ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนาชุดกิจกรรมวิทยาศาสตร์ประกอบการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น เรื่อง งานและพลังงาน ที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนฟิสิกส์ ของนักเรียนช

ชื่อรายงานวิจัย : การพัฒนาชุดกิจกรรมวิทยาศาสตร์ประกอบการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้

5 ขั้น เรื่อง งานและพลังงาน ที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนฟิสิกส์

ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5

ชื่อผู้วิจัย : นางโสภา บุญศักดิ์

หน่วยงาน : โรงเรียนสายธารวิทยา องค์การบริหารส่วนจังหวัดศรีสะเกษ

ปีที่ทำการวิจัย : พ.ศ. 2561

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์การวิจัย 1) เพื่อพัฒนาและหาประสิทธิภาพชุดกิจกรรมวิทยาศาสตร์ประกอบการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น เรื่อง งานและพลังงาน ที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนฟิสิกส์ ของชั้นนักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนสายธารวิทยา ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผลชุดกิจกรรมวิทยาศาสตร์ประกอบการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น เรื่องงานและพลังงาน ที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนฟิสิกส์ 3 )เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนฟิสิกส์ก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมวิทยาศาสตร์ประกอบการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น เรื่อง งานและพลังงาน และ 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนสายธารวิทยา ที่มีต่อชุดกิจกรรมวิทยาศาสตร์ประกอบการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น เรื่อง งานและพลังงาน ที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนฟิสิกส์ กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการวิจัย คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/1 เฉพาะที่เรียนแผนการเรียนวิทยาศาสตร์ – คณิตศาสตร์ ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2561 โรงเรียนสายธารวิทยา อำเภอกันทรลักษ์องค์การบริหารส่วนจังหวัดศรีสะเกษ จำนวน 28 คน โดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ 1) ชุดกิจกรรมวิทยาศาสตร์ประกอบการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะ หาความรู้ 5 ขั้น เรื่อง งานและพลังงาน ประกอบด้วย 1.1) ชุดกิจกรรมวิทยาศาสตร์ประกอบการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น เรื่อง งานและพลังงาน จำนวน 8 ชุด 1.2) แผนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 8 แผนๆ ละ 2 ชั่วโมง รวมเวลา 16 ชั่วโมง 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนฟิสิกส์ แบบปรนัยชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ และ 3) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อทางการเรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมวิทยาศาสตร์ประกอบการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น วิเคราะห์ผลโดยใช้ ค่าเฉลี่ย ร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่าที

ผลวิจัยพบว่า

1. นักเรียนที่ได้รับการจัดการเรียนรู้โดยชุดกิจกรรมวิทยาศาสตร์ประกอบการจัดการเรียนรู้ แบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น เรื่อง งานและพลังงาน มีคะแนนจากกิจกรรม และแบบทดสอบย่อยแต่ละแผนการจัดการเรียนรู้ รวมทั้งหมด 8 แผน มีผลร้อยละของค่าคะแนนเฉลี่ยการทดสอบระหว่างเรียน( ) มีค่าเท่ากับ 82.81 และร้อยละของค่าคะแนนเฉลี่ยของคะแนนการทดสอบหลังเรียน ( ) มีค่าเท่ากับ 82.62 แสดงว่า ประสิทธิภาพของการจัดการเรียนรู้โดยใช้ชุดกิจกรรมวิทยาศาสตร์ เรื่อง งานและพลังงาน ที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนฟิสิกส์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนสายธารวิทยา มีค่าเท่ากับ 82.81/82.62

2. นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนฟิสิกส์ก่อนเรียนเท่ากับ 13.32 จากคะแนนเต็ม 30 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 44.40 และได้คะแนนเฉลี่ยจากการทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนฟิสิกส์ หลังเรียน 24.79 จากคะแนนเต็ม 30 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 82.62 ผลการวิเคราะห์ดัชนีประสิทธิผลของชุดกิจกรรมวิทยาศาสตร์ประกอบการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น เรื่อง งานและพลังงาน ที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนฟิสิกส์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนสายธารวิทยา พบว่าดัชนีประสิทธิผลของชุดกิจกรรมวิทยาศาสตร์ประกอบการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น เรื่อง งานและพลังงาน มีค่าเท่ากับ 0.7318 หมายความว่า ผู้เรียนมีความรู้เพิ่มขึ้นร้อยละ 73.18

3. นักเรียนที่ใช้ชุดกิจกรรมวิทยาศาสตร์ประกอบการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น เรื่อง งานและพลังงาน มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนที่คะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 13.32 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 2.30 หลังเรียนมีคะแนนเฉลี่ย 24.79 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 6.69 และค่า t เท่ากับ 34.20 แสดงว่า นักเรียนที่เรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมวิทยาศาสตร์ ประกอบการจัดการเรียนรู้แบบ สืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น เรื่อง งานและพลังงาน มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนฟิสิกส์หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

