ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
ลีลาภาษาท่าและนาฏยศัพท์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3/1

บทคัดย่อ

ชื่องานวิจัย ลีลาภาษาท่าและนาฏยศัพท์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3/1

ชื่อผู้วิจัย นางสาวธมณ กระแสสินธุ์

เสริมสร้างทักษะ กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ

รายวิชา ศิลปะ(ดนตรี – นาฏศิลป์) รหัสวิชา ศ13110 ปีการศึกษา 2563

กลุ่มสาระการเรียนรู้ ศิลปะ

………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ที่มาของปัญหา

การเรียนการสอนนาฏศิลป์ไทยตั้งแต่ในอดีตกาล เป็นการเรียนโดยเน้นการฝึกปฏิบัติ ครูสาธิต ผู้เรียนปฏิบัติตาม นักเรียนคนใดที่มีพรสวรรค์มีความจำเป็นเลิศย่อมมีข้อได้เปรียบกว่า คนอื่นๆ เพราะท่ารำมีจำนวนหลายท่าและในแต่ละเพลงก็มีท่ารำที่คล้ายคลึงกัน ต่อมาเมื่อการเรียน การสอนนาฏศิลป์เข้าสู่ระบบสถานศึกษาจึงมีการจดบันทึกท่ารำเพื่อให้ผู้เรียนจดบันทึกเก็บไว้ทบทวน ความทรงจำ โดยเริ่มแรกเริ่มจากการเขียนบรรยายท่าทางอธิบาย มือ เท้า ศีรษะ ต่อมามีการวาด การ์ตูนง่ายๆ ที่รู้จักกันในนามตัวไม้ขีด วิธีการนี้เมื่อผู้เรียนได้ทบทวนท่ารำในช่วงเวลาที่ไม่นานนัก ยังคงจดจำลำดับท่าของการแสดงได้ แต่เมื่อเวลาผ่านไปเป็นสิบๆ ปี เมื่อผันเปลี่ยนจากนักเรียนมา เป็นครูผู้ถ่ายทอดศาสตร์ด้านการแสดงแก่คนรุ่นหลัง ต้องการนำเพลงต่าง ๆ ที่ได้ผ่านการเรียนมาส่ง ต่อให้ผู้เรียนจำเป็นต้องเปิดบันทึกท่ารำที่ได้เขียนไว้แต่ไม่สามารถรื้อฟื้นได้ ด้วยลายมือที่อ่านยาก ทักษะการเขียนที่วกวนบ้าง การบรรยายท่ารำไม่ละเอียด อาจเนื่องมาจากหลายปัจจัย แต่ด้วยผู้วิจัย เคยประสบมาประเด็นสำคัญคือในสมัยที่เรียนไม่รู้คุณค่าของการจดบันทึก ผู้เรียนต่างจดเพื่อเอา คะแนนจึงมีการคัดลอกของผู้อื่นต่อๆกันมาไร้การวิเคราะห์ท่าทางด้วยตัวเอง และประเด็นที่สำคัญคือ ความเบื่อหน่าย และไม่เข้าใจในท่ารำ ดังนั้นเมื่อถึงเวลาจำเป็นต้องใช้ประโยชน์กลับไม่สามารถนำมาใช้ได้ เพราะไม่เข้าใจความหมายของท่ารำ

ในปัจจุบันได้มีนักวิชาการหลายท่านได้จัดทำนวัตกรรม ต่าง ๆ เพื่อมีความสะดวกของ ผู้เรียนด้านนาฏศิลป์ ได้กล่าวถึงการสร้างนวัตกรรมด้านการเรียนการสอนของนาฏศิลป์ที่เกี่ยวข้องกับการบันทึกท่ารำโดยนำระบบบาลานเข้ามาใช้ ซึ่งเป็นการนำเอาทฤษฎีมาบันทึกตามแบบตะวันตก นอกจากนี้ จะเห็นได้ว่าระบบการบันทึกท่ารำตามแบบ ตะวันตกปัจจุบันไม่ได้รับความแพร่หลายในวงการของนาฏศิลป์ ผู้วิจัยจึงเล็งเห็นความสำคัญของ การบันทึกท่ารำมีความสำคัญหลายประการโดยเฉพาะ เป็นการฝึกฝนด้วยตัวเอง เป็นการทบทวน เพื่อให้มีทักษะด้านการแสดงที่ดี สามารถนำ

