ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวทฤษฎีการสร้างความรู้บูรณาการ หลักไตรสิกขาเพื่อส่งเสริมทักษะการค

ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวทฤษฎีการสร้างความรู้บูรณาการ

หลักไตรสิกขาเพื่อส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์

เรื่องการหาร สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4

ชื่อผู้วิจัย นางชนิสรา อริยะเดชช์

หน่วยงาน โรงเรียนเทศบาลวัดเหนือ เทศบาลเมืองร้อยเอ็ด จังหวัดร้อยเอ็ด

ปีที่วิจัย 2560

บทคัดย่อ

การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวทฤษฎีการสร้างความรู้บูรณาการหลักไตรสิกขา

เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง การหาร สำหรับนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 มีวัตถุประสงค์ของการวิจัยเพื่อ 1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานและความต้องการในการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวทฤษฎีการสร้างความรู้บูรณาการหลักไตรสิกขาเพื่อส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง การหาร ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 2) เพื่อพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวทฤษฎีการสร้างความรู้บูรณาการหลักไตรสิกขาเพื่อส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง การหาร ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 3) เพื่อทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวทฤษฎีการสร้างความรู้บูรณาการหลักไตรสิกขาเพื่อส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง การหาร ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 4)เพื่อประเมินและปรับปรุงรูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวทฤษฎีการสร้างความรู้บูรณาการหลักไตรสิกขาเพื่อส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง การหาร ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4

กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาวิจัยแบ่งเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มที่ใช้ในการศึกษาข้อมูลพื้นฐานและความต้องการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ ประกอบด้วยผู้บริหาร จำนวน 8 คน ครูผู้สอนคณิตศาสตร์ระดับประถมศึกษา จำนวน 6 คน นักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 โรงเรียนเทศบาลวัดเหนือ เทศบาลเมืองร้อยเอ็ด จำนวน 100 คน ซึ่งได้มาจากการสุ่มอย่างง่าย (Simple random sampling) รวมทั้งสิ้น 108 คนกลุ่มที่ใช้ในการทดลองและศึกษาผลการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4/1 โรงเรียนเทศบาลบาลวัดเหนือ ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 จำนวน 28 คน ซึ่งได้มาจากการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) รูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวทฤษฎีการสร้างความรู้บูรณาการหลักไตรสิกขาเพื่อส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง การหาร ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 3) แบบทดสอบวัดทักษะการคิดวิเคราะห์ 4) แบบประเมินการปฏิบัติตนตามหลักไตรสิกขา แล ะ5) แบบสอบถามวัดความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อรูปแบบการจัดการเรียนรู้ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ (%) ค่าเฉลี่ย ( ) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) การทดสอบค่าที (t – test แบบ Dependent samples) และการวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis)

ผลการวิจัยสรุปได้ดังนี้

1. ผลการศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวทฤษฎีการสร้างความรู้บูรณาการหลักไตรสิกขาเพื่อส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง การหาร ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 คณิตศาสตร์เป็นวิชาที่พัฒนานักเรียนให้มีทักษะการคิด การวิเคราะห์ การตัดสินใจ การแก้ปัญหา มีความคิดอย่างมีเหตุมีผล มีความคิดสร้างสรรค์ แต่สภาพการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ของครูยังคงใช้รูปแบบการสอนแบบบรรยาย นักเรียนทำแบบฝึกหัดจากหนังสือเรียน การใช้สื่อและการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์ยังมีน้อยและนักเรียนส่วนใหญ่ต้องการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวทฤษฎีการสร้างความรู้บูรณาการหลักไตรสิกขาเพื่อส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง การหาร ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4

2. ผลการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวทฤษฎีการสร้างความรู้บูรณาการหลักไตรสิกขาเพื่อส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง การหาร ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่ผู้วิจัยสร้างและพัฒนาขึ้น มีองค์ประกอบคือ หลักการ วัตถุประสงค์ การจัดการเรียนรู้ซึ่งมีกระบวนการจัดการเรียนรู้แบบ SI-PACA MODEL ซึ่งมี 6 ขั้นตอน ได้แก่ 1) กระตุ้นต่อมคิด (Starting Thinking : S) 2) เตรียมพิชิตโจทย์ (Introduction: I) 3) ขั้นสร้างสมาธิเพื่อเผชิญสถานการณ์ปัญหา (Problem : P) 4) ขั้นคิดวิเคราะห์สร้างปัญญา ( Analysis : A) 5) ขั้นสร้างองค์ความรู้สู่ปัญญา ( Construction : C) 6) ขั้นนำไปประยุกต์ใช้ด้วยปัญญา (Application : A ) รูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวทฤษฎีการสร้างความรู้โดยบูรณาการหลักไตรสิกขาเพื่อส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์ด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้ ตามรูปแบบ SI-PACA MODEL มีประสิทธิภาพเท่ากับ86.25./87.30เมื่อเทียบกับเกณฑ์ 80/80 ปรากฎว่าสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้

3. การทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวทฤษฎีการสร้างความรู้บูรณาการหลักไตรสิกขาเพื่อส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง การหาร ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ปรากฏว่าผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนก่อนและหลังเรียนโดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวทฤษฎีการสร้างความรู้แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 โดยผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนและทักษะการคิดวิเคราะห์ของนักเรียนก่อนและหลังเรียนโดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 โดยทักษะการคิดวิเคราะห์ของนักเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน

4. การประเมินและปรับปรุงรูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวทฤษฎีการสร้างความรู้บูรณาการหลักไตรสิกขาเพื่อส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง การหาร ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 พบว่า นักเรียนปฏิบัติตนตามหลักไตรสิกขาโดยภาพรวมอยู่ในระดับดี ( = 3.37) และนักเรียนมีความพึงพอใจต่อรูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวทฤษฎีการสร้างความรู้บูรณาการหลักไตรสิกขาเพื่อส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง การหาร สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.57) ด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดคือ ด้านการจัดกิจกรรมการเรียนรู้และด้านบรรยากาศในการเรียนรู้ รองลงมาคือ ด้านการประเมินผลในการเรียนรู้และด้านระยะเวลาในการเรียนรู้ ตามลำดับ

โพสต์โดย ์ืnong15 : [26 ก.พ. 2561 เวลา 13:55 น.]
อ่าน [4227] ไอพี : 183.88.159.173
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 16,416 ครั้ง
เดจาวู! ทฤษฎีภาพซ้อน หรือ ย้อนอดีต!
เดจาวู! ทฤษฎีภาพซ้อน หรือ ย้อนอดีต!

เปิดอ่าน 16,922 ครั้ง
ดื่มนม ยืดอายุ
ดื่มนม ยืดอายุ

เปิดอ่าน 26,319 ครั้ง
เป็ดบาบารี่
เป็ดบาบารี่

เปิดอ่าน 10,131 ครั้ง
5 กิจกรรมส่งความสุข เพื่อสมองลูกรัก
5 กิจกรรมส่งความสุข เพื่อสมองลูกรัก

เปิดอ่าน 23,323 ครั้ง
ประวัติจังหวัดอุบลราชธานี
ประวัติจังหวัดอุบลราชธานี

เปิดอ่าน 21,078 ครั้ง
การพัฒนาการศึกษาภายใต้กรอบประเทศไทย 4.0 สู่ศตวรรษที่ 21
การพัฒนาการศึกษาภายใต้กรอบประเทศไทย 4.0 สู่ศตวรรษที่ 21

เปิดอ่าน 16,865 ครั้ง
คำค้นยอดนิยม กูเกิล-ยาฮู ประจำปี 2551
คำค้นยอดนิยม กูเกิล-ยาฮู ประจำปี 2551

เปิดอ่าน 17,151 ครั้ง
ผลวิจัย "ซุปไก่สกัด" มีผลดีต่อสมองและร่างกาย
ผลวิจัย "ซุปไก่สกัด" มีผลดีต่อสมองและร่างกาย

เปิดอ่าน 15,901 ครั้ง
ฮือฮา! ครูสาวสุดทุ่ม ตัดชุดบอดี้สูททั้งตัวสกรีนภาพเหมือนอวัยวะภายในร่างกายสอนวิชากายวิภาค
ฮือฮา! ครูสาวสุดทุ่ม ตัดชุดบอดี้สูททั้งตัวสกรีนภาพเหมือนอวัยวะภายในร่างกายสอนวิชากายวิภาค

เปิดอ่าน 12,795 ครั้ง
คิดสักนิด...เพื่อจิตบริสุทธิ์
คิดสักนิด...เพื่อจิตบริสุทธิ์

เปิดอ่าน 13,854 ครั้ง
ความเป็นมา  "วันสงกรานต์"
ความเป็นมา "วันสงกรานต์"

เปิดอ่าน 29,548 ครั้ง
ดูคลิปนี้จบแล้วคุณจะเข้าใจ  "ครูผู้สอนด้วยหัวใจ (From The Heart)" : หนังครู 7- Eleven
ดูคลิปนี้จบแล้วคุณจะเข้าใจ "ครูผู้สอนด้วยหัวใจ (From The Heart)" : หนังครู 7- Eleven

เปิดอ่าน 14,710 ครั้ง
4 ปัญหายอดฮิต เมื่อสอบติดมหา’ลัย
4 ปัญหายอดฮิต เมื่อสอบติดมหา’ลัย

เปิดอ่าน 2,130 ครั้ง
เว็บไซต์หางาน กับ บริษัทจัดหางาน ครูต่างชาติ
เว็บไซต์หางาน กับ บริษัทจัดหางาน ครูต่างชาติ

เปิดอ่าน 21,798 ครั้ง
ราคากลางชุดฝึกทักษะนักเรียนก่อนประถมศึกษา
ราคากลางชุดฝึกทักษะนักเรียนก่อนประถมศึกษา

เปิดอ่าน 14,956 ครั้ง
น้ำผึ้ง ชะลอริ้วรอย
น้ำผึ้ง ชะลอริ้วรอย
เปิดอ่าน 15,647 ครั้ง
แบบออกกำลังพื้นฐาน สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ เล่มที่ 10
แบบออกกำลังพื้นฐาน สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ เล่มที่ 10
เปิดอ่าน 19,929 ครั้ง
ตู้เก็บของจำเป็นต้องมีสำหรับโรงเรียนบ้านนอกหรือไม่
ตู้เก็บของจำเป็นต้องมีสำหรับโรงเรียนบ้านนอกหรือไม่
เปิดอ่าน 9,944 ครั้ง
จามบ่อย ๆ เสี่ยงเป็นโรคไหมนะ
จามบ่อย ๆ เสี่ยงเป็นโรคไหมนะ
เปิดอ่าน 18,273 ครั้ง
เรื่องน่ารู้ของคลีโอพัตรา ไม่สวยอย่างที่ร่ำลือ-แต่ฉลาด
เรื่องน่ารู้ของคลีโอพัตรา ไม่สวยอย่างที่ร่ำลือ-แต่ฉลาด

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