4. นักเรียนมีความพึงพอใจต่อต่อชุดกิจกรรมวิทยาศาสตร์ประกอบการจัดการเรียนรู้แบบ สืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น เรื่อง งานและพลังงาน ที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนฟิสิกส์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 มีค่าเฉลี่ยรวม ( ) = 4.70 ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) = 0.63 ค่าความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด

โพสต์โดย โส : [4 ส.ค. 2563 เวลา 10:19 น.]
อ่าน [3261] ไอพี : 183.89.83.242
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 10,422 ครั้ง
จับตาอนาคตทีวีไทย กับการเปลี่ยนแปลงจากระบบอนาล็อกสู่ดิจิตอล
จับตาอนาคตทีวีไทย กับการเปลี่ยนแปลงจากระบบอนาล็อกสู่ดิจิตอล

เปิดอ่าน 17,426 ครั้ง
วันที่
วันที่ ''ไมโครซอฟท์'' ไร้บิลล์ เกตส์

เปิดอ่าน 11,723 ครั้ง
รักษารองเท้าหน้าฝน
รักษารองเท้าหน้าฝน

เปิดอ่าน 18,105 ครั้ง
อาหารบำรุงผม
อาหารบำรุงผม

เปิดอ่าน 35,398 ครั้ง
หน้าที่ชาวพุทธ
หน้าที่ชาวพุทธ

เปิดอ่าน 42,056 ครั้ง
โมเดลกระดาษ
โมเดลกระดาษ

เปิดอ่าน 33,838 ครั้ง
แนะ
แนะ 'เคล็ดลับ 3 อ.' เพื่อสุขภาพดียามสูงวัย

เปิดอ่าน 40,111 ครั้ง
บาร์โค้ด ประวัติ การประดิษฐ์บาร์โค้ด รหัสแท่งมหัศจรรย์
บาร์โค้ด ประวัติ การประดิษฐ์บาร์โค้ด รหัสแท่งมหัศจรรย์

เปิดอ่าน 62,286 ครั้ง
เพลงประจำอาเซียน (ASEAN SONG)
เพลงประจำอาเซียน (ASEAN SONG)

เปิดอ่าน 13,918 ครั้ง
บูชาแล้วรวย
บูชาแล้วรวย

เปิดอ่าน 20,931 ครั้ง
วิธีซ่อมก๊อกน้ำรั่ว
วิธีซ่อมก๊อกน้ำรั่ว

เปิดอ่าน 24,709 ครั้ง
เลค ฮิลเลอร์ ทะเลสาบสีชมพู ประเทศออสเตรเลีย
เลค ฮิลเลอร์ ทะเลสาบสีชมพู ประเทศออสเตรเลีย

เปิดอ่าน 7,996 ครั้ง
เชิญพิสูจน์!! ไฟไหม้ปริศนา คลิปแฉฝีมือคนในบ้าน (ชมคลิป)
เชิญพิสูจน์!! ไฟไหม้ปริศนา คลิปแฉฝีมือคนในบ้าน (ชมคลิป)

เปิดอ่าน 9,325 ครั้ง
5 เหตุผลดีๆ ที่คุณควรออกกำลัง
5 เหตุผลดีๆ ที่คุณควรออกกำลัง

เปิดอ่าน 38,630 ครั้ง
วันครู ประวัติวันครู ความเป็นมาวันครู ความหมายวันครู การจัดงานวันครู คำปฏิญาณตนของครู
วันครู ประวัติวันครู ความเป็นมาวันครู ความหมายวันครู การจัดงานวันครู คำปฏิญาณตนของครู

เปิดอ่าน 12,694 ครั้ง
ย่านางแดง พืชน่าสนใจ มีสรรพคุณอย่างไรบ้าง
ย่านางแดง พืชน่าสนใจ มีสรรพคุณอย่างไรบ้าง
เปิดอ่าน 1,587 ครั้ง
กรมอนามัย เผยไข่ต้มคลุกน้ำปลาสารอาหารไม่พอ เด็กวัยเรียนควรกินไข่คู่กับอาหารให้ครบหมู่หลากหลาย
กรมอนามัย เผยไข่ต้มคลุกน้ำปลาสารอาหารไม่พอ เด็กวัยเรียนควรกินไข่คู่กับอาหารให้ครบหมู่หลากหลาย
เปิดอ่าน 7,590 ครั้ง
เคล็ดลับเรียนแล้วรวย
เคล็ดลับเรียนแล้วรวย
เปิดอ่าน 3,921 ครั้ง
10 เรื่องที่ประชาชนต้องรู้เกี่ยวกับ PDPA
10 เรื่องที่ประชาชนต้องรู้เกี่ยวกับ PDPA
เปิดอ่าน 19,669 ครั้ง
ตรรกะ ในแบบของ "ไอน์สไตน์"
ตรรกะ ในแบบของ "ไอน์สไตน์"

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