ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
โครงการส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมของนักเรียนโรงเรียนบ้านบ่อพระ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุราษฎร์ธานี เขต 3

เรื่องที่ศึกษา โครงการส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมของนักเรียนโรงเรียนบ้านบ่อพระ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุราษฎร์ธานี เขต 3

ผู้รายงาน นางธิดารัตน์ ประจักษ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านบ่อพระ

ปีที่ศึกษา 2562

บทสรุปของผู้บริหาร

การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินโครงการส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมของนักเรียนโรงเรียนบ้านบ่อพระ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุราษฎร์ธานี เขต 3 ในด้านบริบท ด้านปัจจัยนำเข้า ด้านกระบวนการ ด้านผลผลิต และด้านผลกระทบ ในการดำเนินงานส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมของนักเรียนโรงเรียนบ้านบ่อพระ ประชากรที่ใช้ในการศึกษาคือบุคคลที่มีส่วนร่วมในการดำเนินงานตามโครงการส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมของนักเรียนโรงเรียนบ้านบ่อพระ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุราษฎร์ธานี เขต 3 ปีการศึกษา 2562 ประกอบด้วย ผู้อำนวยการโรงเรียน 1 คน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน 7 คน ครูผู้สอน 6 คน ผู้ปกครองนักเรียน 50 คน และนักเรียน 84 คน รวมทั้งสิ้น 148 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นแบบสอบถามมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) 5 ระดับของลิเคิร์ท ซึ่งผู้รายงานได้จัดสร้างขึ้นโดยผ่านการตรวจพิจารณาหาความเที่ยงตรงเชิงโครงสร้างและเชิงเนื้อหาจากผู้เชี่ยวชาญ ของแบบประเมินจำนวน 2 ชุด ซึ่งแบบประเมินชุดที่ 1 เกี่ยวกับการประเมินด้านบริบท ด้านปัจจัยนำเข้า และด้านกระบวนการ จำนวน 40 ข้อ มีค่าความเชื่อมั่นแอลฟา 0.98 แบบชุดที่ 2 ด้านผลผลิต และด้านผลกระทบ จำนวน 40 ข้อ มีค่าความเชื่อมั่นแอลฟา 0.97 การจัดเก็บข้อมูล ผู้รายงานดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลด้วยตนเองโดยกำหนดระยะเวลาในการจัดเก็บ โดยแจกแบบประเมิน จำนวน 148 ฉบับ แบบประเมินที่ได้รับคืนมาจำนวน 148 ฉบับ ซึ่งมีความสมบูรณ์ทั้ง 148 ฉบับ คิดเป็นร้อยละ 100 แล้วนำข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์ด้วยสถิติค่าเฉลี่ย ร้อยละ และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน

ผลการศึกษาพบว่า

จากการประเมินโครงการส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมของนักเรียนโรงเรียนบ้านบ่อพระ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุราษฎร์ธานี เขต 3 ผลการประเมินพบว่า ตัวชี้วัดทุกตัว ประเด็นการประเมินทุกประเด็น และภาพรวมของโครงการผ่านเกณฑ์การประเมินทั้งหมด คือ

 

