ชื่องานศึกษา รายงานผลการพัฒนาความสามารถในการใช้กล้ามเนื้อมัดเล็กโดยจัดกิจกรรมสร้างสรรค์ของเด็กปฐมวัย (อายุ 2-3 ปี) ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลสวรรคโลกประชาสรรค์

ชื่อผู้ศึกษา ถนอม เฉียบแหลม

สังกัด ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลสวรรคโลกประชาสรรค์

อำเภอสวรรคโลก จังหวัดสุโขทัย สังกัดเทศบาลเมืองสวรรคโลก

กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย

ปีที่ศึกษา 2561

บทคัดย่อ

การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาความสามารถในการใช้กล้ามเนื้อมัดเล็กโดยจัดกิจกรรมสร้างสรรค์ของเด็กปฐมวัย (อายุ 2-3 ปี) ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลสวรรคโลกประชาสรรค์ และเพื่อเปรียบเทียบความสามารถในการใช้กล้ามเนื้อมัดเล็ก ก่อน-หลังการจัดกิจกรรมสร้างสรรค์จำแนกรายด้านและภาพรวมของกล้ามเนื้อมัดเล็กโดยจัดกิจกรรมสร้างสรรค์ของเด็กปฐมวัย (อายุ 2-3 ปี) ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลสวรรคโลกประชาสรรค์ จำนวน 22 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ประกอบด้วย คู่มือการจัดกิจกรรมสร้างสรรค์เพื่อ พัฒนาความสามารถในการใช้กล้ามเนื้อมัดเล็กโดยจัดกิจกรรมสร้างสรรค์ของเด็กปฐมวัย (อายุ 2-3 ปี) แผนการจัดประสบการณ์ ประกอบกิจกรรมการพัฒนาความสามารถในการใช้กล้ามเนื้อ มัดเล็ก โดยจัดกิจกรรมสร้างสรรค์ของเด็กปฐมวัย (อายุ 2-3 ปี) ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลสวรรคโลกประชาสรรค์ และแบบทดสอบเชิงปฏิบัติการวัดความสามารถในการใช้กล้ามเนื้อมัดเล็ก 4 ด้าน คือ ด้านความคล่องแคล่วในการใช้กล้ามเนื้อมัดเล็ก ด้านความยืดหยุ่นในการใช้กล้ามเนื้อมัดเล็ก ด้านความสามารถในการควบคุมใน การใช้กล้ามเนื้อมัดเล็ก และการประสานสัมพันธ์ระหว่างมือกับตา ในการทดลองครั้งนี้ได้ยึดหลักการทดลองแบบทดลองกลุ่มเดียว มีการวัดผลก่อนและหลังการทดลองแบบ One-Group Pretest-Posttest Design สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลค่าเฉลี่ย ( ) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) สามารถสรุปผลการศึกษาได้ ดังนี้

