประเมินสภาพการดำเนินโครงการส่งเสริมและพัฒนาระบบประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา ในด้านสภาวะแวดล้อม ด้านปัจจัย ด้านกระบวนการ และด้านผลผลิต

2. เพื่อศึกษาปัญหา อุปสรรคและข้อเสนอแนะในการดำเนินโครงการส่งเสริมและ

พัฒนาระบบประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา

วิธีดำเนินการประเมินโครงการ

การประเมินโครงการส่งเสริมและพัฒนาระบบประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา ดำเนินการในระหว่างเดือน ตุลาคม 2558 ถึง เดือน กันยายน 2559 โดยใช้กลุ่มตัวอย่าง ประกอบด้วย บุคลากรของสถานศึกษา จำนวน 28 คน คณะกรรมการสถานศึกษา จำนวน 7 คน และกลุ่มเป้าหมายผู้เรียน ผู้รับบริการ จำนวน 139 คน รวมทั้งสิ้นจำนวน 174 คน โดย กลุ่มตัวอย่างเลือกกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง (Purposive sampling) โดยจะเลือกศึกษาจากประชากรที่มีลักษณะตรงตามวัตถุประสงค์ที่จะศึกษา จากกลุ่มประชากรทั้งหมด สรุปได้ดังนี้ ดังนี้

- ครูและบุคลากรสถานศึกษา จำนวน 28 คน

- คณะกรรมการสถานศึกษา จำนวน 7 คน

- กลุ่มเป้าหมายผู้เรียน ผู้รับบริการของสถานศึกษา จำนวน 139 คน

การประเมินครั้งนี้มีเครื่องมือที่ใช้ในการประเมิน 2 ฉบับดังนี้

2.1 แบบสอบถามความคิดเห็นของครู บุคลากรผู้รับผิดชอบงานประกันคุณภาพ

การศึกษาและคณะกรรมการสถานศึกษา ด้านสภาพแวดล้อม ด้านปัจจัยนำเข้าและด้านกระบวนการ ของโครงการ

2.3 แบบสอบถามความพึงพอใจโดยสอบถามกลุ่มเป้าหมายผู้เรียนผู้รับบริการ ที่มี

ต่อด้านผลผลิตของโครงการ

โดยเก็บรวบรวมจากกลุ่มตัวอย่างและนำมาวิเคราะห์ข้อมูงโดยใช้ สถิติ และ S.D. ในการวิเคราะห์ข้อมูล

ผลการประเมินโครงการ

ผลการประเมินโโครงการส่งเสริมและพัฒนาระบบประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา โดยรวม 4 ด้าน พบว่า อยู่ในระดับมาก ( = 4.16) เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่า มีความคิดเห็นอยู่ในระดับมากทั้ง 4 ด้าน เรียงลำดับตามค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อย ได้แก่ ด้านผลผลิต มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.40 ด้านปัจจัย มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.11 ด้านกระบวนการ มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.09 ด้านสภาวะแวดล้อม มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.03 ตามลำดับ โดยใช้รูปแบบการประเมินแบบ CIPP Model ซึ่งข้อมูลผู้ตอบแบบสอบถาม พบว่า ส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง จำนวน 96 คน คิดเป็นร้อยละ 55.18 และเป็นเพศชาย จำนวน78 คน คิดเป็นร้อยละ 44.82 สภาพส่วนตัวของผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่มีอายุ 41 – 50 ปี จำนวน 59 คน คิดเป็นร้อยละ 33.91 รองลงมามีอายุ 20 – 30 ปี จำนวน 51 คน คิดเป็นร้อยละ 29.32 อายุ 31 – 40 ปี จำนวน 41 คน คิดเป็นร้อยละ 23.56 อายุ 51 ปีขึ้นไป จำนวน 17 คน คิดเป็นร้อยละ 9.77 และมีอายุ ต่ำกว่า 20 ปี จำนวน 6 คน คิดเป็นร้อยละ 3.44 สภาพส่วนตัวของผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ส่วนใหญ่มีระดับการศึกษาอยู่ในระดับมัธยมศึกษา จำนวน 77 คน คิดเป็นร้อยละ 44.26 รองลงมามีระดับการศึกษาอยู่ในระดับอุดมศึกษา จำนวน 60 คน คิดเป็นร้อยละ 34.48 และระดับประถมศึกษา จำนวน 37 คน คิดเป็นร้อยละ 21.26 และสรุปผลการประเมินทั้ง 4 ด้านตามรูปแบบการประเมิน CIPP Model รายละเอียดดังนี้

