ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการเรียนรู้ 5 ขั้น เพื่อพัฒนาทักษะความคิดสร้างสรรค์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2

ชื่อเรื่อง : การพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการเรียนรู้ 5 ขั้น เพื่อพัฒนาทักษะ

ความคิดสร้างสรรค์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2

ผู้วิจัย : นางกิตติยาภรณ์ สำเภา

หน่วยงาน : โรงเรียนหนองทุ่มศรีสำราญวิทยา สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดศรีสะเกษ

ปีที่วิจัย : ปีการศึกษา 2562 - 2563

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการเรียนรู้ 5 ขั้น เพื่อพัฒนาทักษะความคิดสร้างสรรค์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อหาประสิทธิผลของชุดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการเรียนรู้ 5 ขั้น เพื่อพัฒนาทักษะความคิดสร้างสรรค์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ด้วยวิธี 2.1) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการเรียนรู้ 5 ขั้น เพื่อพัฒนาทักษะความคิดสร้างสรรค์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 2.2) เปรียบเทียบความคิดสร้างสรรค์ของนักเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการเรียนรู้ 5 ขั้น เพื่อพัฒนาทักษะความคิดสร้างสรรค์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 2.3) ประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการเรียนรู้ 5 ขั้น เพื่อพัฒนาทักษะความคิดสร้างสรรค์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2

การดำเนินการวิจัยมี 4 ขั้นตอน คือ ขั้นตอนที่ 1 การวิจัย (Research : R1) การวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐาน (Analysis : A) เกี่ยวกับสภาพปัญหาและความต้องการของครูผู้สอนและนักเรียนในการจัดการเรียนรู้ เพื่อพัฒนาทักษะความคิดสร้างสรรค์ ขั้นตอนที่ 2 การพัฒนา (Development : D1) การออกแบบ พัฒนา และหาประสิทธิภาพ (Design and Development : D&D) ของชุดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการเรียนรู้ 5 ขั้น เพื่อพัฒนาทักษะความคิดสร้างสรรค์ สำหรับนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ขั้นตอนที่ 3 การวิจัย (Research : R2) การนำไปใช้ (Implementation : I) ชุดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการเรียนรู้ 5 ขั้น เพื่อพัฒนาทักษะความคิดสร้างสรรค์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ขั้นตอนที่ 4 การพัฒนา (Development : D2) การประเมินผล (Evaluation : E) ชุดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการเรียนรู้ 5 ขั้น เพื่อพัฒนาทักษะความคิดสร้างสรรค์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 กลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/1 โรงเรียนหนองทุ่มศรีสำราญวิทยา อำเภอวังหิน จังหวัดศรีสะเกษ ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2563 จำนวน 30 คน ได้มาโดยวิธีการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ 1) แบบบันทึกการประชุมขั้นการสะท้อนการจัดการเรียนรู้ (Reflect) After Action Review : AAR 2) แบบสอบถามปัญหาและความต้องการในการเรียนวิชาคอมพิวเตอร์กราฟิกและ การออกแบบ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 3) ชุดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการเรียนรู้ 5 ขั้น เพื่อพัฒนาทักษะความคิดสร้างสรรค์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 6 ชุด 4) แผนการจัดการเรียนรู้ประกอบการจัดการเรียนรู้ จำนวน 6 แผน 5) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน จำนวน 40 ข้อ เป็นแบบปรนัยชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก 6)แบบทดสอบวัดความคิดสร้างสรรค์ จำนวน 4 กิจกรรมและ 7) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการเรียนรู้ 5 ขั้น เพื่อพัฒนาทักษะความคิดสร้างสรรค์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 เป็นแบบสอบถามชนิดมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) 5 ระดับ จำนวน 20 ข้อ สถิติที่ใช้ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าร้อยละ และค่าที (t-test dependent samples)

ผลการวิจัยพบว่า

1. ผลการวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับสภาพปัญหาและความต้องการของครูผู้สอนและนักเรียนในการจัดการเรียนรู้ เพื่อพัฒนาทักษะความคิดสร้างสรรค์ ปรากฏดังนี้

