ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนาการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบบูรณาการเพื่อพัฒนาทักษะพื้นฐานด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3

การพัฒนาทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์สำหรับนักเรียนที่ได้รับการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ แบบบูรณาการด้วยกระบวนการวิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาล 1 “สุรินทร์วิทยาคม” สังกัดกองการศึกษา เทศบาลเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ ปีการศึกษา 2563 เป็นการวิจัยและพัฒนา (research and development) ซึ่งประกอบไปด้วย 4 ขั้นตอน คือ

1) การวิจัย (research) เพื่อศึกษาข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับบริบทของการจัดกิจกรรมด้วยกระบวนการวิทยาศาสตร์เพื่อประเมินทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3

2) การพัฒนา (development) เป็นการสร้างและหาประสิทธิภาพของแผนประสบการณ์แบบบูรณาการด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 3) การวิจัย (research) ศึกษาผลการทดลองการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบบูรณาการด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 และ 4) การพัฒนา (development)เพื่อศึกษาความพึงพอใจสำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 ที่ได้รับการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบบูรณาการด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ นักเรียนปฐมวัยชั้นอนุบาลปีที่ 3/4 ของโรงเรียนเทศบาล 1 “สุรินทร์วิทยาคม” สังกัดกองการศึกษา เทศบาลเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563 จำนวน 26 คน แบบแผนในการวิจัย ใช้การทดลองแบบ pre experimental design โดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย 1) แผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบบูรณาการด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เป็นแผนการจัดประสบการณ์ จำนวน 15 แผน 2) แบบประเมินทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ เป็นแบบประเมินทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์สำหรับนักเรียน อายุ 5-6 ปี ลักษณะข้อสอบเป็นสถานการณ์ประกอบรูปภาพ 4 ชุด จำนวน 20 ข้อ ประกอบด้วย ชุดที่ 1 ทักษะการสังเกต ชุดที่ 2 ทักษะการจำแนกประเภท ชุดที่ 3 ทักษะการวัด ชุดที่ 4 ทักษะการสื่อความหมาย 3) แบบสอบถามวัดความพึงพอใจในการเรียน เป็นแบบสอบถาม เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) จำนวน 1 ชุด 10 ข้อการวิจัยครั้งนี้ มุ่งพัฒนาทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ เพื่อเสริมสร้างทักษะทางวิทยาศาสตร์ ประกอบด้วย โดยการศึกษาความคิดเห็นและข้อมูลพื้นฐานต่าง ๆ แล้วนำมาพัฒนากิจกรรมการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบบูรณาการด้วยกระบวนการวิทยาศาสตร์ มีเนื้อหา จำนวน 3 หน่วย 15 กิจกรรม คือ หน่วยที่ 1 หน่วย สัมผัสนิดคิดเรียนรู้ กิจกรรมที่ 1 ตาของฉันนั้นสดใส กิจกรรมที่ 2 จมูกมีไว้ใช้ดมกลิ่น กิจกรรมที่ 3 หูฟังเสียงให้ได้ยิน กิจกรรมที่ 4 ลิ้นชิมรสให้รู้ดี กิจกรรมที่ 5 มือไว้คลำทำให้รู้ หน่วยที่ 2 หน่วยคุณหนูรักต้นไม้ กิจกรรมที่ 6 ต้นไม้นี้เป็นที่รัก กิจกรรมที่ 7 ปลูกผักนะคุณหนู กิจกรรมที่ 8 รากดูดน้ำเลี้ยงต้นใบให้เชิดชู กิจกรรมที่ 9 มาเรียนรู้ใบไม้ใช้เป็นยา กิจกรรมที่ 10 สีสันสวยปลอดภัยใครช่างคิด หน่วยที่ 3 หน่วยน้ำแสนวิเศษ กิจกรรมที่ 11 ช่วยบอกนิดน้ำมาจากแห่งไหน กิจกรรมที่ 12 จมหรือลอยพิสูจน์หน่อยเป็นไร กิจกรรมที่ 13 น้ำเปลี่ยนไปตามรูปร่างช่างอัศจรรย์ กิจกรรมที่ 14 น้ำฟองสบู่ดูเพลินเกินเสกสรร กิจกรรมที่ 15 น้ำมีคุณต่อเรามากมายครัน ซึ่งในการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบบูรณาการด้วยกระบวนการวิทยาศาสตร์ ประกอบด้วยส่วนหน้า ได้แก่ คำนำ วัตถุประสงค์ การออกแบบการเรียนรู้ คำชี้แจงในการใช้คู่มือครู บทบาทของครู แผนการจัดประสบการณ์ คู่มือการประเมิน แบบประเมินทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ ตัวอย่าง ภาพสถานการณ์ประกอบคำถาม วิเคราะห์ข้อมูลโดยการใช้ค่าสถิติ ร้อยละ (%) ค่าเฉลี่ย ( ) ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) ค่าทดสอบค่าที (t-test) แบบ dependent และการวิเคราะห์เนื้อหา (content analysis) แล้วนำเสนอแบบพรรณาความและตาราง