1. ด้านบริบทของโครงการอยู่ในระดับสูง และผลของตัวชี้วัด 3 ตัวชี้วัด มีดังนี้

1.1 ความต้องการจำเป็นในการจัดทำโครงการอยู่ในระดับสูง

1.2 ความสอดคล้องของวัตถุประสงค์กับกิจกรรมในโครงการอยู่ในระดับสูง

1.3 ความชัดเจนของเป้าหมายและองค์ประกอบของโครงการอยู่ในระดับสูง

2. ด้านปัจจัยของโครงการอยู่ในระดับสูง และผลของตัวชี้วัด 4 ตัวชี้วัด มีดังนี้

2.1 บุคลากรในการดำเนินโครงการอยู่ในระดับสูง

2.2 งบประมาณที่ใช้ในการดำเนินโครงการอยู่ในระดับสูง

2.3 สื่อ วัสดุอุปกรณ์ในการดำเนินโครงการอยู่ในระดับปานกลาง

2.4 รูปแบบการจัดกิจกรรมอยู่ในระดับสูงสุด

3. ด้านกระบวนการของโครงการอยู่ในระดับสูง และผลของตัวชี้วัด 3 ตัวชี้วัด มีดังนี้

3.1 การบริหารจัดการโครงการอยู่ในระดับสูง

3.2 กระบวนการจัดกิจกรรมอยู่ในระดับสูง

3.3 การนิเทศ กำกับ ติดตาม อยู่ในระดับสูง

4. ด้านผลผลิตของโครงการอยู่ในระดับสูง และผลของตัวชี้วัด 3 ตัวชี้วัด มีดังนี้

4.1 นักเรียนมีพฤติกรรมด้านการเรียนรู้ อยู่ในระดับสูง

4.2 นักเรียนมีพฤติกรรมด้านคุณลักษณะที่พึงประสงค์ อยู่ในระดับสูง

4.3 นักเรียนมีพฤติกรรมด้านการอยู่ร่วมกับผู้อื่น อยู่ในระดับสูง

5. ด้านผลกระทบของโครงการอยู่ในระดับสูง และผลของตัวชี้วัด 4 ตัวชี้วัด มีดังนี้

5.1 ผลที่เกิดขึ้นกับสถานศึกษา อยู่ในระดับสูง

5.2 ผลที่เกิดขึ้นกับนักเรียน อยู่ในระดับสูง

5.3 ผลที่เกิดขึ้นกับชุมชน อยู่ในระดับสูง

5.4 ความพึงพอใจของผู้บริหารโรงเรียน ครูผู้สอน นักเรียน ผู้ปกครองนักเรียน และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานที่มีต่อผลการจัดโครงการส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมของนักเรียน อยู่ในระดับสูง

จากผลการประเมินตัวชี้วัดและประเด็นการประเมินดังกล่าวทำให้ผลการประเมินโครงการในภาพรวมอยู่ในระดับสูง

ข้อเสนอแนะ

1. ควรดำเนินการโครงการนี้ต่อไปเพราะเป็นโครงการที่สามารถพัฒนาให้ผู้เรียนมีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานและมาตรฐานการศึกษาขั้นพื้นฐาน

2. ควรมีการจัดเตรียมสื่อ วัสดุ อุปกรณ์ในการดำเนินกิจกรรมที่เหมาะสมกับกิจกรรมมีความทันสมัยช่วยให้โครงการบรรลุวัตถุประสงค์

3. ควรมีการประเมินโครงการต่าง ๆระดับงาน หรือกลุ่มงานย่อยของโรงเรียนทุกโครงการ โดยประยุกต์ใช้รูปแบบอื่นที่เหมาะสม และสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของข้อมูลสารสนเทศที่ต้องการ

4. ควรมีการศึกษาการดำเนินงานโครงการส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมในโรงเรียนที่ประสบความสำเร็จในการดำเนินงานแบบยั่งยืน ทั้งเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพเพื่อเป็นแนวทางในการดำเนินงานสำหรับโรงเรียนต่อไป

5. ควรมีการศึกษาถึงปัจจัยที่ส่งเสริมและปัจจัยที่เป็นปัญหาอุปสรรคในการดำเนินโครงการส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรม เช่น ปัจจัยเกี่ยวกับสภาพแวดล้อม ปัจจัยเกี่ยวกับชุมชน ปัจจัยเกี่ยวกับโรงเรียน เพื่อใช้ในการวางแผนพัฒนาการดำเนินงานตามโครงการต่อไป

โพสต์โดย สาว : [8 ก.ค. 2563 เวลา 10:00 น.]
อ่าน [3365] ไอพี : 182.232.225.54
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 13,994 ครั้ง
PowerPoint ชี้แจงตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้แกนกลางสาระภูมิศาสตร์ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560)
PowerPoint ชี้แจงตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้แกนกลางสาระภูมิศาสตร์ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560)

เปิดอ่าน 14,954 ครั้ง
แชร์ว่อนเน็ต ตำรวจจับมอเตอร์ไซค์ วิ่งเลนขวาผิดหรือ
แชร์ว่อนเน็ต ตำรวจจับมอเตอร์ไซค์ วิ่งเลนขวาผิดหรือ

