ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

การพัฒนารูปแบบการนิเทศ เพื่อเสริมสร้างสมรรถนะด้านการจัดการเรียนรู้แบบโครงงาน

การพัฒนารูปแบบการนิเทศ เพื่อเสริมสร้างสมรรถนะด้านการจัดการเรียนรู้แบบโครงงาน ของครูโรงเรียนเทศบาลเมืองปทุมธานี จังหวัดปทุมธานี

ผู้วิจัย นางกรกมล เพิ่มผล ตำแหน่งรองผู้อำนวยการสถานศึกษา โรงเรียนเทศบาลเมืองปทุมธานี อำเภอเมืองปทุมธานี จังหวัดปทุมธานี

ปีที่พิมพ์ 2562

บทคัดย่อ

การพัฒนารูปแบบการนิเทศ เพื่อเสริมสร้างสมรรถนะครูด้านการจัดการเรียนรู้แบบโครงงาน ของครูโรงเรียนเทศบาลเมืองปทุมธานี จังหวัดปทุมธานี มีวัตถุประสงค์ ดังนี้ 1) เพื่อพัฒนารูปแบบการนิเทศ 2) เพื่อศึกษาผลการทดลองใช้รูปแบบการนิเทศ ประกอบด้วย 2.1) เปรียบเทียบความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการจัดการเรียนรู้แบบโครงงาน ระหว่างก่อนและหลังการใช้รูปแบบการนิเทศ 2.2) ประเมินสมรรถนะด้านการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานของครู 2.3 สอบถามความคิดเห็นของผู้เข้ารับการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ 2.4 ประเมินความสามารถในการนิเทศของครูผู้นิเทศ 2.5 ประเมินคุณภาพผลงานโครงงานของนักเรียน 3) เพื่อประเมินรูปแบบการนิเทศ ประกอบด้วย 3.1) ประเมินประสิทธิภาพของรูปแบบการนิเทศ 3.2) สอบถามความพึงพอใจต่อการใช้รูปแบบการนิเทศ ผู้วิจัยได้ดำเนินการวิจัยตามรูปแบบการวิจัยและพัฒนา (Research and Development) มีขั้นตอนของการดำเนินงาน 4 ขั้นตอน ดังนี้ ขั้นตอนที่ 1 การศึกษาข้อมูลพื้นฐานและทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนารูปแบบการนิเทศ ดำเนินการโดย 1) การศึกษาเอกสาร แนวคิด ทฤษฎี และงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง 2) การจัดกลุ่มสนทนา (Focus Group) ขั้นตอนที่ 2 การสร้างและตรวจสอบคุณภาพรูปแบบการนิเทศ ดำเนินการโดย 1) ร่างโครงร่างรูปแบบการนิเทศ 2) ตรวจสอบความสมเหตุสมผลเชิงทฤษฎี ความเป็นไปได้และความสอดคล้องของรูปแบบการนิเทศ ขั้นตอนที่ 3 การทดลองใช้รูปแบบการนิเทศ ดำเนินการโดยนำรูปแบบการนิเทศที่แก้ไขปรับปรุงแล้ว ไปทดลองใช้กับครูโรงเรียนเทศบาลเมืองปทุมธานี จำนวน 41 คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive sampling) แบบแผนการทดลองใช้รูปแบบการทดลองแบบกลุ่มเดียวทดสอบก่อนและหลังการทดลอง (One Group Pretest-Posttest Design) เครื่องมือที่ใช้ในการทดลอง ได้แก่ 1) แบบทดสอบวัดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการจัดการเรียนรู้แบบโครงงาน เป็นแบบเลือกตอบชนิด 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ มีค่าความยากง่ายอยู่ระหว่าง 0.30 - 0.70 มีค่าอำนาจจำแนกอยู่ระหว่าง 0.26 - 0.77 และมีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.95 2) ประเมินสมรรถนะด้านการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานของครู เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ มีค่าอำนาจจำแนกรายข้อและมีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับ เท่ากับ 0.83 3) แบบสอบถามความคิดเห็นของผู้เข้ารับการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ มีค่าอำนาจจำแนกและมีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับ เท่ากับ 0.80 4) แบบประเมินความสามารถในการนิเทศ เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ มีค่าอำนาจและมีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับ เท่ากับ 0.86 5) แบบประเมินคุณภาพผลงานโครงงานของนักเรียน เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ มีค่าอำนาจจำแนกและมีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับ เท่ากับ 0.84 ขั้นตอนที่ 4 การประเมินรูปแบบการนิเทศ ดำเนินการโดย 1) ประเมินประสิทธิภาพของรูปแบบการนิเทศ 2) สอบถามความพึงพอใจต่อการใช้รูปแบบการนิเทศ เครื่องมือที่ใช้ในการประเมิน ได้แก่ แบบประเมินประสิทธิภาพของรูปแบบการนิเทศ และแบบสอบถามความพึงพอใจต่อการใช้รูปแบบการนิเทศ เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ มีค่าอำนาจและมีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับ เท่ากับ 0.83 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ข้อมูลเชิงคุณภาพใช้การวิเคราะห์เนื้อหา ข้อมูลเชิงปริมาณใช้สถิติพื้นฐาน ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่าที

