|
Advertisement
|
การวิจัยครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อ 1) พัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน เพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการคิดแก้ปัญหาเรื่อง โลกและการเปลี่ยนแปลง ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 และ 2) เพื่อศึกษาผลการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์โดยใช้ปัญหาเป็นฐานเพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการคิดแก้ปัญหาเรื่องโลกและการเปลี่ยนแปลง ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โดยมีวิธีดำเนินการ 2 ขั้นตอนคือ ขั้นตอนที่ 1 ศึกษารูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน เพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการคิดแก้ปัญหาเรื่อง โลกและการเปลี่ยนแปลง โดยการใช้วิจัยเชิงคุณภาพ อาศัยข้อมูลพื้นฐานจากแหล่งเรียนรู้ โดยการสังเกต สัมภาษณ์ สนทนากลุ่มร่วมกับครูและนักเรียนที่มีการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน (Problem Based Learning) นำข้อมูลมากำหนดโครงสร้าง องค์ประกอบรูปแบบการจัดการเรียนรู้ และสร้างแผนการจัดการเรียนรู้ ขั้นตอนที่ 2 ทดลองใช้รูปแบบ การจัดการเรียนรู้ โดยการนำรูปแบบ การจัดการเรียนรู้มาทดลองใช้จริงกับกลุ่มตัวอย่างคือนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนเทศบาลบ้านหนองตาโผ่นมิตรภาพที่ 5 จำนวน 30 คน ที่ได้มาจากการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ได้แก่ 1) แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐานเรื่อง โลกและการเปลี่ยนแปลง 2) แบบทดสอบวัดทักษะกระบวนการคิดแก้ปัญหาทางวิทยาศาสตร์ 3 ) แบบประเมินพฤติกรรมทางการเรียนรู้ และ 4) แบบวัดจิตวิทยาศาสตร์ โดยการวิเคราะห์ข้อมูลแบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือ ส่วนที่ 1 วิเคราะห์ข้อมูลที่ได้จากการเก็บข้อมูลเชิงคุณภาพ และส่วนที่ 2 วิเคราะห์ข้อมูลจากการนำรูปแบบการจัดการเรียนรู้ไปทดลอง สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลคือ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและการทดสอบแบบกลุ่มตัวอย่างที่ไม่เป็นอิสระต่อกัน
ผลการวิจัยพบว่า
1.การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์โดยใช้ปัญหาเป็นฐานเพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการคิดแก้ปัญหาเรื่อง โลกและการเปลี่ยนแปลง ที่พัฒนาขึ้น ประกอบด้วย หลักการ จุดมุ่งหมาย เนื้อหา สาระกระบวนการจัดการเรียนรู้และการวัดและประเมินผล เป็นรูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามกรอบแนวคิดของ Joyce และWeil ประกอบด้วย 4 ขั้นตอน คือ1) ลำดับขั้นตอนการจัดการเรียนรู้ (Syntax) ซึ่งประกอบไปด้วยขั้นนำเข้าสู่บทเรียน เป็นขั้นตอนนำเข้าสู่บทเรียนเป็น ขั้นกระตุ้นให้นักเรียนเชื่อมโยงความรู้เดิมกับความรู้ใหม่ เพื่อให้นักเรียนมีความพร้อมต่อการดำเนินกิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นจัดกิจกรรม การเรียนรู้ตามรูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการคิดแก้ปัญหา ประกอบด้วย 6 ขั้นตอนคือ ขั้นกำหนดปัญหา ขั้นทำความเข้าใจกับปัญหา/ตั้งสมมติฐาน ขั้นดำเนินการค้นคว้า ขั้นสังเคราะห์ความรู้ ขั้นสรุปและประเมินหาคำตอบ และขั้นนำเสนอและประเมินผลงาน 2) หลักการของปฏิสัมพันธ์ (Social System) ครูผู้สอนจะทำหน้าที่เป็นผู้ชี้แนะ แนะนำ กระตุ้นให้นักเรียนเกิดความอยากรู้อยากเห็นเกิดกระบวนการคิดหาคำตอบ นักเรียนทุกคนมีส่วนร่วม เพื่อเป็นการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง 3) หลักการของการตอบสนอง ( Principles of Reaction) ครูจัดกิจกรรมที่หลากหลายให้ท้าทาย มีสื่อประกอบที่เร้าใจกระตุ้นให้นักเรียนมีปฏิสัมพันธ์ร่วมกันภายในกลุ่ม เพื่อการค้นหาคำตอบ 4) ระบบสนับสนุนการเรียนรู้ (Support System) ครูจัดบรรยากาศของการเรียนรู้รอบๆตัวนักเรียน เพื่อให้นักเรียนมีความรู้สึกอยากเรียนรู้หาคำตอบ
2. รูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน และแผนการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน ที่พัฒนาตามรูปแบบการจัดการเรียนรู้ มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก
3. นักเรียนที่เรียนรู้ด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน มีคะแนนเฉลี่ยทักษะกระบวนการคิดแก้ปัญหาหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ .05
4. นักเรียนที่เรียนรู้ด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน มีระดับความคิดเห็นต่อพฤติกรรมทางการเรียนทั้ง 3 ด้านของตนเองหลังเรียนเป็นพฤติกรรมที่ปฏิบัติบ่อยขึ้น ซึ่งก่อนเรียนเป็นพฤติกรรมที่ปฏิบัติน้อย
5. นักเรียนที่เรียนรู้ด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน มีพฤติกรรมทางการเรียนในระหว่างเรียนดีขึ้น สังเกตจากความสนใจ ความกระตือรือร้นในการเรียน นักเรียนได้ใช้ความสามารถของตนเองอย่างเต็มศักยภาพ มีโอกาสแสดงความคิดเห็น มีอิสระในการตัดสินใจ ในการตอบคำถามและสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง จากการจดบันทึกสภาพการจัดการเรียนรู้ของครู พบว่า นักเรียนสามารถค้นคว้าหาคำตอบตามกระบวนการจัดการเรียนรู้ และสร้างองค์ความรู้ต่างๆได้ด้วยตนเอง โดยครูมีหน้าที่กระตุ้นและสร้างแรงบันดาลใจให้นักเรียนให้เกิดการเรียนรู้ตามศักยภาพ สามารถวัดและประเมินผลนักเรียนตามสภาพจริง
6. นักเรียนที่เรียนรู้ด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน มีระดับความคิดเห็นของจิตวิทยาศาสตร์ต่อการเรียนวิทยาศาสตร์อยู่ในระดับเห็นด้วย
|
โพสต์โดย ต้อด : [6 ส.ค. 2563 เวลา 05:42 น.] อ่าน [5681] ไอพี : 223.24.93.53
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก
|
Advertisement
|
|
|
|
|
|
โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2. ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป
3. สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น
7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป
** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**
|
|
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ เปิดอ่าน 11,593 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 25,523 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 31,186 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 21,720 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 32,738 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 1,034 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 56,536 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 111,075 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 55,806 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 14,407 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 1,573 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 11,496 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 23,098 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 23,185 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 18,295 ครั้ง 
| |
|
เปิดอ่าน 8,960 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 20,359 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 4,742 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 11,569 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 10,378 ครั้ง 
|
|

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด
|