ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

การพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ตามแนวทฤษฎี การสร้างความรู้เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3

ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ตามแนวทฤษฎี

การสร้างความรู้เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3

ผู้วิจัย นางสาวชลธิดา เชื้อพรมธรรม

ปีที่ทำกำรวิจัย 2562

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยและพัฒนา มีวัตถุประสงค์ในการวิจัยเพื่อพัฒนารูปแบบ ทดลองใช้ ศึกษาประสิทธิผลและขยายผลการใช้รูปแบบการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ตามแนวทฤษฎีการสร้างความรู้เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 การดาเนินการวิจัยแบ่งออกเป็น 4 ระยะ คือ ระยะแรกเป็นการศึกษารูปแบบการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ ระยะที่สองเป็นการพัฒนารูปแบบ ระยะที่สามเป็นการนารูปแบบที่พัฒนาขึ้นไปทดลองใช้ และระยะที่สี่เป็นการประเมินและปรับปรุงรูปแบบการพัฒนา กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยคือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/1 โรงเรียนไพรบึงวิทยาคม ตาบลไพรบึง อาเภอไพรบึง จังหวัดศรีสะเกษ สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดศรีสะเกษ ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2562 จานวน 1 ห้องเรียน จานวน 30 คน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการขยายผลการวิจัย คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/1 โรงเรียนไพรธรรมคุณวิทยา ตาบลไพร อาเภอขุนหาญ จังหวัดศรีสะเกษ สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดศรีสะเกษ ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2563 จานวน 1 ห้องเรียน จานวน 30 คน กลุ่มตัวอย่างทั้งสองกลุ่มใช้วิธีการสุ่มตัวอย่างแบบแบ่งกลุ่ม (Cluster random sampling) โดยใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยการสุ่มเนื่องจากแต่ละห้องเรียนนักเรียนมีความสามารถใกล้เคียงกัน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ รูปแบบการเรียนการสอนตามทฤษฎีการสร้างความรู้ คู่มือการใช้รูปแบบ แผนการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนตามแนวทฤษฎีการสร้างความรู้ แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนตามแนวทฤษฎีการสร้างความรู้ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและการทดสอบ Wilcoxon Signed Rank test

ผลกำรวิจัยพบว่ำ

1. รูปแบบจัดกิจกรรมการเรียนการสอนตามทฤษฎีการสร้างความรู้เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่พัฒนาขึ้นผ่านการตรวจสอบประสิทธิภาพโดยผู้เชี่ยวชาญ มีชื่อว่า “1P5E model” มีองค์ประกอบ คือ หลักการ วัตถุประสงค์ กระบวนการเรียนการสอน และเงื่อนไขการนารูปแบบไปใช้ การบวนการจัดการเรียนการสอนมี 6 ขั้นตอน คือ ขั้นเตรียมความพร้อมสาหรับการเรียนรู้ (Preparation : P) ขั้นสร้างความสนใจ (Engagement : E1) ขั้นสารวจและค้นหา (Exploration :E2) ขั้นอธิบายและลงข้อสรุป (Explanation: E3) ขั้นขยายความรู้ (Elaboration: E4) และขั้นประเมิน (Evaluation : E5) โดยรูปแบบที่พัฒนาขึ้นมีประสิทธิภาพเท่ากับ 83.49/82.23 เป็นไปตามเกณฑ์ 80/80

2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนหลังเรียนด้วยรูปแบบจัดกิจกรรมการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ตามทฤษฎีการสร้างความรู้ (1P5E model) สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05

3. ความพึงพอใจของนักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่มีต่อการใช้รูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ตามทฤษฎีการสร้างความรู้ (1P5E model) โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด

4. ผลการขยายผล พบว่า ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนกลุ่มขยายผล หลังเรียนด้วยรูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ตามแนวทฤษฎีการสร้างความรู้ (1P5E model) สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 และนักเรียนมีความพึงพอใจต่อการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนตามรูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ตามแนวทฤษฎีการสร้างความรู้ (1P5E model) โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด และผู้วิจัยนารูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ตามแนวทฤษฎีการสร้างความรู้ (1P5E model) ไปเผยแพร่กับกลุ่มครูโรงเรียนไตรพัฒนา จานวน 50 คนพบว่า กลุ่มครูโรงเรียนไตรพัฒนามีความคิดต่อรูปแบบการจัดการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ตามแนวทฤษฎีการสร้างความรู้ (1P5E model) มีความเหมาะสมและมีความเป็นไปได้อยู่ในระดับมาก

