ชื่อเรื่อง รายงานการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้

แบบสืบเสาะหาความรู้ (5Es) เรื่อง พันธุกรรม วิชา วิทยาศาสตร์ รหัสวิชา

ว23101 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3

ผู้วิจัย นางกุลวรรณ สวนแก้ว

ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการ โรงเรียนผดุงนารี จังหวัดมหาสารคาม

สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 26

ปีที่พิมพ์ 2560

บทคัดย่อ

การวิจัยในครั้งนี้จัดทำขึ้นเพื่อ1)เพื่อสร้างชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้(5Es) เรื่อง พันธุกรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) ศึกษาดัชนีประสิทธิผลของการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้(5Es) เรื่อง พันธุกรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 3) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยชุดกิจกรรม การเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้(5Es) เรื่อง พันธุกรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 4) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนรู้ด้วยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5Es) เรื่อง พันธุกรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยคือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ห้อง 7 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 โรงเรียนผดุงนารี อำเภอเมืองมหาสารคามจังหวัดมหาสารคาม จำนวน 45 คน ที่ได้มาจากการสุ่มตัวอย่างแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยและเก็บข้อมูล มี 4 ชนิด คือ 1)ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5Es) เรื่อง พันธุกรรม วิชาวิทยาศาสตร์ รหัสวิชา ว23101 สำหรับนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 5 ชุด ซึ่งผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบให้ความเหมาะสมในระดับมากที่สุด ( X-bar = 4.83, SD = 0.32) 2)แผนการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5Es) เรื่อง พันธุกรรม จำนวน 5 แผน ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบให้ความเหมาะสมในระดับมากที่สุด (X-bar = 4.53, SD = 0.18) 3)แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แบบปรนัย 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ มีค่าอำนาจจำแนกตั้งแต่ 0.22 ถึง 0.65 และมีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับตามวิธีของโลเวท (Lovett Method) เท่ากับ 0.73 4)แบบสอบถามความพึงพอใจแบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) จำนวน 20 ข้อ ซึ่งมีค่าดัชนีความสอดคล้อง 0.95 และมีค่าความเชื่อมั่น (α-Coefficient) ตามวิธีของครอนบาค เท่ากับ 0.79 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน E1/E2 ดัชนีประสิทธิผล และทดสอบสมมติฐานโดยใช้ t-test แบบ Dependent Samples

ผลการวิจัยพบว่า

1. ประสิทธิภาพของชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5Es) เรื่อง พันธุกรรม วิชาวิทยาศาสตร์ รหัสวิชา ว23101 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีประสิทธิภาพ (E1/E2) เท่ากับ 82.40/82.07 เป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ คือ 80/80

2. ดัชนีประสิทธิผลของการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ สืบเสาะหาความรู้ (5Es) เรื่อง พันธุกรรม วิชาวิทยาศาสตร์ รหัสวิชา ว23101 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3เท่ากับ 0.6615 แสดงว่านักเรียนมีความรู้เพิ่มขึ้น 0.6615 หรือคิดเป็นร้อยละ 66.15

3. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5Es) เรื่อง พันธุกรรม วิชาวิทยาศาสตร์ รหัสวิชา ว23101 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

4. นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้ด้วยแบบสืบเสาะหาความรู้ (5Es) เรื่อง พันธุกรรม วิชาวิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 อยู่ในระดับมากที่สุด ( X-bar = 4.65, SD = 0.58)

โดยสรุป ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5Es) เรื่อง พันธุกรรม วิชา วิทยาศาสตร์ รหัสวิชา ว23101 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เป็นสื่อที่มีประสิทธิภาพสามารถนำไปใช้ในการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาให้นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้นได้

เว็บน่าสนใจ