1.1 สภาพการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ของครูผู้สอนวิชาคอมพิวเตอร์กราฟิกและการออกแบบ พบว่า

1.1.1 ประเด็นที่ได้รับการสะท้อนจากการจัดการเรียนรู้ คือ 1) ประเด็นด้านครู คือ ครูมุ่งสอนเนื้อหาโดยการอธิบายหรือบรรยายเป็นส่วนใหญ่ ครูขาดการใช้คำถามที่ให้นักเรียนเกิดการคิดหรือเกิดการอยากเรียนรู้ ครูไม่เปิดกว้างสำหรับคำตอบของนักเรียน 2) ประเด็นด้านสื่อการสอน คือ ครูไม่มีสื่อการเรียนรู้ที่น่าสนใจ ไม่มีสื่อที่ให้นักเรียนค้นคว้าหรือสืบเสาะหาความรู้เพิ่มเติม 3) ประเด็นด้านกิจกรรม คือ มีการจัดลำดับขั้นตอนและความต่อเนื่องของกิจกรรมไม่ดีพอ การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ไม่ทำให้นักเรียนเกิดการเรียนรู้ด้วยตนเองเพราะส่วนใหญ่ยึดครูเป็นศูนย์กลาง สอนโดยการอธิบายหรือบรรยายเป็นส่วนใหญ่ การจัดกิจกรรมของครูไม่เปิดโอกาสให้นักเรียนได้ร่วมแสดงความคิดเห็น ครูขาดการเสริมแรงการให้กำลังใจนักเรียน กิจกรรมกลุ่มครูยังควบคุมได้ไม่ดีพอ และ 4) ประเด็นด้านผู้เรียน นักเรียนเกิดความเบื่อหน่าย ขาดความสนใจในการเรียน นักเรียนไม่กล้าคิด ไม่กล้าแสดงออก ไม่สามารถคิดหาคำตอบได้หลากหลายรูปแบบในเนื้อหาสาระการเรียนรู้ที่กำหนดให้ นักเรียนไม่สามารถสร้างองค์ความรู้ได้ นักเรียนแต่ละกลุ่มไม่มีความร่วมมือหรือช่วยเหลือกัน

1.1.2 ข้อเสนอแนะในการแก้ปัญหาการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ คือ 1) ประเด็นด้านครู ครูควรให้นักเรียนได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมการเรียนรู้โดยยึดนักเรียนเป็นศูนย์กลาง ครูควรมีการใช้คำถามที่ให้นักเรียนเกิดการคิดหรือเกิดการอยากเรียนรู้อยากค้นหาคำตอบ ครูควรมีการใช้คำถามที่เปิดกว้างหรือกิจกรรมที่ให้นักเรียนเกิดการคิดค้นหาคำตอบได้อย่างหลากหลายรูปแบบ 2) ประเด็นด้านสื่อการสอน ครูควรมีสื่อการเรียนรู้ที่น่าสนใจ และเป็นสื่อที่ส่งเสริมให้นักเรียนได้เกิดความคิดสร้างสรรค์มีความเหมาะสมกับเนื้อหาและนักเรียน ครูควรมีสื่อการเรียนรู้ที่ให้นักเรียนได้ศึกษาค้นคว้าหรือสืบเสาะหาความรู้เพิ่มเติม 3) ประเด็นด้านกิจกรรม ครูควรจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่มีการจัดลำดับขั้นตอนอย่างชัดเจนและมีความต่อเนื่องโดยมีรูปแบบขั้นตอนของการจัดกิจกรรมที่ชัดเจน ควรจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ให้นักเรียนได้ศึกษาด้วยตนเองยึดนักเรียนเป็นสำคัญดูความแตกต่างของนักเรียน มีเทคนิคการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่หลากหลาย เปิดโอกาสให้นักเรียนได้ร่วมระดมความคิดอย่างเปิดกว้าง ควรจัดกิจกรรมกลุ่มให้นักเรียนที่มีความแตกต่างกันอยู่ร่วมกลุ่ม และครูควรมีการเสริมแรงมีการให้กำลังใจนักเรียนเพื่อให้นักเรียนเกิดความสุขมีกำลังใจอยากที่จะเรียน และ 4) ประเด็นด้านผู้เรียน ครูควรนำสื่อการเรียนรู้ที่น่าสนใจมาใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ และเป็นสื่อที่ให้นักเรียนได้ร่วมแสดงแนวการหาคำตอบอย่างสร้างสรรค์ และหาคำตอบได้หลากหลายรูปแบบ มีการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่หลากหลาย น่าสนใจ สนุกสนาน ให้ร่วมคิดร่วมแสดงออก ไม่ทำให้นักเรียนเกิดความเบื่อหน่าย เกิดความสนใจเรียน และมีการเสริมแรงให้กำลังใจนักเรียน เพื่อให้นักเรียนมีความสุขในการเรียน