ผลการวิจัย พบว่า

1. การพัฒนารูปแบบการนิเทศ เพื่อเสริมสร้างสมรรถนะด้านการจัดการเรียนรู้แบบโครงงาน ของครูโรงเรียนเทศบาลเมืองปทุมธานี จังหวัดปทุมธานี พบว่ารูปแบบการนิเทศ มีองค์ประกอบ 8 ส่วน คือ 1) ความเป็นมาและความสำคัญของรูปแบบ 2) หลักการของรูปแบบ 3) ลักษณะสำคัญของรูปแบบ 4) วัตถุประสงค์ 5) โครงสร้างเนื้อหา 6) กระบวนการนิเทศ 7) การประเมินประสิทธิภาพของรูปแบบ และ 8) สภาพบ่งชี้การบรรลุเป้าหมาย กระบวนการนิเทศมีชื่อเรียกว่า “PETER Model” ประกอบด้วยกระบวนการ 5 ขั้น คือ 1) การวางแผน (Planning) 2) การอบรม (Educate) 3) การปฏิบัติ (Take Action) 4) การประเมินผล (Evaluate) 5) การสะท้อนผล (Reflection)

2. การศึกษาผลการใช้รูปแบบการนิเทศ เพื่อเสริมสร้างสมรรถนะด้านการจัดการเรียนรู้

แบบโครงงาน สำหรับครูโรงเรียนเทศบาลเมืองปทุมธานี จังหวัดปทุมธานี ประกอบด้วย

2.1 ผลการเปรียบเทียบคะแนนการทดสอบวัดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการจัดการเรียนรู้แบบโครงงาน ระหว่างก่อนและหลังการใช้รูปแบบการนิเทศ แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

2.2 ผลการประเมินสมรรถนะด้านการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานของครู อยู่ในระดับ

มาก (ค่าเฉลี่ย = 4.21, ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน = 0.77)

2.3 ผลการสอบถามความคิดเห็นของครูผู้เข้ารับการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ

โดยรวมอยู่ในระดับมาก (ค่าเฉลี่ย = 4.30, ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน = 0.85)

2.4 ผลการประเมินความสามารถในการนิเทศ โดยรวม อยู่ในระดับมาก (ค่าเฉลี่ย =

4.31, ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน = 0.59)

2.5 ผลการประเมินคุณภาพผลงานโครงงานของนักเรียนผล โดยรวมอยู่ในระดับ ดี

(คะแนนเฉลี่ย = 4.41)

3. ผลการประเมินรูปแบบการนิเทศ เพื่อเสริมสร้างสมรรถนะการจัดการเรียนรู้แบบโครงงาน ของครูโรงเรียนเทศบาลเมืองปทุมธานี จังหวัดปทุมธานี

3.1 ผลการประเมินประสิทธิภาพของรูปแบบการนิเทศ พบว่า รูปแบบการนิเทศ

มีประสิทธิภาพตามมาตรฐานการประเมิน ด้านการใช้ประโยชน์ ด้านความเป็นไปได้ ด้านความเหมาะสม และด้านความถูกต้อง โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก (ค่าเฉลี่ย = 4.41, ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน = 0.31)

3.2 ผลการสอบถามความพึงพอใจต่อการใช้รูปแบบการนิเทศ เพื่อเสริมสร้างสมรรถนะด้านการจัดการเรียนรู้แบบโครงงาน ของครูโรงเรียนเทศบาลเมืองปทุมธานี จังหวัดปทุมธานี โดยรวมมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก (ค่าเฉลี่ย = 4.23, ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน = 0.30)

โพสต์โดย foon_rin : [17 ก.พ. 2563 เวลา 18:17 น.]
อ่าน [63459] ไอพี : 223.24.61.248
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 10,258 ครั้ง
ฟรีแวร์สำหรับแสดงและแก้ไขรูปภาพ
ฟรีแวร์สำหรับแสดงและแก้ไขรูปภาพ

เปิดอ่าน 17,962 ครั้ง
FAQ ถาม-ตอบ สาระสำคัญพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2551 (7 ก.ค. 51)
FAQ ถาม-ตอบ สาระสำคัญพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2551 (7 ก.ค. 51)

เปิดอ่าน 17,091 ครั้ง
แผ่นดินไหวปากีสถานดัน"เกาะ"โผล่กลางทะเล
แผ่นดินไหวปากีสถานดัน"เกาะ"โผล่กลางทะเล