ด้านสภาวะแวดล้อม ( Context Evaluation ) ผลการประเมินโครงการส่งเสริมและพัฒนาระบบประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา พบว่า มีความคิดเห็นอยู่ในระดับมาก ( = 4.03) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า มีความคิดเห็นอยู่ในระดับมากทั้ง 5 ข้อ เรียงลำดับตามค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อย 3 ลำดับ ได้แก่ สถานศึกษานำแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาของสถานศึกษามาใช้เพื่อจัดดำเนินโครงการได้ มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.17 สถานศึกษามีการประชุมชี้แจงวัตถุประสงค์ของโครงการให้บุคลากรทราบ 4.09 สถานศึกษานำนโยบายการประกันคุณภาพภายในสถานศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาใช้วางแผนดำเนินโครงการ มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.97

ด้านปัจจัย ( Input Evaluation ) ผลการประเมินโครงการส่งเสริมและพัฒนาระบบประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา พบว่า มีความคิดเห็นอยู่ในระดับมาก ( = 4.11) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า มีความคิดเห็นอยู่ในระดับมากทั้ง 5 ข้อ เรียงลำดับตามค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อย 3 ลำดับ ได้แก่ บุคลากรสถานศึกษามีความรู้ความเข้าในการดำเนินโครงการ มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.29 ความร่วมมือระหว่างสถานศึกษากับหน่วยงานเครือข่ายในการดำเนินกิจกรรม และสถานที่เหมาะสมในการดำเนินกิจกรรม มีค่าเฉลี่ยเท่ากัน คือ 4.17 งบประมาณในการดำเนินงานตามโครงการเพียงพอในการดำเนินการ มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.97 ตามลำดับ

ด้านกระบวนการ ( Process Evaluation ) ผลการประเมินโครงการส่งเสริมและพัฒนาระบบประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา พบว่า มีความคิดเห็นอยู่ในระดับมาก ( = 4.09) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า มีความคิดเห็นอยู่ในระดับมากทั้ง 7 ข้อ เรียงลำดับตามค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อย 3 ลำดับ ได้แก่ แต่งตั้งคณะกรรมการรับผิดชอบแต่ละมาตรฐานตัวบ่งชี้ มีความเหมาะสมเพียงพอเพื่อให้เกิดการพัฒนา มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.29 มีการดำเนินงานตามโครงการพัฒนาเป็นไปตามแผนงานที่กำหนดไว้ มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.23 การประเมินผลการดำเนินโครงการได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์เป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.20 เรียงตามลำดับ

ด้านผลผลิต ( Product Evaluation ) ผลการประเมินโครงการส่งเสริมและพัฒนาระบบประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา พบว่า มีความคิดเห็นอยู่ในระดับมาก ( = 4.40 ) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า มีความคิดเห็นอยู่ในระดับมากทั้ง 5 ข้อใหญ่ 36 ข้อย่อย เรียงลำดับตามค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อย 3 ลำดับ ได้แก่ ด้านครู/วิทยากรผู้ให้ความรู้ มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.79 ด้านการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.58 ด้านการสังเกตกลุ่มเป้าหมายผู้รับบริการภายหลังจากการเข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ในแต่ละด้าน ประกอบด้วย ด้านทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ด้านการทำงานร่วมกับผู้อื่น ด้านการนำไปใช้ประโยชน์ มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.38 ตามลำดับ

-----------------------------------

โพสต์โดย สาวียะ พันธุ์ฤทธิ์ : [18 มี.ค. 2560 เวลา 12:21 น.]
อ่าน [64080] ไอพี : 203.172.203.65
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 11,473 ครั้ง
ปริญญาโทกับคนทำงาน ….สำคัญจริงหรือ?
ปริญญาโทกับคนทำงาน ….สำคัญจริงหรือ?

เปิดอ่าน 60,602 ครั้ง
"โซเชียล เน็ตเวิร์ก" ช่วยพัฒนาการเรียนการสอน
"โซเชียล เน็ตเวิร์ก" ช่วยพัฒนาการเรียนการสอน

เปิดอ่าน 38,547 ครั้ง
ปิดเทอมเพิ่มทักษะประสบการณ์อยู่ที่บ้านได้ความรู้คู่เพลิดเพลิน แหล่งเรียนรู้ออนไลน์ เที่ยวไป เรียนไปกับ สสวท.
ปิดเทอมเพิ่มทักษะประสบการณ์อยู่ที่บ้านได้ความรู้คู่เพลิดเพลิน แหล่งเรียนรู้ออนไลน์ เที่ยวไป เรียนไปกับ สสวท.

