ชื่อเรื่อง รูปแบบการพัฒนาศักยภาพทางวิชาการ ด้วยการน้อมนำหลักปรัชญาของ
เศรษฐกิจพอเพียง เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระดับชั้นเรียน
ของนักเรียนโรงเรียนตระกาศประชาสามัคคี
ผู้วิจัย นายก่อพงศ์ พรหมทา
ตำแหน่ง ผู้อำนวยการสถานศึกษา วิทยฐานะ ผู้อำนวยการชำนาญการพิเศษ
โรงเรียนตระกาศประชาสามัคคี ตำบลตระกาจ อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ
ปีที่วิจัย 2561
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อศึกษาสภาพปัจจุบัน ปัญหา และความต้องการจำเป็นในการพัฒนาศักยภาพทางวิชาการ ด้วยการน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระดับชั้นเรียน ของนักเรียนโรงเรียน
ตระกาศประชาสามัคคี 2) เพื่อสร้างและตรวจสอบคุณภาพรูปแบบการพัฒนาศักยภาพทางวิชาการ ด้วยการน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระดับชั้นเรียน ของนักเรียนโรงเรียนตระกาศประชาสามัคคี 3) เพื่อทดลองใช้และศึกษาผลการทดลองใช้รูปแบบการพัฒนาศักยภาพทางวิชาการ ด้วยการน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระดับชั้นเรียน ของนักเรียนโรงเรียนตระกาศประชาสามัคคี 4) เพื่อประเมินรูปแบบการพัฒนาศักยภาพทางวิชาการด้วยการน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระดับชั้นเรียน ของนักเรียนโรงเรียนตระกาศประชาสามัคคี การเก็บรวบรวมข้อมูล 1) การใช้รูปแบบการพัฒนาศักยภาพทางวิชาการ ด้วยการน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระดับชั้นเรียน ของนักเรียนโรงเรียนตระกาศประชาสามัคคี
ที่รับผิดชอบในรายละเอียดของการดำเนินงานตามรูปแบบโดยใช้คู่มือที่ผู้วิจัยจัดทำขึ้น
2) โรงเรียนดำเนินการจัดกิจกรรมตามกลยุทธ์ในการพัฒนาศักยภาพทางวิชาการ ด้วยการน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระดับชั้นเรียน ของนักเรียนโรงเรียนตระกาศประชาสามัคคี การพัฒนาศักยภาพทางวิชาการ ของ
นักเรียนทั้ง 4 กลยุทธ์ ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2561 3) ผู้วิจัยเชิญครู ที่รับผิดชอบมาประชุมเพื่อสรุปผลการใช้รูปแบบการพัฒนาศักยภาพทางวิชาการ ด้วยการน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระดับชั้นเรียน
ของนักเรียนโรงเรียนตระกาศประชาสามัคคี จากนั้น เปิดอภิปรายเพื่อให้ผู้เข้าร่วมประชุมแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข้อค้นพบที่ได้จากการใช้รูปแบบการพัฒนาศักยภาพทางวิชาการ ของนักเรียนและให้ข้อเสนอแนะเพิ่มเติมเกี่ยวกับการนำรูปแบบไปใช้ 4) ข้อมูลเกี่ยวกับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเก็บรวบรวมข้อมูลจากงานทะเบียนและวัดผลของโรงเรียน การวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับการประชุมผู้เกี่ยวข้องกับการใช้รูปแบบการพัฒนาศักยภาพทางวิชาการ ด้วยการน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระดับชั้นเรียน ของนักเรียนโรงเรียนตระกาศประชาสามัคคี วิเคราะห์ด้วยการวิเคราะห์ข้อความและสรุปเป็นประเด็น ส่วนข้อมูลเกี่ยวกับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิเคราะห์ด้วยค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การดำเนินการวิจัยและพัฒนา (Research and Development) รูปแบบการพัฒนาศักยภาพ ทางวิชาการด้วยการน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระดับชั้นเรียนของนักเรียนโรงเรียนตระกาศประชาสามัคคีมี 4 ขั้นตอน ดังนี้ ขั้นตอน 1.การสำรวจสภาพปัจจุบัน ปัญหาและความต้องการจำเป็นในการพัฒนาศักยภาพทางวิชาการ ด้วยการน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระดับชั้นเรียน ของนักเรียนโรงเรียนตระกาศประชาสามัคคี ขั้นตอน 2 ผลการสร้างรูปแบบการพัฒนาศักยภาพทางวิชาการ ด้วยการน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระดับ ชั้นเรียน ของนักเรียนโรงเรียนตระกาศประชาสามัคคี ขั้นตอน 3 ผลการทดลองใช้รูปแบบการพัฒนาศักยภาพทางวิชาการ ด้วยการน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระดับชั้นเรียน ของนักเรียนโรงเรียนตระกาศประชาสามัคคี ขั้นตอน 4 ผลการประเมินรูปแบบการพัฒนาศักยภาพทางวิชาการ ด้วยการน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระดับชั้นเรียน ของนักเรียนโรงเรียนตระกาศประชาสามัคคี