สรุปผลการวิจัย

จากการวิจัยครั้งนี้สามารถสรุปได้ ดังนี้

1. ผลการศึกษาข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับบริบทของการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบบูรณาการด้วยกระบวนการวิทยาศาสตร์ เพื่อประเมินทักษะพื้นฐานสำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 ที่ได้รับการจัดประสบการณ์ด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ดังนี้

1.1 ผลการศึกษาแนวคิด ทฤษฎี งานวิจัยและเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบบูรณาการด้วยกระบวนการวิทยาศาสตร์ เพื่อประเมินทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 จากการศึกษาเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง พบว่า การจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบบูรณาการด้วยกระบวนการวิทยาศาสตร์ เพื่อประเมินทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ เป็นนวัตกรรมและเทคโนโลยีทางการศึกษาที่มีความเหมาะสมที่จะนำไปจัดการเรียนการสอนได้เป็นอย่างดี เพราะการจัดประสบการณ์แบบบูรณาการด้วยกระบวนการวิทยาศาสตร์เพื่อประเมินทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ สามารถช่วยพัฒนาทักษะการเรียนได้และยังช่วยอำนวยความสะดวกแก่ครู นอกจากนี้การจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบบูรณาการด้วยกระบวนการวิทยาศาสตร์ ยังสามารถประเมินทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งทำให้มีความเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ

1.2 ผลการวิเคราะห์หลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช 2560 พบว่า หลักสูตรการศึกษาปฐมวัย เป็นหลักสูตรที่พัฒนาเด็กตั้งแต่แรกเกิดถึง 6 ปี บนพื้นฐานการอบรมเลี้ยงดูและการส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้ที่สนองต่อธรรมชาติและพัฒนาการของเด็กแต่ละคน ตามศักยภาพภายใต้บริบทของสังคม – วัฒนธรรมที่เด็กอาศัยอยู่ ด้วยความรัก ความเอื้ออาทร และความเข้าใจของทุกคน เพื่อสร้างรากฐานคุณภาพชีวิตให้พัฒนาเด็กไปสู่ความเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์เกิดคุณค่าต่อตนเองและสังคม นอกจากนี้หลักสูตรการศึกษาปฐมวัยสำหรับเด็กอายุ 3 – 6 ปี มุ่งให้เด็กมีพัฒนาการด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคมและสติปัญญาที่เหมาะสมกับวัย ความสามารถและความแตกต่างระหว่างบุคคล จึงกำหนดจุดหมายซึ่งถือเป็นมาตรฐานคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ร่างกายเจริญเติบโตตามวัย และมีสุขนิสัยที่ดี กล้ามเนื้อใหญ่และกล้ามเนื้อเล็กแข็งแรงใช้อย่างคล่องแคล่วและประสานสัมพันธ์กัน มีสุขภาพจิตดีและมีความสุข มีคุณธรรม จริยธรรม และมีจิตใจที่ดีงาม ชื่นชมและแสดงออกทางศิลปะ ดนตรี การเคลื่อนไหวและรักการออกกำลังกาย ช่วยเหลือตนเองได้เหมาะสมกับวัย รักธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วัฒนธรรมและความเป็นไทย อยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุขและปฏิบัติตนเป็นสมาชิกที่ดีของสังคมในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขใช้ภาษาสื่อสารได้เหมาะสมกับวัย มีความสามารถในการคิดและการแก้ปัญหาได้เหมาะสมกับวัยมีจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์มีเจตคติที่ดีต่อการเรียนรู้ และมีทักษะในการแสวงหาความรู้ ผลการศึกษาความคิดเห็นและความต้องการของนักเรียนเกี่ยวกับการจัดประสบการณ์ การเรียนรู้แบบบูรณาการด้วยกระบวนการวิทยาศาสตร์ เพื่อประเมินทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 กิจกรรมการวัดผลและประเมินผล พบว่า ผู้เรียนและผู้ที่เกี่ยวข้องเห็นว่า การพัฒนาทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ ที่ได้รับการจัดประสบการณ์ด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์แบบบูรณาการ สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 ควรใช้ภาษาที่เข้าใจง่าย มีตัวอย่าง ลักษณะของกิจกรรมที่ชัดเจน รูปภาพสวยสีสันเหมาะสมกับเด็กปฐมวัย นอกจากเนื้อหาในหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช 2560 แล้วควรเพิ่มเติมหรือแทรกเนื้อหาให้สอดคล้องกับการนำไปใช้ในชีวิตประจำวันในทุกกิจกรรมทั้ง 15 กิจกรรม ด้านการนำการจัดประสบการณ์กิจกรรมกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ไปใช้ โดยการจัดเป็นกลุ่ม 4-5 คน เรียนรู้จากแหล่งเรียนรู้ เรียนรู้ด้วยตนเองเป็นรายบุคคล เรียนรู้แบบกลุ่มย่อย 2 คน มีการวัดผลและประเมินผลครอบคลุมด้านความรู้ ทักษะกระบวนการและเจตคติ โดยใช้เครื่องมือที่หลากหลาย เช่น หน่วยสัมผัสนิดคิดเรียนรู้ เรื่องที่ 1 การมองเห็น กิจกรรมตาของฉันนั้นสดใส เครื่องมือที่ใช้ เพลงตา เครื่องเคาะจังหวะ ปริศนาคำทาย ไม้บล็อก กระจก กล่อง ไฟฉาย เทปกาว กระดาษ A4 สีน้ำ พู่กัน นอกจากนี้การจัดกิจกรรมในแต่ละกิจกรรมก็จะใช้เครื่องมือ วัสดุ อุปกรณ์ที่สอดคล้องกับการจัดกิจกรรมในแต่ละชุด