เปิดอ่าน 19,243 ครั้ง
ทําไมลูกไม่หายไอสักที ?
ทําไมลูกไม่หายไอสักที ?

เปิดอ่าน 13,437 ครั้ง
ปากเหม็น...ทำไงดี!!!
ปากเหม็น...ทำไงดี!!!

เปิดอ่าน 17,223 ครั้ง
ความเป็นมาของคำ "ธรรมกาย" โดย เสฐียรพงษ์ วรรณปก
ความเป็นมาของคำ "ธรรมกาย" โดย เสฐียรพงษ์ วรรณปก

เปิดอ่าน 16,752 ครั้ง
เตือนใช้ "บิททอร์เรนท์" โหลดคลิปโป๊มีโทษติดคุก
เตือนใช้ "บิททอร์เรนท์" โหลดคลิปโป๊มีโทษติดคุก

เปิดอ่าน 12,235 ครั้ง
"หนี้ครู" ปัญหาอมตะคู่แม่พิมพ์ของชาติ
"หนี้ครู" ปัญหาอมตะคู่แม่พิมพ์ของชาติ

เปิดอ่าน 11,974 ครั้ง
จดหมายฉบับที่ 36 ถึงนายกรัฐมนตรี+รมว.ศธ. เรื่อง ยกเลิกวิธีนำร่องในการปรับลดเวลาเรียน
จดหมายฉบับที่ 36 ถึงนายกรัฐมนตรี+รมว.ศธ. เรื่อง ยกเลิกวิธีนำร่องในการปรับลดเวลาเรียน

เปิดอ่าน 11,627 ครั้ง
จับตาอนาคตทีวีไทย กับการเปลี่ยนแปลงจากระบบอนาล็อกสู่ดิจิตอล
จับตาอนาคตทีวีไทย กับการเปลี่ยนแปลงจากระบบอนาล็อกสู่ดิจิตอล

เปิดอ่าน 30,895 ครั้ง
หลัก 10 ประการ ช่วยให้นอนหลับ
หลัก 10 ประการ ช่วยให้นอนหลับ

เปิดอ่าน 19,109 ครั้ง
กินปลาจะช่วยป้องกันรักษาชีวิต สกัดหลอดเลือดตีบตัน
กินปลาจะช่วยป้องกันรักษาชีวิต สกัดหลอดเลือดตีบตัน

เปิดอ่าน 21,985 ครั้ง
กินรสจืด ยืดชีวิต
กินรสจืด ยืดชีวิต

เปิดอ่าน 25,843 ครั้ง
สรรพคุณทางยาของ "บวบหอม"
สรรพคุณทางยาของ "บวบหอม"

เปิดอ่าน 11,191 ครั้ง
อิ่มอร่อย หลับสบาย
อิ่มอร่อย หลับสบาย

เปิดอ่าน 10,564 ครั้ง
อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว
อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว
เปิดอ่าน 58,672 ครั้ง
"ครูเอฟฟี่" คุณครูสายบ้า! ฉีกกฎเกณฑ์การสอนหนังสือแบบเดิม คลิปจากรายการเล่นใหญ่ จัดใหญ่ (12 ก.พ. 61)
"ครูเอฟฟี่" คุณครูสายบ้า! ฉีกกฎเกณฑ์การสอนหนังสือแบบเดิม คลิปจากรายการเล่นใหญ่ จัดใหญ่ (12 ก.พ. 61)
เปิดอ่าน 20,856 ครั้ง
เกณฑ์สอบผู้บริหารสถานศึกษา ปี 2555 (ว7-ว8)
เกณฑ์สอบผู้บริหารสถานศึกษา ปี 2555 (ว7-ว8)
เปิดอ่าน 604 ครั้ง
4 โครงการทาวน์โฮมพร้อมอยู่ในทำเลดัง มีหลายช่วงราคาให้เลือก
4 โครงการทาวน์โฮมพร้อมอยู่ในทำเลดัง มีหลายช่วงราคาให้เลือก
เปิดอ่าน 19,759 ครั้ง
การประยุกต์ทฤษฎีการแพร่กระจาย การปรับปรุงโปรแกรมสื่อในโรงเรียน
การประยุกต์ทฤษฎีการแพร่กระจาย การปรับปรุงโปรแกรมสื่อในโรงเรียน

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
ติวสอบ GED
ติวสอบ SAT
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