โพสต์โดย เชียร : [22 ก.พ. 2564 เวลา 12:42 น.]
อ่าน [101949] ไอพี : 101.51.65.85
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 16,437 ครั้ง
ช็อกโกแลต ช่วยให้สมองกระปรี้กระเปร่าจริงหรือ
ช็อกโกแลต ช่วยให้สมองกระปรี้กระเปร่าจริงหรือ

เปิดอ่าน 19,604 ครั้ง
ประโยชน์ของ "ผักแพว"
ประโยชน์ของ "ผักแพว"

เปิดอ่าน 20,199 ครั้ง
ผักกระเฉด
ผักกระเฉด

เปิดอ่าน 2,086 ครั้ง
seo คืออะไร? เผยกลยุทธ์และเทคนิคสำคัญให้ติดหน้าแรก google
seo คืออะไร? เผยกลยุทธ์และเทคนิคสำคัญให้ติดหน้าแรก google

เปิดอ่าน 29,428 ครั้ง
พุทธธรรมสำหรับการพัฒนาชีวิตครู
พุทธธรรมสำหรับการพัฒนาชีวิตครู

เปิดอ่าน 11,568 ครั้ง
หมู่บ้านอยู่แล้วรวยตามฮวงจุ้ย
หมู่บ้านอยู่แล้วรวยตามฮวงจุ้ย

เปิดอ่าน 11,351 ครั้ง
ใช้ มือถือ ขณะฝนฟ้าคะนอง จะมีโอกาสโดนฟ้าผ่าได้หรือไม่?
ใช้ มือถือ ขณะฝนฟ้าคะนอง จะมีโอกาสโดนฟ้าผ่าได้หรือไม่?

เปิดอ่าน 61,148 ครั้ง
การนำรูปเรขาคณิตมาวางเรียงกันทำให้เกิดลวดลาย
การนำรูปเรขาคณิตมาวางเรียงกันทำให้เกิดลวดลาย

เปิดอ่าน 16,315 ครั้ง
การดูแลรักษาตนเองเมื่อเจ็บคอ
การดูแลรักษาตนเองเมื่อเจ็บคอ

เปิดอ่าน 40,651 ครั้ง
ศัพท์สถิติทางการศึกษา
ศัพท์สถิติทางการศึกษา

เปิดอ่าน 12,393 ครั้ง
มารู้จัก ทุน"เสมาพัฒนาชีวิต"กันเถอะ
มารู้จัก ทุน"เสมาพัฒนาชีวิต"กันเถอะ

เปิดอ่าน 13,259 ครั้ง
iOS 6 มีอะไรใหม่บ้าง?
iOS 6 มีอะไรใหม่บ้าง?

เปิดอ่าน 27,853 ครั้ง
ที่มาของอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
ที่มาของอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ

เปิดอ่าน 49,109 ครั้ง
กินสเต๊กอย่างถูกวิธี
กินสเต๊กอย่างถูกวิธี

เปิดอ่าน 13,608 ครั้ง
10 ขั้นตอน ก่อนซื้อ Notebook มือสอง
10 ขั้นตอน ก่อนซื้อ Notebook มือสอง

เปิดอ่าน 66,529 ครั้ง
Nouns  ( Subject - Verb Agreement )
Nouns ( Subject - Verb Agreement )
เปิดอ่าน 13,408 ครั้ง
ผักสีสดช่วยคุณฟิตได้
ผักสีสดช่วยคุณฟิตได้
เปิดอ่าน 15,321 ครั้ง
"พ่อแม่รังแกฉัน"(ใครกันจะรังแกลูกได้เท่าพ่อแม่)
"พ่อแม่รังแกฉัน"(ใครกันจะรังแกลูกได้เท่าพ่อแม่)
เปิดอ่าน 13,020 ครั้ง
ผลสำรวจชี้มนุษย์ทำงาน 63% เห็นว่าการทำงาน 8 ชั่วโมงต่อวันเป็นเรื่อง "ล้าสมัย"
ผลสำรวจชี้มนุษย์ทำงาน 63% เห็นว่าการทำงาน 8 ชั่วโมงต่อวันเป็นเรื่อง "ล้าสมัย"
เปิดอ่าน 1,082 ครั้ง
พร้อมตอบคำถาม หม้อแปลงไฟฟ้า คืออะไร มีกี่ชนิด ทำงานอย่างไร
พร้อมตอบคำถาม หม้อแปลงไฟฟ้า คืออะไร มีกี่ชนิด ทำงานอย่างไร

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
ติวสอบ GED
ติวสอบ SAT
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