ชื่อเรื่อง ผลการจัดการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือด้วยเทคนิค STAD ร่วมกับเอกสารประกอบการเรียน
เรื่อง การดูแลสุขภาพและการป้องกันโรค ที่มีผลต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและ
ความพึงพอใจ กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
ผู้รายงาน นายรัฐพล ร่วมใจ
ปีที่ศึกษา ปีการศึกษา 2561
บทคัดย่อ
การวิจัยผลของการจัดการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือด้วยเทคนิค STAD ร่วมกับเอกสารประกอบ
การเรียน เรื่อง การดูแลสุขภาพและการป้องกันโรค ที่มีผลต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและความพึงพอใจ กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อหาประสิทธิภาพของการจัดการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือด้วยเทคนิค STAD ร่วมกับเอกสารประกอบ
การเรียน เรื่อง การดูแลสุขภาพและการป้องกันโรค กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อศึกษาค่าดัชนีประสิทธิผลของการจัดการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือด้วยเทคนิค STAD ร่วมกับเอกสารประกอบการเรียน เรื่อง การดูแลสุขภาพและการป้องกันโรค กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 3) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังการเรียนโดยการจัดการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือด้วยเทคนิค STADร่วมกับเอกสารประกอบการเรียน เรื่อง การดูแลสุขภาพและการป้องกันโรค กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 4) เพื่อสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่มีต่อการจัดการเรียนการสอนโดยการจัดการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือด้วยเทคนิค STAD ร่วมกับเอกสารประกอบการเรียน เรื่อง การดูแลสุขภาพและการป้องกันโรค กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นมัธยมศึกษา
ปีที่ 3 กลุ่มเป้าหมาย ที่ใช้เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนทุ่งใหญ่วิทยาคาร อำเภอนาดี จังหวัดปราจีนบุรี สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดปราจีนบุรี ปีการศึกษา 2561 ภาคเรียนที่ 1
ซึ่งได้มาโดยวิธีการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) จำนวน 28 คน
เครื่องมือที่ใช้ 1) แผนจัดการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือด้วยเทคนิค STAD ร่วมกับประกอบ
การเรียน เรื่องการดูแลสุขภาพและการป้องกันโรค กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 8 เรื่อง 16 แผน 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน จำนวน 30 ข้อ 3) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียน ที่มีต่อการเรียนด้วยกิจกรรมการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือด้วยเทคนิค STAD ร่วมกับเอกสารประกอบการเรียน เรื่อง การดูแลสุขภาพและการป้องกันโรค ที่มีผลต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและความพึงพอใจ กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นมัธยมศึกษา-
ปีที่ 3 จำนวน 20 ข้อจากนั้นทำการวิเคราะห์ข้อมูล โดยหาค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และ t-test (Dependent)
ผลการวิจัยพบว่า
1. การจัดการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือด้วยเทคนิค STAD ร่วมกับเอกสารประกอบการเรียน เรื่อง การดูแลสุขภาพและการป้องกันโรค ที่มีผลต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและความพึงพอใจ กลุ่มสาระ
การเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่สร้างขึ้นมีประสิทธิภาพ 86.09/85.95 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ คือ 80/80
2. ค่าดัชนีประสิทธิผลของการจัดการเรียนรู้ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่เรียนโดยการจัดการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือด้วยเทคนิค STAD ร่วมกับเอกสารประกอบการเรียน เรื่อง
การดูแลสุขภาพและการป้องกันโรค กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีค่าเท่ากับ 0.7572 แสดงว่านักเรียนมีความก้าวหน้าในการเรียนรู้คิดเป็นร้อยละ 75.72
3. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนหลังเรียนโดยการจัดการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือด้วยเทคนิค STAD ร่วมกับเอกสารประกอบการเรียน เรื่อง การดูแลสุขภาพและการป้องกันโรค กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 สูงกว่าก่อนเรียนโดยมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
4. ความพึงพอใจของนักเรียนต่อการจัดการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือด้วยเทคนิค STAD ร่วมกับเอกสารประกอบการเรียน เรื่อง การดูแลสุขภาพและการป้องกันโรค กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.52
S.D = 0.50)