ไปใช้ก่อเกิดประโยชน์ได้ในอนาคต ดังนั้นจึงต้องการ ค้นหาวิธีการต่างๆ ที่ทำให้ผู้เรียนเข้าใจท่ารำมีความสนุกสนาน ความสมบูรณ์แบบ เข้าใจง่าย ไม่เกิดความเบื่อหน่ายแต่สามารถนำมาสร้างคุณประโยชน์ให้แก่ตนเอง ด้วยเหตุนี้ท่ารำของนาฏศิลป์นั้น ส่วนใหญ่คือนาฏยศัพท์ และภาษาท่า ซึ่งผู้เรียนจะต้องทำการศึกษาอย่างถูกต้อง

ดังนั้นเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าวข้างต้น งานวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมทักษะความรู้ความเข้าใจด้านภาษาท่าทางและนาฏยศัพท์สำหรับนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 3/1 โรงเรียนวัดตะพงนอก ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563 โดยใช้นักเรียนจำนวนทั้งหมด 35 คน ทำแบบทดสอบและแบบสังเกตุภาษาท่าและนาฏยศัพท์

ผลการศึกษาครั้งนี้ ปรากฏว่าการใช้แบบทดสอบ และแบบสังเกตุของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3/1 นักเรียนสามารถบอกความหมายของภาษาท่าและนาฏยศัพท์ได้ถูกต้อง คิดค่าเฉลี่ยไว้เป็นร้อยละ 70.90

ข้อเสนอแนะจากการทำวิจัยในชั้นเรียน เรื่อง ลีลาภาษาท่าและนาฏยศัพท์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 จะสามารถทำงานได้ดี เมื่อมีการเสริมแรงจากการใช้คำยกย่องชมเชยจากครูและคำแนะนำที่ถูกต้อง

เรื่อง ลีลาภาษาท่าและนาฏยศัพท์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3/1

ความสำคัญและที่มา

นาฏศิลป์เป็นมรดกและวัฒนธรรมประจำของชาติไทยที่เป็นเอกลักษณ์บ่งบอกถึงประวัติและความสวยงามของชาติไทย โดยจะเน้นเรื่องท่ารำ การแต่งกาย ภาษาที่ใช้ขับร้องเพลงในการแสดง

แต่ในปัจจุบันนาฏศิลป์ไทย จะประสบกับปัญหานักเรียนขาดทักษะความรู้ความเข้าใจท่ารำที่ถูกต้อง ซึ่งเป็นทักษะที่มีความสำคัญ และถ้าไม่ได้รับการส่งเสริมอย่างต่อเนื่อง นักเรียนไม่สามารถปฏิบัติท่าทางที่ถูกต้องได้ จากการสังเกตของครูผู้สอนวิชานาฏศิลป์ในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 3/1 นักเรียนบางส่วนยังไม่เข้าใจความหมายของภาษษท่าและนาฏยศัพท์ สาเหตุดังกล่าวทำให้นักเรียนเกิดความเบื่อหน่ายต่อการเรียนวิชานาฏศิลป์ในระดับชั้นของตนเองและระดับชั้นที่สูงขึ้น จึงทำให้มีการจัดทำวิจัยในชั้นเรียน เรื่อง ลีลาภาษาท่าและนาฏยศัพท์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3/1