2. ผลการพัฒนา (development) การสร้างและหาประสิทธิภาพของแผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบบูรณาการด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาล ปีที่ 3 ตามเกณฑ์ 80/80 พบว่า

2.1 ประสิทธิภาพของแผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบบูรณาการด้วยกระบวนการวิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 ที่ผู้วิจัยสร้างและพัฒนาขึ้น มีประสิทธิภาพ เท่ากับ 82.97 / 82.79 ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน 80/80

2.2 การเปรียบเทียบการประเมินทักษะก่อนการพัฒนาและหลังการประกอบการจัดกิจกรรมด้วยกระบวนการวิทยาศาสตร์เพื่อประเมินทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์สำหรับนักเรียน ชั้นอนุบาลปีที่ 3 ที่ได้รับการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบบูรณาการด้วยกระบวนการวิทยาศาสตร์ คะแนนเฉลี่ยหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ .01 โดยมีค่า t เท่ากับ 10.83*

3. ผลการทดลองพัฒนาทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 ที่ได้รับการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบบูรณาการด้วยกระบวนการวิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาล 1 “สุรินทร์วิทยาคม” สังกัดกองการศึกษา เทศบาลเมืองสุรินทร์ จำนวน 26 คน ซึ่งใช้การจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบบูรณาการด้วยกระบวนการวิทยาศาสตร์ จำนวน 15 ชั่วโมง ไม่รวมประเมินทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ ผลการทดลองใช้ พบว่า นักเรียนส่วนใหญ่ มีความสนใจ กระตือรือร้นในการเรียนรู้ด้วยการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบบูรณาการด้วยกระบวนการวิทยาศาสตร์ มีทักษะการแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง มีความสุข สนุกกับการเรียน มีความรับผิดชอบในการเรียนรู้ กิจกรรมกระบวนการทางวิทยาศาสตร์แบบบูรณาการที่นำมาทดลองใช้ นำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงมาประกอบการเรียนรู้

4. ผลการประเมินความพึงพอใจในการเรียนของนักเรียนปฐมวัยชั้นอนุบาลปีที่ 3 ที่มีต่อจัดกิจกรรมด้วยกระบวนการวิทยาศาสตร์ เพื่อประเมินทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์สำหรับนักเรียน ชั้นอนุบาลปีที่ 3 ที่ได้รับการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบบูรณาการด้วยกระบวนการวิทยาศาสตร์ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก ( = 2.52 , S.D.= 0.69) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 0.69 แสดงว่า นักเรียนมีความพึงพอใจมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อนักเรียนมีความพึงพอใจมาก จำนวน 6 ข้อ พึงพอใจปานกลาง จำนวน 4 ข้อ

โพสต์โดย ครูบี : [28 พ.ค. 2564 เวลา 03:13 น.]
อ่าน [2775] ไอพี : 223.205.247.2
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 22,938 ครั้ง
ผักแว่น...ผักพื้นบ้านแต่มีคุณค่า
ผักแว่น...ผักพื้นบ้านแต่มีคุณค่า

เปิดอ่าน 9,681 ครั้ง
อะแคนทะมีบา ภัย คอนแทคเลนส์
อะแคนทะมีบา ภัย คอนแทคเลนส์

เปิดอ่าน 443,919 ครั้ง
     กาพย์สุรางคนางค์ ๒๘  พร้อมตัวอย่าง ง่ายต่อการจดจำ
กาพย์สุรางคนางค์ ๒๘ พร้อมตัวอย่าง ง่ายต่อการจดจำ

เปิดอ่าน 14,967 ครั้ง
ปีใหม่แล้ว.....แต่การศึกษาไทยยังบ้าไม่เลิก!
ปีใหม่แล้ว.....แต่การศึกษาไทยยังบ้าไม่เลิก!

