|
|
การศึกษาครั้งนี้เป็นการรายงานผลการประเมินโครงการพัฒนานักเรียนโปรแกรมหลักสูตรกีฬา (E-Sport) เพื่อส่งเสริมศักยภาพผู้เรียนรายบุคคล ตามแนวทาง Thinking school ของโรงเรียนองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย ครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ คือ 1) เพื่อประเมินโครงการพัฒนานักเรียนโปรแกรมหลักสูตรกีฬา (E - Sport) เพื่อส่งเสริมศักยภาพผู้เรียนรายบุคคล ตามแนวทาง Thinking School ของโรงเรียนองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย 2) เพื่อศึกษาผลการประเมินโครงการพัฒนานักเรียนโปรแกรมหลักสูตรกีฬา (E - Sport) เพื่อส่งเสริมศักยภาพผู้เรียนรายบุคคล ตามแนวทาง Thinking School ของโรงเรียนองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง ที่ใช้ในการประเมินโครงการ ได้แก่ ประชากรที่ใช้ในการประเมิน ในปีการศึกษา 2560 ครั้งนี้ ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 6 หลักสูตรโปรแกรมกีฬา (E-Sport) จำนวน 105 คน ครูผู้สอนหลักสูตรโปรแกรมกีฬา (E-Sport) จำนวน 20 คน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 15 คน ผู้ปกครองของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 6 หลักสูตรโปรแกรมกีฬา (E-Sport) จำนวน 105 คน ผู้อำนวยการ/รองผู้อำนวยการสถานศึกษา จำนวน 4 คน รวมทั้งสิ้น 249 คน ของโรงเรียนองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วยแบบสอบถามที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นจากตัวแบบเชิงทฤษฎีเพื่อสอบถามความคิดเห็นเกี่ยวกับความเหมาะสมหรือการปฏิบัติ มีข้อคำถามทั้งสิ้น 48 ข้อ ส่วนประมาณค่า 5 ระดับแบบลิเคอร์ท และแบบบันทึกการสนทนากลุ่ม (Focus groups) เรื่อง การดำเนินงานตามโครงการพัฒนานักเรียนหลักสูตรโปรแกรมกีฬา (E - Sport) เพื่อส่งเสริมศักยภาพผู้เรียนรายบุคคล ตามแนวทาง Thinking School ของโรงเรียนองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย การวิเคราะห์ข้อมูลใช้โปรแกรมสำเร็จรูปเพื่อวิเคราะห์ค่าสถิติข้อมูลเชิงบรรยาย ได้แก่ค่าเฉลี่ย (Mean) ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) เพื่อนำค่าเฉลี่ยไปเปรียบเทียบกับเกณฑ์ในการประเมินกับข้อมูลเชิงประจักษ์ โดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูป SPSS
ผลการวิจัยพบว่า
1. การประเมินโครงการพัฒนานักเรียนโปรแกรมหลักสูตรกีฬา (E-Sport) เพื่อส่งเสริมศักยภาพผู้เรียนรายบุคคล ตามแนวทาง Thinking school ของโรงเรียนองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย ใช้รูปแบบการประเมิน CIPP Model ของ Stufflebeam ที่มีกระบวนการเก็บรวบรวมข้อมูลและการวิเคราะห์ข้อมูลอย่าง มีระบบ โดยมีขอบเขตการประเมินประกอบด้วย การประเมินที่ครอบคลุม 1. ด้านบริบท (Context) 2. ด้านปัจจัยนำเข้า (Input) 3. ด้านกระบวนการ (Process) และ 4. ด้านผลผลิต (Effective) แบบสอบถามที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นจากตัวแบบเชิงทฤษฎีเพื่อสอบถามความคิดเห็นเกี่ยวกับความเหมาะสมหรือการปฏิบัติ มีข้อคำถามทั้งสิ้น 48 ข้อ ส่วนประมาณค่า 5 ระดับแบบลิเคอร์ท และแบบบันทึกการสนทนากลุ่ม (Focus groups) เรื่อง การดำเนินงานตามโครงการพัฒนานักเรียนหลักสูตรโปรแกรมกีฬา (E - Sport) เพื่อส่งเสริมศักยภาพผู้เรียนรายบุคคล ตามแนวทาง Thinking School ของโรงเรียนองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย 2. ผลการประเมินโครงการพัฒนานักเรียนโปรแกรมหลักสูตรกีฬา (E-Sport) เพื่อส่งเสริมศักยภาพผู้เรียนรายบุคคล ตามแนวทาง Thinking school ของโรงเรียนองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย ภาพรวม พบว่า มีระดับค่าความเหมาะสมมากที่สุด เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ด้านบริบท มีค่าเฉลี่ยความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด ได้แก่ เป็นโรงเรียนต้นแบบสำหรับการพัฒนานักเรียนควรมีโครงการพัฒนานักเรียนหลักสูตรโปรแกรมกีฬา มีระดับค่าเฉลี่ยความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด รองลงมา คือ ท่านเห็นว่าผู้ปกครองของนักเรียนมีความต้องการให้โรงเรียนดำเนินการตามโครงการ มีระดับค่าเฉลี่ยความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด และมีระดับค่าเฉลี่ยความเหมาะสมต่ำสุด คือ ท่านเห็นว่าโครงการนี้สอดคล้องกับนโยบายของหน่วยงานต้นสังกัดและความต้องการของสังคม มีระดับค่าเฉลี่ยความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก รองลงมา คือ ด้านกระบวนการ เมื่อพิจารณา เป็นรายข้อมีค่าเฉลี่ยความเหมาะสมสูงสุด ได้แก่ โรงเรียนมีการส่งเสริมให้ครูจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้ตามแนวทาง Thinking School ของสถานศึกษา และจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแผนที่เตรียมไว้ สอดคล้องกับความถนัดและความสนใจของผู้เรียน มีระดับค่าเฉลี่ยความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด รองลงมา คือ โรงเรียนมีการจัดทำแผนการดำเนินการ โดยการจัดทำแผนงาน แผนปฏิบัติการประจำปีที่มีความเหมาะสมสอดคล้องกับหลักสูตร โดยเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ มีระดับค่าเฉลี่ยความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด และ มีระดับค่าเฉลี่ยความเหมาะสมต่ำสุด คือ นำผลการประเมินมาปรับใช้ในการจัดการเรียนการสอนเพื่อพัฒนาศักยภาพของผู้เรียนสม่ำเสมอ มีค่าเฉลี่ยความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก ส่วนด้านด้านผลผลิต มีระดับค่าความเหมาะสมต่ำสุด ซึ่งมีค่าเฉลี่ยความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อมีค่าเฉลี่ยความเหมาะสมสูงสุด ได้แก่ นักเรียนมีความขยัน ทะเยอทะยานในการก้าวสู่นักกีฬาอาชีพหรือทีมชาติ มีระดับค่าเฉลี่ยความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด รองลงมา คือ ได้แก่ นักเรียนประสบความสำเร็จในการเป็นนักกีฬาอาชีพ หรือทีมชาติไทย มีระดับค่าเฉลี่ยความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด และมีระดับค่าเฉลี่ยความเหมาะสมต่ำสุด คือ นักเรียนมีความสามารถด้านความคิดริเริ่มและสร้างสรรค์ มีระดับค่าเฉลี่ยความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก
|
โพสต์โดย sarawut : [24 ก.พ. 2564 เวลา 17:02 น.] อ่าน [4684] ไอพี : 171.4.241.77
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก
|
|
|
|
|
|
|
โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2. ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป
3. สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น
7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป
** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**
|
|
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ เปิดอ่าน 11,589 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 40,297 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 50,541 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 30,109 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 12,708 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 15,463 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 18,813 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 34,788 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 41,070 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 21,152 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 11,613 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 29,526 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 170,129 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 10,260 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 13,608 ครั้ง 
| |
|
เปิดอ่าน 4,552 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 5,957 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 15,248 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 10,326 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 14,345 ครั้ง 
|
|

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด
|