จุดมุ่งหมายของการวิจัย

เพื่อส่งเสริมทักษะลีลาภาษาท่าและนาฏยศัพท์

ตัวแปรที่ศึกษา

จำนวนนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3/1 จำนวน 35 คน

กรอบแนวคิดในการวิจัย

การวิจัยครั้งนี้เป็นการศึกษาเพื่อส่งเสริมทักษะความเข้าใจด้านภาษาท่าและนาฏยศัพท์ ของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 3/1 จำนวน 35 คน ผู้วิจัยได้ทำแบบทดสอบ ภาษาท่าทางนาฏศิลป์ แบบทดสอบนาฏยศัพท์ ซึ่งมีความยากง่ายกับระดับชั้นของนักเรียนจำนวน 4 ชุด กิจกรรม และใช้การเสริมแรงโดยใช้การยกย่องชมเชย และให้คะแนนระหว่างทำกิจกรรม เพื่อพัฒนาการอ่าน สะกดคำให้สูงขึ้น

ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ

1. นักเรียนเข้าใจความหมายของภาษาท่าและนาฏยศัพท์

2. นักเรียนสามารถปฏิบัติท่ารำตามภาษาท่าและนาฏยศัพท์ได้อย่างถูกต้อง

3. นักเรียนสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ในเรื่องการชมการแสดงนาฏศิลป์ไทยและการแสดงโขน

ขอบเขตการวิจัย

ในการวิจัยครั้งนี้ เป็นการสร้างแบบฝึกเพื่อส่งเสริมทักษะความเข้าใจด้านภาษาท่าและ

นาฏยศัพท์ โดยใช้แบบฝึก 4 ชุดกิจกรรม เพื่อพัฒนาความเข้าใจความหมายและลีลาท่าทางที่ถูกต้อง ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3/1 มีขอบเขตการวิจัยครั้งนี้

1. จำนวนนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3/1 จำนวน 35 คน

2. เนื้อหาวิชานาฏศิลป์ลีลาภาษาท่าทางและนาฏยศัพท์ ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 4 ชุดกิจกรรม

วิธีดำเนินการวิจัย

ระยะเวลาในการดำเนินงาน

1 - 5 ก.พ.64 - ศึกษาสภาพปัญหา และวิเคราะห์แนวทางแก้ปัญหา

8 - 12 ก.พ.64 - เลือกลุ่มเป้าหมายนักเรียนชั้น ป. 3/1 จำนวน 35 คน

15 -19 ก.พ.64 - ทดสอบความเข้าใจภาษาท่าและนาฏยศัพท์ โดยใช้ชุดกิจกรรม 1, 2

(ผู้วิจัยทำการบันทึกคะแนน)

22 - 26 ก.พ.64 - วัดความเข้าใจภาษาท่าและนาฏยศัพท์ ชุดที่ 3, 4

1 - 5 มี.ค. 64 - เก็บข้อมูล

- สรุปวิเคราะห์ผลการวิจัย

- จัดทำรูปเล่ม

เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย

1. ชุดกิจกรรมความเข้าใจภาษาท่าและนาฏยศัพท์ จำนวน 4 ชุด

2. การเสริมแรงระหว่างปฏิบัติกิจกรรมคำยกย่องชมเชยการให้คะแนน

3. สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย

ผลการวิเคราะห์ข้อมูล

ผู้วิจัยได้ทำการเก็บรวบรวมข้อมูลของนักเรียนจำนวน 35 คน จากการทดสอบความเข้าใจภาษาท่าและนาฏยศัพท์ มีจำนวนทั้งหมด 4 ชุดกิจกรรม

