ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
รายงานผลการประเมินโครงการสถานศึกษาปลอดภัยของโรงเรียนวัดโรงเข้

บทคัดย่อ

การรายงานการประเมินโครงการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ประเมินปัจจัยนำเข้า (Input Evaluation) โครงการสถานศึกษาปลอดภัยของโรงเรียนวัดโรงเข้ สังกัดสำนักงานเขตพื้นการศึกษาประถมศึกษาสมุทรสาคร 2) ประเมินกระบวนการ (Process Evaluation) โครงการสถานศึกษาปลอดภัยของโรงเรียนวัดโรงเข้ สังกัดสำนักงานเขตพื้นการศึกษาประถมศึกษาสมุทรสาคร 3) ประเมินผลผลิต (Output Evaluation) โครงการสถานศึกษาปลอดภัยของโรงเรียนวัดโรงเข้ สังกัดสำนักงานเขตพื้นการศึกษาประถมศึกษาสมุทรสาคร ประเมินโครงการสถานศึกษาปลอดภัยของโรงเรียน วัดโรงเข้ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสมุทรสาคร โดยใช้รูปแบบการประเมิน IPO Model กลุ่มผู้ให้ข้อมูลเป็นผู้มีส่วนเกี่ยวข้องแบ่งเป็นสองกลุ่ม กลุ่มที่ 1 ได้แก่ คณะครู บุคลากรทางการศึกษา จำนวน 8 คน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 7 คน รวม 15 คน เป็นผู้ให้ข้อมูลด้านปัจจัยนำเข้า ด้านกระบวนการและด้านผลผลิตของโครงการเครื่องมือที่ใช้ในการประเมิน ได้แก่ แบบสอบถาม จำนวน 3 ฉบับ ด้านปัจจัยนำเข้า ด้านกระบวนการและด้านผลผลิตสำหรับคณะครู บุคลากรทางการศึกษาและคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน มีลักษณะเป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ การวิเคราะห์ข้อมูลใช้สถิติการแจกแจงความถี่ ค่าร้อยละ สำหรับการวิเคราะห์ข้อมูลทั่วไป ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน กลุ่มผู้ให้ข้อมูลกลุ่มที่ 2 จำนวน 39 คน ได้แก่นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 19 คน และ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 20 คน เป็นผู้ให้ข้อมูลด้านผลผลิต ด้านวัดความรู้ความเข้าใจในการป้องกันตนเองให้ปลอดภัย เครื่องมือที่ใช้ในการประเมิน ได้แก่ ข้อสอบแบบปรนัย จำนวน 2 ฉบับ การวิเคราะห์ข้อมูล ใช้เกณฑ์ในการตรวจให้คะแนน 1 ข้อต่อ 1 คะแนน และตรวจสอบคุณภาพของแบบทดสอบในด้านความเที่ยงตรงเชิงพินิจ (IOC) ค่าความยาก (P) ค่าอำนาจจำแนก (D) และความเชื่อมั่น ใช้สูตรสัมประสิทธิ์แอลฟา ( Coefficient) ของครอนบัด (Cronbach) สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ คะแนนเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน

ผลการประเมินผู้ประเมินได้นำเสนอผลการวิเคราะห์ข้อมูลโดยแบ่งรายละเอียดออกเป็น 2 ตอน ดังนี้

ตอนที่ 1 ผลการวิเคราะห์ข้อมูลทั่วไปของกลุ่่มผู้ให้ข้อมูล บุคลากรทางการศึกษา และ คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 15 คน พบว่า ส่วนใหญ่เป็นเพศชายมีช่วงอายุส่วนใหญ่ต่ำกว่า 30 ปี และระดับการศึกษาส่วนใหญ่จบการศึกษาระดับปริญญาตรี

ตอนที่ 2 ผลการวิเคราะห์ข้อมูลผลการประเมินโครงการสถานศึกษาปลอดภัย ของโรงเรียนวัดโรงเข้ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสมุทรสาคร ปีการศึกษา 2563 ในภาพรวม แบ่งออกเป็น 3 ด้าน ดังนี้