เปิดอ่าน 15,861 ครั้ง
แสงสว่างของหิ่งห้อยมาจากไหน
แสงสว่างของหิ่งห้อยมาจากไหน

เปิดอ่าน 20,111 ครั้ง
เหงื่อบอกโรค
เหงื่อบอกโรค

เปิดอ่าน 19,330 ครั้ง
"กังนัม สไตล์" ความหมายอะไรซ่อนอยู่ (ดูให้เป็นสาระ)
"กังนัม สไตล์" ความหมายอะไรซ่อนอยู่ (ดูให้เป็นสาระ)

เปิดอ่าน 108,692 ครั้ง
การใช้ประโยชน์จากแหล่งการเรียนรู้ในสถานศึกษา
การใช้ประโยชน์จากแหล่งการเรียนรู้ในสถานศึกษา

เปิดอ่าน 14,410 ครั้ง
ฟ้าทะลายโจร ยอ หญ้าปักกิ่ง สมุนไพรต้านอนุมูลอิสระ
ฟ้าทะลายโจร ยอ หญ้าปักกิ่ง สมุนไพรต้านอนุมูลอิสระ

เปิดอ่าน 28,312 ครั้ง
9 วิธีปลดหนี้บัตรเครดิตแบบชิลๆ
9 วิธีปลดหนี้บัตรเครดิตแบบชิลๆ

เปิดอ่าน 31,959 ครั้ง
การบริหารจัดการโรงเรียนขนาดเล็กเพื่อการศึกษาคุณภาพ : ทีปกร จิร์ฐิติกุลชัย
การบริหารจัดการโรงเรียนขนาดเล็กเพื่อการศึกษาคุณภาพ : ทีปกร จิร์ฐิติกุลชัย

เปิดอ่าน 33,820 ครั้ง
กฎหมายน่ารู้ ตอน "ครูยึดโทรศัพท์นักเรียน มีความผิดฐานยักยอกทรัพย์"
กฎหมายน่ารู้ ตอน "ครูยึดโทรศัพท์นักเรียน มีความผิดฐานยักยอกทรัพย์"

เปิดอ่าน 27,154 ครั้ง
"ผักกูด" ผักที่อุดมไปด้วยสารเบต้าแคโรทีนและธาตุเหล็ก
"ผักกูด" ผักที่อุดมไปด้วยสารเบต้าแคโรทีนและธาตุเหล็ก

เปิดอ่าน 17,744 ครั้ง
รักษาอาการไอแบบไม่พึ่งยา ด้วยธรรมชาติบำบัด
รักษาอาการไอแบบไม่พึ่งยา ด้วยธรรมชาติบำบัด

เปิดอ่าน 627 ครั้ง
ประกันอัคคีภัยบ้าน คุ้มค่าไหม ? ทำไมต้องมี ?
ประกันอัคคีภัยบ้าน คุ้มค่าไหม ? ทำไมต้องมี ?

เปิดอ่าน 14,275 ครั้ง
กรุงเทพฯ กับ บางกอก
กรุงเทพฯ กับ บางกอก

เปิดอ่าน 22,735 ครั้ง
การประเมินวิทยฐานะช่วงเปลี่ยนผ่านจากเกณฑ์เก่าสู่ระบบ PA (ผู้บริหารสถานศึกษา)
การประเมินวิทยฐานะช่วงเปลี่ยนผ่านจากเกณฑ์เก่าสู่ระบบ PA (ผู้บริหารสถานศึกษา)
เปิดอ่าน 10,788 ครั้ง
เคล็ดลับเพื่อผิวสวยใสของสาววัย 20+
เคล็ดลับเพื่อผิวสวยใสของสาววัย 20+
เปิดอ่าน 3,532 ครั้ง
อยากจมูกโด่งมีดั้ง จะเลือกผ่าตัดเสริมจมูก ร้อยไหม หรือฉีดฟิลเลอร์ดี?
อยากจมูกโด่งมีดั้ง จะเลือกผ่าตัดเสริมจมูก ร้อยไหม หรือฉีดฟิลเลอร์ดี?
เปิดอ่าน 11,220 ครั้ง
9 มิ.ย.ของทุกปีเป็น "วันรัฐพิธี" ตามมติ ครม.
9 มิ.ย.ของทุกปีเป็น "วันรัฐพิธี" ตามมติ ครม.
เปิดอ่าน 492 ครั้ง
รวม 6 ท่าโยคะบนเก้าอี้ ไม่ต้องลุกก็ยืดได้
รวม 6 ท่าโยคะบนเก้าอี้ ไม่ต้องลุกก็ยืดได้

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
ติวสอบ GED
ติวสอบ SAT
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