ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

เผยแพร่ผลงานทางวิชาการ

ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการเรียนรู้แบบร่วมมือเพื่อส่งเสริมทักษะการคิด เรื่อง ประวัติศาสตร์ไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนเทศบาลวัดมเหยงคณ์

ผู้วิจัย นฤมล ศิริวรรณ

ชื่อหน่วยงาน โรงเรียนเทศบาลวัดมเหยงคณ์ สำนักการศึกษา เทศบาลนครนครศรีธรรมราช

ปีที่วิจัย 2561

บทคัดย่อ

การพัฒนารูปแบบการเรียนรู้แบบร่วมมือเพื่อส่งเสริมทักษะการคิด เรื่อง ประวัติศาสตร์ไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบการเรียนรู้แบบร่วมมือเพื่อส่งเสริมทักษะการคิด เรื่อง ประวัติศาสตร์ไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 2) พัฒนารูปแบบการเรียนรู้แบบร่วมมือเพื่อส่งเสริมทักษะการคิด เรื่อง ประวัติศาสตร์ไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 3) ทดลองใช้รูปแบบการเรียนรู้แบบร่วมมือเพื่อส่งเสริมทักษะการคิด เรื่อง ประวัติศาสตร์ไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 และ 4) ประเมินรูปแบบการเรียนรู้แบบร่วมมือเพื่อส่งเสริมทักษะการคิด เรื่อง ประวัติศาสตร์ไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1/2 ที่กำลังศึกษาในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2561 โรงเรียนเทศบาลวัดมเหยงคณ์ สำนักการศึกษา เทศบาลนครนครศรีธรรมราช อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช จำนวน 1 ห้องเรียน นักเรียนจำนวน 44 คน การเลือกกลุ่มตัวอย่างเป็นแบบสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) โดยใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยสุ่ม เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ รูปแบบการเรียนรู้แบบร่วมมือเพื่อส่งเสริมทักษะการคิด เรื่อง ประวัติศาสตร์ไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการคิดขั้นพื้นฐาน และแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อรูปแบบการเรียนรู้แบบร่วมมือเพื่อส่งเสริมทักษะการคิด เรื่อง ประวัติศาสตร์ไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย (X) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) การทดสอบค่าทีแบบไม่อิสระและการวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis)

ผลการวิจัยพบว่า

1. ผลการศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบการเรียนรู้แบบร่วมมือเพื่อส่งเสริมทักษะการคิด เรื่อง ประวัติศาสตร์ไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ที่นักเรียนต้องการ พบว่า นักเรียนส่วนใหญ่ต้องการใช้รูปแบบการเรียนรู้แบบร่วมมือเพื่อส่งเสริมทักษะการคิด เรื่อง ประวัติศาสตร์ไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1

2. การพัฒนารูปแบบการสอนที่ผู้วิจัยสังเคราะห์ขึ้นใช้ชื่อเรียกว่า “ILTUS Model” มีองค์ประกอบของรูปแบบการเรียนรู้แบบร่วมมือเพื่อส่งเสริมทักษะการคิด เรื่อง ประวัติศาสตร์ไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 มี 5 ขั้นตอนได้แก่ 1) ขั้นการนำเข้าสู่บทเรียน (I : Importing) 2) ขั้นกิจกรรมการเรียนรู้ (L : Learning activities) 3) ขั้นฝึกฝนผู้เรียน (T : Training) 4) ขั้นนำไปใช้ (U : Using) และ 5) ขั้นสรุป (S : Summarize) ผลจากการตรวจสอบจากผู้เชี่ยวชาญ 5 คน ด้านสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ผู้สอนกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ต้องการให้พัฒนารูปแบบการเรียนรู้แบบร่วมมือเพื่อส่งเสริมทักษะการคิด เรื่อง ประวัติศาสตร์ไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ผู้เรียนสามารถเรียนรู้อย่างมีความสุข เพราะมีการเรียนรู้ด้วยตนเอง ควบคู่กับกิจกรรมกลุ่มและการทำแบบฝึกหัด บทเรียนมีภาพสีสันสดใส มีกิจกรรมการเรียนรู้ที่หลากหลายไม่น่าเบื่อพร้อมทั้งให้ผู้เรียนได้ลงมือปฏิบัติจริง ผลการพัฒนารูปแบบการเรียนรู้แบบร่วมมือเพื่อส่งเสริมทักษะการคิด เรื่อง ประวัติศาสตร์ไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ค่าประสิทธิภาพ E1 / E2 แบบรายบุคคล (Individual Tryout) เท่ากับ 78.89/76.67 ค่าประสิทธิภาพ E1 / E2 แบบกลุ่มเล็ก (Small Group Tryout) เท่ากับ 80.93/78.33 และค่าประสิทธิภาพ E1 / E2 จากการทดลองภาคสนาม มีค่าเท่ากับ 82.44/80.33 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ 80/80 ที่กำหนดไว้

3. ผลการทดลองใช้รูปแบบการเรียนรู้แบบร่วมมือเพื่อส่งเสริมทักษะการคิด เรื่อง ประวัติศาสตร์ไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 กับกลุ่มตัวอย่างจำนวน 44 คน ได้ค่าประสิทธิภาพ E1/E2 เท่ากับ 85.38/83.64 และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้รูปแบบการเรียนรู้แบบร่วมมือเพื่อส่งเสริมทักษะการคิด เรื่อง ประวัติศาสตร์ไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 คะแนนหลังเรียนสูงกว่าคะแนนก่อนเรียน ดังนั้นจึงสรุปได้ว่าผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

