ชื่อเรื่องวิจัย
การพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้ร่วมกับเทคโนโลยีเสมือนจริง วิชาฟิสิกส์พื้นฐาน 1
รหัสวิชา ว 30108 เรื่อง การเคลื่อนที่ โดยการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5
ผู้วิจัย นางสาวนิสา พันละภะ
หน่วยงาน โรงเรียนสตรีภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต ๑๔
ปีที่ศึกษา ภาคเรียนที่ ๒ ปีการศึกษา ๒๕๖๐
บทคัดย่อ
การพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้ร่วมกับเทคโนโลยีเสมือนจริง วิชาฟิสิกส์พื้นฐาน 1 รหัสวิชา ว 30108 เรื่อง การเคลื่อนที่ โดยการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ที่ได้รับการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ร่วมกับเทคโนโลยีเสมือนจริง เรื่องการเคลื่อนที่ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 โรงเรียนสตีภูเก็ต 1 ห้อง คือ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/10 จำนวน 47 คน ซึ่งได้จากการสุ่มแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แผนการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ร่วมกับเทคโนโลยีเสมือนจริง เรื่อง การเคลื่อนที่ แบบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและแบบประเมินความพึงพอใจ
ผู้วิจัยได้ทำการเก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรื่อง การเคลื่อนที่ วัดความรู้ของนักเรียนก่อนจัดกิจกรรมการเรียนการสอน แล้วจัดกิจกรรมการเรียนการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ร่วมกับชุดกิจกรรมการเรียนรู้ร่วมกับเทคโนโลยีเสมือนจริง เรื่อง การเคลื่อนที่ จากนั้นวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโดยใช้แบบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียน และวัดความพึงพอใจด้วยแบบประเมิน นำผลมาวิเคราะห์โดยการหาค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่า t-test ของคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การเคลื่อนที่ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ก่อนและหลังการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ร่วมกับชุดกิจกรรมการเรียนรู้ร่วมกับเทคโนโลยีเสมือนจริง เรื่อง การเคลื่อนที่
จากการวิจัยพบว่า
1. ด้านกิจกรรมการเรียนการสอน พบว่าขั้นสร้างความสนใจครูจัดกิจกรรมหรือ สถานการณ์ที่กระตุ้นให้นักเรียนสนใจ สงสัย อยากรู้อยากเห็น โดยการสาธิตหน้าชั้นเรียน นักเรียนจะสร้างคำถาม กำหนดประเด็นที่จะศึกษา แสดงความสนใจ ขั้นสำรวจและค้นหา ครูคอยใช้คำถามกระตุ้นและดูแลให้ความช่วยเหลือนักเรียน สังเกตการทำงานของนักเรียน ส่งเสริมให้นักเรียนได้สำรวจตรวจสอบด้วยตนเอง การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนเน้นให้นักเรียนได้ลงมือปฏิบัติการทดลองจริง มีกิจกรรมที่หลากหลาย นักเรียนจะมีความสนใจในการเรียน สนุกสนาน กระฉับกระเฉงและกระตือรือร้นในการทำกิจกรรม ขั้นอธิบายและลงข้อสรุป ครูส่งเสริมให้นักเรียนได้อธิบายผลการสำรวจตรวจสอบและแนวความคิดด้วยคำพูดของนักเรียนเอง ใช้คำถามนำเพื่อให้นักเรียนช่วยกันอภิปรายจนได้ข้อสรุป นักเรียนกล้าแสดงออก ขั้นขยายความรู้ ครูจัดกิจกรรมให้นักเรียนขยายแนวความคิด และทักษะจากการสำรวจตรวจสอบ และส่งเสริมให้นักเรียนเชื่อมโยงความรู้จากการสำรวจตรวจสอบกับความรู้อื่นๆนักเรียนได้รับความรู้และประสบการณ์ใหม่ๆ ขั้นประเมินครูจัดกิจกรรมที่เปิดโอกาสให้นักเรียนวิเคราะห์หรืออภิปรายซักถามแลกเปลี่ยนซึ่งกันและกันทำให้นักเรียนได้วิเคราะห์กระบวนการสร้างความรู้ของตนเอง ประเมินความก้าวหน้า และความรู้ของตนเอง