1. ผลการพัฒนาความสามารถในการใช้กล้ามเนื้อมัดเล็กโดยจัดกิจกรรมสร้างสรรค์ของเด็กปฐมวัย (อายุ 2-3 ปี) ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลสวรรคโลกประชาสรรค์ มีพัฒนาการในภาพรวม ดีขึ้นทุกด้าน ด้านความคล่องแคล่วในการใช้กล้ามเนื้อมัดเล็กมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 1.71, 2.08, 2.21, 2.46, 2.54, 2.67, 2.79, 2.83, 2.92 และ 2.96 ตามลำดับ และผลการเรียนมีคะแนนเฉลี่ยโดยรวมเท่ากับ 2.52 อยู่ระดับดี ด้านความยืดหยุ่นในการใช้กล้ามเนื้อมัดเล็กตั้งแต่มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 1.83, 2.00, 2.17, 2.42, 2.58, 2.71, 2.83, 2.88, 2.92 และ 2.96 ตามลำดับ และผลการเรียน มีคะแนนเฉลี่ยโดยรวมเท่ากับ 2.53 อยู่ระดับดี ด้านความสามารถในการควบคุมในการใช้กล้ามเนื้อมัดเล็กมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 1.71, 2.13, 2.38, 2.46, 2.54, 2.58, 2.75, 2.83, 2.88 และ 2.96 ตามลำดับ และผลการเรียน มีคะแนนเฉลี่ยโดยรวมเท่ากับ 2.52 อยู่ระดับดี ด้านการประสานสัมพันธ์ระหว่างมือกับตามีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 1.79, 1.92, 2.21, 2.46, 2.58, 2.79, 2.83, 2.88, 2.92 และ 2.96 ตามลำดับ และผลการเรียนมีคะแนนเฉลี่ยโดยรวมเท่ากับ 2.53 อยู่ระดับดี เมื่อพิจารณาภาพรวมการพัฒนาความสามารถในการใช้กล้ามเนื้อมัดเล็กมีคะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 1.76, 2.03, 2.24, 2.45, 2.56, 2.69, 2.80, 2.86, 2.91 และ 2.96 ตามลำดับและผลการเรียนมีคะแนนเฉลี่ยโดยรวมเท่ากับ 2.53 อยู่ระดับดีซึ่งเป็นไปตามสมมติฐาน ข้อที่ 1

2. ผลการเปรียบเทียบการพัฒนาความสามารถในการใช้การใช้กล้ามเนื้อมัดเล็ก โดยจัดกิจกรรมสร้างสรรค์ของเด็กปฐมวัย (อายุ 2-3 ปี) ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลสวรรคโลกประชาสรรค์ ก่อนและหลังกิจกรรมสร้างสรรค์ ด้านความคล่องแคล่วในการใช้กล้ามเนื้อมัดเล็ก ก่อนการจัดกิจกรรมสร้างสรรค์ มีคะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 1.58 หลังการจัดกิจกรรมสร้างสรรค์ มีคะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 4.50 มีคะแนนเฉลี่ยต่างกัน 2.92 คะแนนก่อนและหลังการจัดกิจกรรมมีความแตกต่างกันร้อยละ 58.40 ด้านความยืดหยุ่นในการใช้กล้ามเนื้อมัดเล็กก่อนการจัดกิจกรรมสร้างสรรค์มีคะแนนเฉลี่ยก่อนเรียนเท่ากับ 1.38 หลังการจัดกิจกรรมสร้างสรรค์มีคะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 4.17 มีคะแนนเฉลี่ยต่างกัน 2.79 คะแนนก่อนและหลังการจัดกิจกรรมมีความแตกต่างกันร้อยละ 55.80 ด้านความสามารถในการควบคุมในการใช้กล้ามเนื้อมัดเล็กก่อนการจัดกิจกรรมสร้างสรรค์มีคะแนนเฉลี่ยก่อนเรียนเท่ากับ 1.38 หลังการจัดกิจกรรมสร้างสรรค์มีคะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 4.42 มีคะแนนเฉลี่ยต่างกัน 3.04 คะแนนก่อนและหลังการจัดกิจกรรมมีความแตกต่างกันร้อยละ 60.80 ด้านการประสานสัมพันธ์ระหว่างมือกับตาก่อนการจัดกิจกรรมสร้างสรรค์มีคะแนนเฉลี่ยก่อนเรียนเท่ากับ 1.50 หลังการจัดกิจกรรมสร้างสรรค์มีคะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 4.50 มีคะแนนเฉลี่ยต่างกัน 3.00 คะแนนก่อนและหลังการจัดกิจกรรมมีความแตกต่างกันร้อยละ 60.00 ในภาพรวมก่อนการจัดกิจกรรมสร้างสรรค์ มีคะแนนเฉลี่ย 5.84 หลังการจัดกิจกรรมสร้างสรรค์ มีคะแนนเฉลี่ย 17.59 มีคะแนนต่างกันเฉลี่ยเท่ากับ 11.75 คะแนนก่อนและหลังการจัดกิจกรรมมีความแตกต่างกันร้อยละ 58.75 ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานข้อที่ 2

เว็บน่าสนใจ