ชุดกิจกรรมที่ 1 ชุดทักษะภาษาทาท่าง และทำแบบฝึกทักษะภาษาทาท่าง ดีมากร้อยละ 40

ดีร้อยละ 17.14 พอใช้ร้อยละ 11.42 ควรปรับปรุงร้อยละ 31.42

ชุดกิจกรรมที่ 2 ชุดทักษะนาฏยศัพท์ และทำแบบฝึกทักษะนาฏยศัพท์ ดีมากร้อยละ 91.42

ดีร้อยละ 8.57

ชุดกิจกรรมที่ 3 การปฏิบัติจริงภาษาท่า ดีมากร้อยละ 97.14 ดีร้อยละ 2.85

ชุดกิจกรรมที่ 4 การปฏิบัติจริงนาฏยศัพท์ ดีมากร้อยละ 94.28 ดีร้อยละ 5.71

สรุปผลการศึกษาวิจัย

จากการศึกษา และวิเคราะห์คะแนนที่ได้จากชุดกิจกรรมความเข้าใจภาษาท่าและนาฏยศัพท์ ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 3/1 นักเรียนมีการพัฒนาด้านความเข้าใจความหมายและลีลาท่าทางที่ถูกต้อง นักเรียนสามารถทำคะแนนได้ดีตามลำดับเป็นที่น่าพอใจ และจากการวิเคราะห์ผลการทดสอบเป็นรายบุคคลยังพบว่ามีนักเรียนที่เรียนไม่สนใจ เท่านั้นที่คะแนนเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย ซึ่งจะต้องมีการวิเคราะห์เป็นรายบุคคลต่อไป

การเสริมแรงขณะปฏิบัติกิจกรรมช่วยให้นักเรียนมีกำลังใจ และทำงานได้คะแนนดีขึ้น

ข้อเสนอแนะ

1. การสร้างแบบชุดกิจกรรมความเข้าใจภาษาท่าและนาฏยศัพท์ อาจใช้รูปแบบอื่นนอกจาก

ชุดกิจกรรมชุดที่ 1- 2 และการปฏิบัติจริง 3 - 4 โดยอาจจะทำได้ในรูปของการเขียนตามรูปภาพที่กำหนดให้ ตามแต่ผู้วิจัยจัดทำ

2. การให้กำลังใจ คำยกย่อง ชมเชย หรือแม้แต่การใช้สื่อเข้าช่วยในการสอนสอนเช่น

รูปภาพ หรือครูปฏิบัติท่าทางต่างให้ดูและให้นักเรียนปฏิบัติตาม ทำให้นักเรียนสนุกกับการเรียนวิชานาฏศิลป์มากยิ่งขึ้น

โพสต์โดย เชอรี่ : [6 เม.ย. 2564 เวลา 04:27 น.]
อ่าน [6481] ไอพี : 1.46.111.174
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 13,762 ครั้ง
ใส่ใจการ "เคี้ยวอาหาร" กันสักนิด
ใส่ใจการ "เคี้ยวอาหาร" กันสักนิด

เปิดอ่าน 14,860 ครั้ง
"ไม่ว่าเทคโนโลยีจะก้าวไกลแค่ไหน สิ่งสำคัญที่สุดคือครู" ปาถกฐาพิเศษ รศ.นราพร จันทร์โอชา เรื่องการศึกษาทางไกลเพื่อการเรียนรู้อย่างเท่าเทียม
"ไม่ว่าเทคโนโลยีจะก้าวไกลแค่ไหน สิ่งสำคัญที่สุดคือครู" ปาถกฐาพิเศษ รศ.นราพร จันทร์โอชา เรื่องการศึกษาทางไกลเพื่อการเรียนรู้อย่างเท่าเทียม

เปิดอ่าน 11,775 ครั้ง
ผู้บริหารการศึกษาควรได้รับการปฏิรูปก่อน
ผู้บริหารการศึกษาควรได้รับการปฏิรูปก่อน

เปิดอ่าน 57,754 ครั้ง
จรรยาบรรณครู
จรรยาบรรณครู

เปิดอ่าน 12,774 ครั้ง
แผนปฏิบัติราชการประจำปีงบประมาณ 2558 ของกระทรวงศึกษาธิการ
แผนปฏิบัติราชการประจำปีงบประมาณ 2558 ของกระทรวงศึกษาธิการ