เปิดอ่าน 24,173 ครั้ง
แนวทางปฏิบัติในการจัดหาพัสดุด้วยวิธีตลาดอิเล็กทรอนิกส์ (e-market) และด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding)
แนวทางปฏิบัติในการจัดหาพัสดุด้วยวิธีตลาดอิเล็กทรอนิกส์ (e-market) และด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding)

เปิดอ่าน 20,501 ครั้ง
5 สิ่งไม่ควรทำหลังทานอาหารเสร็จใหม่ ๆ
5 สิ่งไม่ควรทำหลังทานอาหารเสร็จใหม่ ๆ

เปิดอ่าน 18,086 ครั้ง
ผมขอร้องนะ..ครู
ผมขอร้องนะ..ครู

เปิดอ่าน 10,797 ครั้ง
เกณฑ์ราคากลางและคุณลักษณะพื้นฐานครุภัณฑ์คอมพิวเตอร์ ฉบับเดือนมีนาคม พ.ศ. 2562
เกณฑ์ราคากลางและคุณลักษณะพื้นฐานครุภัณฑ์คอมพิวเตอร์ ฉบับเดือนมีนาคม พ.ศ. 2562

เปิดอ่าน 16,306 ครั้ง
จุฬาฯวิจัยเปลือกมังคุดพบคุณค่าอื้อ ต้านอักเสบ รักษาเซลล์มะเร็ง
จุฬาฯวิจัยเปลือกมังคุดพบคุณค่าอื้อ ต้านอักเสบ รักษาเซลล์มะเร็ง

เปิดอ่าน 55,713 ครั้ง
ใครว่าการเขียนด้วยลายมือนั้นล้าสมัย?
ใครว่าการเขียนด้วยลายมือนั้นล้าสมัย?

เปิดอ่าน 15,323 ครั้ง
"ข่า" แก้ไอเจ็บคอเสมหะผู้ใหญ่
"ข่า" แก้ไอเจ็บคอเสมหะผู้ใหญ่

เปิดอ่าน 11,010 ครั้ง
8 เรื่องควรใส่ใจดูแล รถใช้ก๊าซ
8 เรื่องควรใส่ใจดูแล รถใช้ก๊าซ

เปิดอ่าน 11,503 ครั้ง
วัคซีน"หวัด09"เข็มเดียวอยู่
วัคซีน"หวัด09"เข็มเดียวอยู่

เปิดอ่าน 39,667 ครั้ง
ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับทองคำ
ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับทองคำ

เปิดอ่าน 9,703 ครั้ง
เตือนภาชนะจากพลาสติก อันตรายต่อสมอง
เตือนภาชนะจากพลาสติก อันตรายต่อสมอง

เปิดอ่าน 9,067 ครั้ง
ไขข้อข้องใจ ไข้หวัดใหญ่พันธุ์ใหม่ ลามทั่วโลก
ไขข้อข้องใจ ไข้หวัดใหญ่พันธุ์ใหม่ ลามทั่วโลก
เปิดอ่าน 15,006 ครั้ง
4 ท่าบริหาร เพื่อหน้าท้องเพรียวสวย
4 ท่าบริหาร เพื่อหน้าท้องเพรียวสวย
เปิดอ่าน 14,516 ครั้ง
"เมียนมาร์" "เบอร์มา" ชื่อนั้นสำคัญไฉน
"เมียนมาร์" "เบอร์มา" ชื่อนั้นสำคัญไฉน
เปิดอ่าน 12,228 ครั้ง
11 ก.พ.นี้ ห้ามสูบบุหรี่ใน "ผับ-เธค-สวนอาหาร-จตุจักร"
11 ก.พ.นี้ ห้ามสูบบุหรี่ใน "ผับ-เธค-สวนอาหาร-จตุจักร"
เปิดอ่าน 12,104 ครั้ง
6 เหตุผลน่าแปลกใจ ทำไมถึงนอนไม่หลับ
6 เหตุผลน่าแปลกใจ ทำไมถึงนอนไม่หลับ

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