เปิดอ่าน 15,011 ครั้ง
10 โรคเรื้อรังของคนวัย 40 อัพ
10 โรคเรื้อรังของคนวัย 40 อัพ

เปิดอ่าน 10,249 ครั้ง
5 วิธีในการตกลงเจรจาในภาษาอังกฤษให้เป็นผลสำเร็จ
5 วิธีในการตกลงเจรจาในภาษาอังกฤษให้เป็นผลสำเร็จ

เปิดอ่าน 44,875 ครั้ง
คุณค่าทางโภชนาการของ "ปลาดุกนา"
คุณค่าทางโภชนาการของ "ปลาดุกนา"

เปิดอ่าน 14,555 ครั้ง
ฟื้นฟูผิวหลังถูกแดดเผา
ฟื้นฟูผิวหลังถูกแดดเผา

เปิดอ่าน 10,799 ครั้ง
ความลับของชาเขียว
ความลับของชาเขียว

เปิดอ่าน 10,739 ครั้ง
เคล็ดลับง่าย ๆ ในการดูแลผิวหน้าให้สวยสุขภาพดี
เคล็ดลับง่าย ๆ ในการดูแลผิวหน้าให้สวยสุขภาพดี

เปิดอ่าน 38,965 ครั้ง
3 วิธีแกะกล่องพัสดุให้ปลอดภัยห่างไกลจากโควิด-19
3 วิธีแกะกล่องพัสดุให้ปลอดภัยห่างไกลจากโควิด-19

เปิดอ่าน 681 ครั้ง
ต้นไม้สำหรับวางบนโต๊ะทำงาน ช่วยให้สดชื่นและมีพลังในการทำงาน
ต้นไม้สำหรับวางบนโต๊ะทำงาน ช่วยให้สดชื่นและมีพลังในการทำงาน

เปิดอ่าน 11,560 ครั้ง
แหล่งเรียนรู้ต้นแบบเพื่อการเรียนรู้นอกห้องเรียน
แหล่งเรียนรู้ต้นแบบเพื่อการเรียนรู้นอกห้องเรียน

เปิดอ่าน 16,217 ครั้ง
เจาะเทคนิค "ฝึกภาษาอังกฤษ" ทำเองได้ ไม่ยากเลย
เจาะเทคนิค "ฝึกภาษาอังกฤษ" ทำเองได้ ไม่ยากเลย

เปิดอ่าน 11,616 ครั้ง
กลิ่นหอมทำให้นอนหลับฝันดี
กลิ่นหอมทำให้นอนหลับฝันดี

เปิดอ่าน 54,329 ครั้ง
ดวงอาทิตย์ ส่องแสงได้อย่างไร
ดวงอาทิตย์ ส่องแสงได้อย่างไร

เปิดอ่าน 374,920 ครั้ง
ทฤษฎีการวางเงื่อนไขแบบคลาสสิคของพาฟลอฟ (Pavlov)
ทฤษฎีการวางเงื่อนไขแบบคลาสสิคของพาฟลอฟ (Pavlov)

เปิดอ่าน 1,917 ครั้ง
เลเซอร์รักแร้ IPL vs YAG เลือกยังไงให้เหมาะกับผิวและได้ผลดีในระยาว
เลเซอร์รักแร้ IPL vs YAG เลือกยังไงให้เหมาะกับผิวและได้ผลดีในระยาว
เปิดอ่าน 18,408 ครั้ง
10 งานด่วนภายใน 6 เดือนที่ "รมต.ศธ." ควรทำ
10 งานด่วนภายใน 6 เดือนที่ "รมต.ศธ." ควรทำ
เปิดอ่าน 12,095 ครั้ง
เคล็ดลับการเรียนเก่งด้วยตัวเอง
เคล็ดลับการเรียนเก่งด้วยตัวเอง
เปิดอ่าน 19,825 ครั้ง
ที่มาของคำว่า "บางกะปิ"
ที่มาของคำว่า "บางกะปิ"
เปิดอ่าน 15,635 ครั้ง
คุณครูจะช่วยเพิ่มสมาธิและความสนใจของนักเรียน ได้ด้วยเทคนิคนี้
คุณครูจะช่วยเพิ่มสมาธิและความสนใจของนักเรียน ได้ด้วยเทคนิคนี้

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