เปิดอ่าน 6,393 ครั้ง
เคยได้ยินหรือยัง!“หลักสูตรฐานสมรรถนะ”กุญแจยกระดับการศึกษาที่คนไทยต้องรู้จัก ให้ผู้เรียนเท่าทันความเปลี่ยนแปลงในศตวรรษที่ 21
เคยได้ยินหรือยัง!“หลักสูตรฐานสมรรถนะ”กุญแจยกระดับการศึกษาที่คนไทยต้องรู้จัก ให้ผู้เรียนเท่าทันความเปลี่ยนแปลงในศตวรรษที่ 21

เปิดอ่าน 826 ครั้ง
ปีชง 2567 มีปีนักษัตรใดบ้าง
ปีชง 2567 มีปีนักษัตรใดบ้าง

เปิดอ่าน 24,611 ครั้ง
วิวัฒนาการ ตู้ไปรษณีย์ สู่สัญลักษณ์ที่สุดเมืองไทย
วิวัฒนาการ ตู้ไปรษณีย์ สู่สัญลักษณ์ที่สุดเมืองไทย

เปิดอ่าน 47,420 ครั้ง
คู่มือการบริหารโรงเรียน ในโครงการพัฒนาการบริหารรูปแบบนิติบุคคล
คู่มือการบริหารโรงเรียน ในโครงการพัฒนาการบริหารรูปแบบนิติบุคคล

เปิดอ่าน 13,835 ครั้ง
พจนานุกรมตัวชี้วัดการประเมินผลการจัดการศึกษาของประเทศ (KPI Dictionary for Thai Education Evaluation)
พจนานุกรมตัวชี้วัดการประเมินผลการจัดการศึกษาของประเทศ (KPI Dictionary for Thai Education Evaluation)

เปิดอ่าน 14,355 ครั้ง
หน้าตา Windows se7en หรือ Windows Vienna
หน้าตา Windows se7en หรือ Windows Vienna

เปิดอ่าน 12,143 ครั้ง
คลิปถ่ายทอดสด "หนุ่มโดดดิ่งเวหา" จากขอบโลกยอดคนดูทำลายสถิติยูทูป
คลิปถ่ายทอดสด "หนุ่มโดดดิ่งเวหา" จากขอบโลกยอดคนดูทำลายสถิติยูทูป

เปิดอ่าน 220,041 ครั้ง
คำอธิบายการหาคะแนนทีเฉลี่ย (Average T score) ตามแบบ ก.ค.ศ.3/1
คำอธิบายการหาคะแนนทีเฉลี่ย (Average T score) ตามแบบ ก.ค.ศ.3/1

เปิดอ่าน 18,164 ครั้ง
เรื่องพระเจ้าอชาตศัตรู
เรื่องพระเจ้าอชาตศัตรู

เปิดอ่าน 12,245 ครั้ง
จะยุบโรงเรียนขนาดเล็กอีกกี่แห่ง? : รองศาสตราจารย์ ดร.สมบัติ นพรัก
จะยุบโรงเรียนขนาดเล็กอีกกี่แห่ง? : รองศาสตราจารย์ ดร.สมบัติ นพรัก

เปิดอ่าน 15,376 ครั้ง
วิจัยพบ"ตำลึงทอง"รักษากระดูกพรุน
วิจัยพบ"ตำลึงทอง"รักษากระดูกพรุน
เปิดอ่าน 7,827 ครั้ง
แนะพ่อแม่เลือกเฟ้น หลีกของเล่นอันตราย
แนะพ่อแม่เลือกเฟ้น หลีกของเล่นอันตราย
เปิดอ่าน 16,809 ครั้ง
ทายใจจากอักษรท้ายชื่อ
ทายใจจากอักษรท้ายชื่อ
เปิดอ่าน 22,760 ครั้ง
ฮวงจุ้ยที่ดินรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าอยู่แล้วรวย
ฮวงจุ้ยที่ดินรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าอยู่แล้วรวย
เปิดอ่าน 15,975 ครั้ง
13 เรื่องจริงของสุนัขที่คุณอาจยังไม่เคยรู้
13 เรื่องจริงของสุนัขที่คุณอาจยังไม่เคยรู้

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