2. ด้านผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน พบว่านักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชา ฟิสิกส์ เรื่อง การเคลื่อนที่ จากจำนวนนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/10 จำนวน 47 คน ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 75 ของคะแนนเต็ม คิดเป็นร้อยละ 78.72 สูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ ค่าเฉลี่ยของคะแนนหลังเรียนของนักเรียนผ่านเกณฑ์ ร้อยละ 75 ของคะแนนเต็ม อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05
3. ด้านความพึงพอใจ พบว่าความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ที่มีต่อกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ร่วมกับเทคโนโลยีเสมือนจริง เรื่อง การเคลื่อนที่จากแบบประเมินความพึงพอใจนักเรียนมีความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ร่วมกับเทคโนโลยีเสมือนจริง เรื่อง การเคลื่อนที่ โดยเฉพาะกิจกรรมการทดลอง และการเพิ่มพูนความรู้จากกิจกรรมการเรียนรู้ที่เป็นบทเรียนการ์ตูน ที่มีภาพประกอบสวยงาม เพราะเป็นกิจกรรมที่นักเรียนได้มีส่วนร่วมในการทำกิจกรรม ปฏิบัติ เรียนรู้ แสวงหาคำตอบ สร้างองค์ความรู้ วิเคราะห์สรุปผลด้วยตนเอง โดยมีครูผู้สอนเป็นผู้กระตุ้นสร้างความสนใจ จัดสถานการณ์ให้นักเรียนอยากเรียนรู้แสวงหาคำตอบด้วยตนเอง ครูเป็นผู้อำนวยความสะดวก ให้คำแนะนำ อธิบายให้ความรู้เพิ่มเติมเพื่อให้นักเรียนได้ตรวจสอบความเข้าใจของเขาว่าเข้าใจถูกต้องหรือไม่ ให้นักเรียนได้ประเมินความรู้ซึ่งเป็นความรู้ที่สร้างขึ้นด้วยตัวนักเรียนเอง เกิดความสนุกสนาน นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจในวิชาฟิสิกส์และส่งผลถึงผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนให้สูงขึ้น
ในการวิจัยครั้งนี้พบว่าผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังเรียนของนักเรียนที่เรียนแบบสืบเสาะหาความรู้โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ร่วมกับเทคโนโลยีเสมือนจริง คะแนนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนของกลุ่มตัวอย่าง เห็นความแตกต่างชัดเจน กล่าวคือ ค่าเฉลี่ยของคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนของกลุ่มตัวอย่างเท่ากับ 24.05 และค่าเฉลี่ยของคะแนนก่อนเรียน เท่ากับ 8.73 ซึ่งคะแนนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน 15.32 และนักเรียนส่วนมากมีความพึงพอใจต่อกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ร่วมกับชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง การเคลื่อนที่ ซึ่งจากผลการวิจัยแสดงให้เห็นว่าการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้โดยใช้ชุดกิจกรรมร่วมกับเทคโนโลยีเสมือนจริง เรื่อง การเคลื่อนที่ เป็นการจัดการเรียนการสอนที่ยึดผู้เรียนเป็นศูนย์กลางให้นักเรียนได้ลงมือทำกิจกรรมด้วยตนเอง ได้ค้นพบความจริงและสร้างความรู้ด้วยตนเอง จึงเป็นการกระตุ้นและเร้าความสนใจของผู้เรียนและก่อให้เกิดบรรยากาศการเรียนรู้ที่ดีขึ้น ส่งผลให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนผ่านเกณฑ์ ร้อยละ 75 ของคะแนนเต็มอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 และนักเรียนมีความพึงพอใจต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้