1) ผลการวิเคราะห์ข้อมูลการประเมินด้านปัจจัยนำเข้า (Input) โดยภาพรวมมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด เนื้อหาและช่วงเวลาในการจัดกิจกรรมเหมาะสม และผู้บริหารเห็นความสำคัญ ให้การส่งเสริมสนับสนุนการดำเนิน โครงการ เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ข้อที่มีผลการประเมินอยู่ในระดับมาก ได้แก่ โรงเรียนปราศจากจุดเสี่ยงที่อาจจะก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้ ส่วนข้ออื่น ๆ มีความเหมาะสมอยู่ในระดับ มากที่สุด

2) ผลการวิเคราะห์ข้อมูลการประเมินด้านกระบวนการ (Process) โดยภาพรวมมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด การกำกับติดตาม ประเมินผล คลอบคลุมวัตถุประสงค์ เป้าหมายของโครงการ ขั้นตอน วิธีการประเมินผลมีความเหมาะสม และการจัดกิจกรรมตามโครงการมีความเหมาะสม เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ข้อที่มีผลการประเมินอยู่ในระดับมาก ได้แก่ โรงเรียนมีการจัดอบรมการปฐมพยาบาลเบื้องต้น การใช้สารเคมีในชีวิตประจำวัน และ โรงเรียนมีการจัดอบรมเรื่องสัญญาณจราจร และความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน ส่วนข้ออื่น ๆ มีการปฏิบัติอยู่ในระดับ มากที่สุด

3) ผลการวิเคราะห์ข้อมูลการประเมินด้านผลผลิต (Product)

3.1) ผลการพัฒนาตามโครงการสถานศึกษาปลอดภัย โรงเรียน วัดโรงเข้ โดยภาพรวมมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องมีเจตคติที่ดีต่อการมีส่วนกับทางชุมชนและผู้ส่วนเกี่ยวข้องอย่างเหมาะสมเมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ข้อที่มีผลการประเมินอยู่ในระดับมาก ได้แก่ มีอุปกรณ์ป้องกันอันตรายของเครื่องจักรเครื่องมือ (Safeguard) ในสถานศึกษาอย่างครบถ้วนและมีประสิทธิภาพ มีหนังสือตํารา หรือมาตรฐานเกี่ยวกับความปลอดภัยอาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทํางาน เพื่อใช้ในการศึกษาค้นคว้า และการเรียนรู้ของบุคลากร ส่วนข้ออื่น ๆ มีผลการพัฒนาอยู่ในระดับ มากที่สุด

3.2) ผลการวิเคราะห์คะแนนการประเมินความรู้ความเข้าใจในการป้องกันตนเองให้ปลอดภัยของนักเรียนขั้นประถมศึกษาปีที่ 3 และ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ในภาพรวมพบว่านักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 และ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนวัดโรงเข้ มีความรู้ความเข้าใจในการป้องกันตนเองให้ปลอดภัย อยู่ในระดับ มาก ทั้งสองระดับชั้น

โพสต์โดย pong : [20 พ.ค. 2564 เวลา 06:57 น.]
อ่าน [4645] ไอพี : 110.168.234.65
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 26,542 ครั้ง
สรุปจำนวนผู้สมัครสอบแข่งขัน ตำแหน่งครูผู้ช่วย ปี พ.ศ. 2560
สรุปจำนวนผู้สมัครสอบแข่งขัน ตำแหน่งครูผู้ช่วย ปี พ.ศ. 2560

เปิดอ่าน 18,124 ครั้ง
น้ำขิงมะนาว สูตรนี้ได้คุณค่าจากสมุนไพรคูณสอง !
น้ำขิงมะนาว สูตรนี้ได้คุณค่าจากสมุนไพรคูณสอง !