ผลการวิจัยพบว่า
1. การศึกษาเป็นปัจจัยที่สำคัญยิ่งในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ และยอมรับกัน
ทั่วไปว่าครู เป็นปัจจัยหลักในกระบวนการจัดการศึกษา บทบาทของครูอยู่ในฐานะผู้จัดการ คือ ต้องทำหน้าที่กระตุ้น ส่งเสริมและจัดการให้นักเรียนเกิดการเรียนรู้ด้วยตนเอง และสามารถพัฒนาได้อย่างเต็มตามศักยภาพของตนเอง ดังนั้น จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีการพัฒนาศักยภาพครู เพื่อให้ครูสามารถจัดการเรียนการสอนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2. การพัฒนากระบวนการเรียนรู้ โดยเน้นนักเรียนเป็นสำคัญถือเป็นหัวใจของการปฏิรูปการศึกษาเป็นที่ยอมรับกันว่า นักเรียนมีความแตกต่างกัน และทุกคนสามารถเรียนรู้ได้
ดังนั้น ในการจัดการเรียนการสอน ต้องจัดให้สอดคล้องตามความสนใจและความถนัดของ
ผู้เรียน รวมทั้ง จัดกิจกรรมการเรียนการสอนอย่างหลากหลาย และส่งเสริมให้ใช้กระบวนการวิจัยในการแก้ปัญหาและพัฒนากระบวนการเรียนรู้
3. การสนับสนุนสื่อการเรียนรู้และแหล่งเรียนรู้ ถือเป็นปัจจัยหนึ่งที่มีส่วนช่วยให้นักเรียนได้เรียนรู้อย่างรอบรู้ การพัฒนาห้องปฏิบัติการต่างๆ ให้มีความพร้อมในการเรียนรู้
การพัฒนาห้องสมุดมีชีวิต ซึ่งมีทรัพยากรสารสนเทศที่หลากหลายทั้งด้านเอกสาร สิ่งพิมพ์ สามารถให้บริการการศึกษาค้นคว้าของนักเรียน ปัจจัยเหล่านี้จะเป็นตัวกระตุ้นให้นักเรียนได้เรียนรู้เต็มตามศักยภาพ
4. ในส่วนของการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างโรงเรียนกับชุมชน โรงเรียนได้กำหนดนโยบายด้านการสร้างสัมพันธ์กับชุมชน เป็นศูนย์ประสานงาน ให้บริการด้านต่าง ๆ ร่วมมือกับชุมชนในการจัดกิจกรรมต่าง ๆ และนำทรัพยากรในชุมชนมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อการจัดการศึกษา ในโรงเรียน โดยเฉพาะการพัฒนาศักยภาพทางวิชาการของนักเรียน
5. ผลการประเมินผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนโรงเรียนตระกาศประชาสามัคคี พบว่า ร้อยละของผลการเรียนเฉลี่ยทุกรายวิชาผ่านเกณฑ์ที่ทางโรงเรียนกำหนด แสดงว่ายุทธศาสตร์การพัฒนาตาม 4 กลยุทธ์ คือ การพัฒนาศักยภาพครู การพัฒนากระบวนการเรียนรู้ การพัฒนาสื่อและแหล่งเรียนรู้ และการส่งเสริมความร่วมมือกับชุมชนในการจัดการศึกษาของโรงเรียน สามารถทำให้นักเรียนมีการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนได้ผ่านเกณฑ์ที่ทางโรงเรียนกำหนด
6. ความพึงพอใจของผู้ที่เกี่ยวข้องต่อรูปแบบการพัฒนาศักยภาพทางวิชาการ ด้วยการน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระดับชั้นเรียนของนักเรียนโรงเรียนตระกาศประชาสามัคคี โดยภาพรวมมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า ผู้ที่มีความพึงพอใจสูงสุด อยู่ในระดับมาก คือ ผู้ปกครอง ทั้งนี้อาจเป็นเพราะว่ารูปแบบการพัฒนาศักยภาพทางวิชาการสามารถทำให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนสูงขึ้นและผู้ปกครองได้มี ส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหา และพัฒนาผลการเรียนรู้ของนักเรียน โดยทางโรงเรียน จัดให้มีการประชุม พบปะระหว่างผู้ปกครองกับครู มีการประชาสัมพันธ์ข่าวสารข้อมูลให้ได้รับทราบ เพื่อการพัฒนานักเรียนอย่างสม่ำเสมอ