4. ผลการประเมินรูปแบบการเรียนรู้แบบร่วมมือเพื่อส่งเสริมทักษะการคิด เรื่อง ประวัติศาสตร์ไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 พบว่านักเรียนมีความพึงพอใจต่อรูปแบบการเรียนรู้แบบร่วมมือเพื่อส่งเสริมทักษะการคิด เรื่อง ประวัติศาสตร์ไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 อยู่ในระดับมาก

โพสต์โดย กุ้ง : [30 ส.ค. 2562 เวลา 17:58 น.]
อ่าน [102213] ไอพี : 101.108.225.41
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 122,081 ครั้ง
คอมพิวเตอร์กับการศึกษา
คอมพิวเตอร์กับการศึกษา

เปิดอ่าน 22,234 ครั้ง
ประวัติการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก
ประวัติการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก

เปิดอ่าน 72,464 ครั้ง
จรรยาบรรณครู
จรรยาบรรณครู

เปิดอ่าน 16,120 ครั้ง
ที่แท้ ซีอิ๊ว ก็มีต้นกำเนิดจากน้ำปลาบ้านเรานี่เอง
ที่แท้ ซีอิ๊ว ก็มีต้นกำเนิดจากน้ำปลาบ้านเรานี่เอง

เปิดอ่าน 11,037 ครั้ง
7 โรคอันตราย ที่มักเกิดกับสาว ๆ มากกว่าผู้ชาย !
7 โรคอันตราย ที่มักเกิดกับสาว ๆ มากกว่าผู้ชาย !

เปิดอ่าน 16,002 ครั้ง
ตูนส์ศึกษา : ทำไม O-NET ไม่เอาเรื่องจริงในชีวิตไปออกข้อสอบ
ตูนส์ศึกษา : ทำไม O-NET ไม่เอาเรื่องจริงในชีวิตไปออกข้อสอบ

เปิดอ่าน 88,426 ครั้ง
วิธีทำ  น้ำพริกอ่อง เมนูสุขภาพ
วิธีทำ น้ำพริกอ่อง เมนูสุขภาพ

เปิดอ่าน 931 ครั้ง
5 เหตุผลที่ควรซื้อรองเท้าแบรนด์เนมไว้ใช้งาน
5 เหตุผลที่ควรซื้อรองเท้าแบรนด์เนมไว้ใช้งาน

เปิดอ่าน 10,306 ครั้ง
คลิปช้างกินไอโฟน
คลิปช้างกินไอโฟน

เปิดอ่าน 16,248 ครั้ง
"กูเกิล"เผยสุดยอดคำค้นหาปี 59
"กูเกิล"เผยสุดยอดคำค้นหาปี 59

เปิดอ่าน 13,488 ครั้ง
ป้องกันกลิ่นตัว ในหน้าร้อน
ป้องกันกลิ่นตัว ในหน้าร้อน

เปิดอ่าน 10,958 ครั้ง
ภูกระดึงเปิดฤดูท่องเที่ยว รับอากาศเย็น 1 ต.ค.นี้
ภูกระดึงเปิดฤดูท่องเที่ยว รับอากาศเย็น 1 ต.ค.นี้

เปิดอ่าน 20,078 ครั้ง
โปรตีนสำหรับนักกีฬา
โปรตีนสำหรับนักกีฬา

เปิดอ่าน 11,157 ครั้ง
เตือน แมงกะพรุนกล่อง อาละวาด พิษแรง สัมผัสถึงตาย
เตือน แมงกะพรุนกล่อง อาละวาด พิษแรง สัมผัสถึงตาย

เปิดอ่าน 11,300 ครั้ง
งานเทศกาลท่องเที่ยวดอกกระเจียวงาม
งานเทศกาลท่องเที่ยวดอกกระเจียวงาม

เปิดอ่าน 37,436 ครั้ง
ขั้นตอนการใช้งานระบบลงทะเบียนและติดตามประเมินผลครูผู้เข้ารับการพัฒนา
ขั้นตอนการใช้งานระบบลงทะเบียนและติดตามประเมินผลครูผู้เข้ารับการพัฒนา
เปิดอ่าน 11,695 ครั้ง
จับตาอนาคตทีวีไทย กับการเปลี่ยนแปลงจากระบบอนาล็อกสู่ดิจิตอล
จับตาอนาคตทีวีไทย กับการเปลี่ยนแปลงจากระบบอนาล็อกสู่ดิจิตอล
เปิดอ่าน 31,956 ครั้ง
พระพุทธรูปปางต่างๆ
พระพุทธรูปปางต่างๆ
เปิดอ่าน 11,258 ครั้ง
9 มิ.ย.ของทุกปีเป็น "วันรัฐพิธี" ตามมติ ครม.
9 มิ.ย.ของทุกปีเป็น "วันรัฐพิธี" ตามมติ ครม.
เปิดอ่าน 42,814 ครั้ง
ทำไม สัญลักษณ์โอลิมปิก ต้องเป็นรูปวงกลม 5 ห่วง
ทำไม สัญลักษณ์โอลิมปิก ต้องเป็นรูปวงกลม 5 ห่วง

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
ติวสอบ GED
ติวสอบ SAT
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