เปิดอ่าน 15,867 ครั้ง
ไม่อยากเป็นโรคกระดูกพรุน น้ำมะเขือเทศช่วยได้
ไม่อยากเป็นโรคกระดูกพรุน น้ำมะเขือเทศช่วยได้

เปิดอ่าน 22,369 ครั้ง
วิธีจัดห้องเพื่อพัฒนาสมอง
วิธีจัดห้องเพื่อพัฒนาสมอง

เปิดอ่าน 16,394 ครั้ง
ผลวิจัยการใช้แท็บเล็ตตามกระแส BYOT: Bring Your Own Technology
ผลวิจัยการใช้แท็บเล็ตตามกระแส BYOT: Bring Your Own Technology

เปิดอ่าน 55,124 ครั้ง
เทคโนโลยีสารสนเทศกับการปฏิรูปการศึกษา
เทคโนโลยีสารสนเทศกับการปฏิรูปการศึกษา

เปิดอ่าน 98,281 ครั้ง
ฟุตซอล(Futsal): กติกาข้อ 3 จำนวนผู้เล่น(The Number Of Players)
ฟุตซอล(Futsal): กติกาข้อ 3 จำนวนผู้เล่น(The Number Of Players)

เปิดอ่าน 22,136 ครั้ง
ยุบ สพฐ. จัดตั้งของใหม่ คิดกันดีแล้วเหรอ?? ไม่เหนื่อยต่อการพายเรือในอ่างหรือ?!
ยุบ สพฐ. จัดตั้งของใหม่ คิดกันดีแล้วเหรอ?? ไม่เหนื่อยต่อการพายเรือในอ่างหรือ?!

เปิดอ่าน 42,361 ครั้ง
ลักษณะสำคัญของการวิจัยปฏิบัติการในชั้นเรียน
ลักษณะสำคัญของการวิจัยปฏิบัติการในชั้นเรียน

เปิดอ่าน 36,459 ครั้ง
ขั้นตอนการใช้งานระบบลงทะเบียนและติดตามประเมินผลครูผู้เข้ารับการพัฒนา
ขั้นตอนการใช้งานระบบลงทะเบียนและติดตามประเมินผลครูผู้เข้ารับการพัฒนา

เปิดอ่าน 14,041 ครั้ง
การเลือกซื้อเครื่องอิงค์เจ็ตพรินเตอร์
การเลือกซื้อเครื่องอิงค์เจ็ตพรินเตอร์

เปิดอ่าน 20,431 ครั้ง
น้ำสมุนไพร ปรับสมดุลธาตุ เวลาไหนควรดื่ม
น้ำสมุนไพร ปรับสมดุลธาตุ เวลาไหนควรดื่ม

เปิดอ่าน 13,234 ครั้ง
หนอนคืบ
หนอนคืบ

เปิดอ่าน 16,621 ครั้ง
นางสงกรานต์ปี 2558 ชื่อ "รากษสเทวี"
นางสงกรานต์ปี 2558 ชื่อ "รากษสเทวี"

เปิดอ่าน 29,852 ครั้ง
เกลือในทะเล มาจากไหน?
เกลือในทะเล มาจากไหน?

เปิดอ่าน 29,173 ครั้ง
สรุปสูตรการเลื่อนแกนทางขนาน
สรุปสูตรการเลื่อนแกนทางขนาน
เปิดอ่าน 15,222 ครั้ง
10 เหตุผลที่ลดเท่าไหร่น้ำหนักก็ไม่ลงสักที
10 เหตุผลที่ลดเท่าไหร่น้ำหนักก็ไม่ลงสักที
เปิดอ่าน 18,708 ครั้ง
การแก้ปัญหาการศึกษาไทย คันที่หลัง อย่าไปเกาที่ขา
การแก้ปัญหาการศึกษาไทย คันที่หลัง อย่าไปเกาที่ขา
เปิดอ่าน 79,162 ครั้ง
กาลามสูตร
กาลามสูตร
เปิดอ่าน 9,930 ครั้ง
ขนาดเด็กน้อยยังต้องฟัง กังนัม สไตล์ กินข้าว
ขนาดเด็กน้อยยังต้องฟัง กังนัม สไตล์ กินข้าว

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