1.2 ปัญหาและความต้องการในการเรียนวิชาคอมพิวเตอร์กราฟิกและการออกแบบ ชั้นมัธยม

ศึกษาปีที่ 2 พบว่า

1.2.1 ปัญหาในการเรียนวิชาคอมพิวเตอร์กราฟิกและการออกแบบของนักเรียน 3 อันดับแรก คือ 1) เรื่อง ปฏิบัติการใช้งานโปรแกรม Adobe Photoshop CS6 เบื้องต้น ซึ่งเป็นเรื่องที่ยากเพราะเป็นเรื่องที่ต้องใช้เป็นพื้นฐานในการเรียนวิชาคอมพิวเตอร์กราฟิกและการออกแบบ ต้องใช้ความรู้เกี่ยวกับโปรแกรมและทักษะทางคอมพิวเตอร์ 2) สื่อการเรียนรู้ของครูไม่น่าสนใจ และ 3) หากนักเรียน เรียนไม่เข้าใจครูไม่มีสื่อที่ให้นักเรียนได้ค้นคว้าหาความรู้เพิ่มเติม จึงทำให้ไม่อยากที่จะเรียน

1.2.2 ความต้องการของนักเรียนในการเรียนวิชาคอมพิวเตอร์กราฟิกและการออกแบบ 3 อันดับแรก คือ 1) ครูควรมีสื่อการเรียนรู้ที่น่าสนใจเหมาะสมกับเนื้อหาและนักเรียนและเป็นสื่อที่ให้นักเรียนได้ร่วมแสดงแนวการหาคำตอบได้หลากหลายรูปแบบ 2) ครูควรกิจกรรมการเรียนรู้ที่หลากหลาย มีลำดับขั้นตอนวิธีการจัดการเรียนรู้ที่เร้าความสนใจกระตุ้นให้อยากเรียนรู้ ไม่เบื่อหน่าย และ 3) ครูควรมีตัวอย่างสื่อ เรื่อง ปฏิบัติการใช้งานโปรแกรม Adobe Photoshop CS6 เบื้องต้น ให้นักเรียนศึกษาค้นคว้าสืบเสาะหาความรู้เพิ่มเติม เพื่ออธิบายเนื้อหาวิชาให้เข้าใจ

2. ผลการพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการเรียนรู้ 5 ขั้น เพื่อพัฒนาทักษะความคิดสร้างสรรค์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 พบว่า ชุดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการเรียนรู้ 5 ขั้น เพื่อพัฒนาทักษะความคิดสร้างสรรค์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีองค์ประกอบ คือ องค์ประกอบด้านการจัดการ องค์ประกอบด้านเนื้อหา และองค์ประกอบด้านการประเมินผล กิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการเรียนรู้ 5 ขั้น คือ ขั้นที่ 1 ขั้นกระตุ้นความสนใจ ขั้นที่ 2 ขั้นสืบค้นความรู้และสารสนเทศ ขั้นที่ 3 ขั้นอธิบายความรู้ ขั้นที่ 4 ขั้นการเผยแพร่ความรู้ ขั้นที่ 5 ขั้นตอบแทนสังคมและประเมินผล จากการทดลองใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการเรียนรู้ 5 ขั้น เพื่อพัฒนาทักษะความคิดสร้างสรรค์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 แบบภาคสนาม กับนักเรียนที่ไม่ใช่กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 30 คน โดยใช้เกณฑ์ประสิทธิภาพ 80/80 ปรากฏว่า ประสิทธิภาพของชุดกิจกรรมการเรียนรู้ (E1/E2) เท่ากับ 80.31/80.08

3. ผลการทดลองใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการเรียนรู้ 5 ขั้น เพื่อพัฒนาทักษะความคิดสร้างสรรค์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ปรากฏดังนี้

3.1 ชุดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการเรียนรู้ 5 ขั้น เพื่อพัฒนาทักษะความคิดสร้างสรรค์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีประสิทธิภาพ เท่ากับ 80.99/80.33

3.2 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการเรียนรู้ 5 ขั้น เพื่อพัฒนาทักษะความคิดสร้างสรรค์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01

3.3 ความคิดสร้างสรรค์ของนักเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการเรียนรู้ 5 ขั้น เพื่อพัฒนาทักษะความคิดสร้างสรรค์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01

4. ผลการประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการเรียนรู้ 5 ขั้น เพื่อพัฒนาทักษะความคิดสร้างสรรค์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 หลังการเรียนรู้ พบว่า นักเรียนมีความพึงพอใจโดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด

โพสต์โดย ครูเมย์ : [28 ส.ค. 2564 เวลา 06:15 น.]
อ่าน [2319] ไอพี : 223.205.226.81
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 83,588 ครั้ง
10 วิธีช่วยให้ลูกเก่งคณิตศาสตร์
10 วิธีช่วยให้ลูกเก่งคณิตศาสตร์

เปิดอ่าน 29,108 ครั้ง
ดนตรีบำบัด
ดนตรีบำบัด

เปิดอ่าน 9,815 ครั้ง
สุดระทึก ขับรถฝ่าไฟแดง หนีการจับกุมตำรวจ
สุดระทึก ขับรถฝ่าไฟแดง หนีการจับกุมตำรวจ

เปิดอ่าน 7,594 ครั้ง
Single Gateway กับสังคมไทย "เมื่อกล่องแพนดอร่าเปิดแล้ว"
Single Gateway กับสังคมไทย "เมื่อกล่องแพนดอร่าเปิดแล้ว"

เปิดอ่าน 49,124 ครั้ง
ฟุตซอล(Futsal): กติกาข้อ 9 การเริ่มเล่นและการเริ่มเล่นใหม่
ฟุตซอล(Futsal): กติกาข้อ 9 การเริ่มเล่นและการเริ่มเล่นใหม่

เปิดอ่าน 13,638 ครั้ง
"โปรตีน" ตัวช่วยของสาวอยากผอม
"โปรตีน" ตัวช่วยของสาวอยากผอม

เปิดอ่าน 8,420 ครั้ง
(ร่าง)กรอบทิศทางแผนการศึกษาชาติ พ.ศ. ๒๕๖๐ - ๒๕๗๔
(ร่าง)กรอบทิศทางแผนการศึกษาชาติ พ.ศ. ๒๕๖๐ - ๒๕๗๔

เปิดอ่าน 33,457 ครั้ง
xDSL คืออะไร?
xDSL คืออะไร?

เปิดอ่าน 3,720 ครั้ง
ไฟฟ้ามาจากไหน ใช้อะไรในการผลิต
ไฟฟ้ามาจากไหน ใช้อะไรในการผลิต

เปิดอ่าน 12,095 ครั้ง
เคล็ดลับการเรียนเก่งด้วยตัวเอง
เคล็ดลับการเรียนเก่งด้วยตัวเอง

เปิดอ่าน 695 ครั้ง
ปักหมุด 7 พิกัดไหว้พระกรุงเทพฯ โดนใจสายมู
ปักหมุด 7 พิกัดไหว้พระกรุงเทพฯ โดนใจสายมู

เปิดอ่าน 37,966 ครั้ง
Verb Tenses Continuous/Non-continuous Verbs
Verb Tenses Continuous/Non-continuous Verbs

เปิดอ่าน 3,875 ครั้ง
เตรียมพร้อม สอบ O-NET ปีการศึกษา 2565
เตรียมพร้อม สอบ O-NET ปีการศึกษา 2565

เปิดอ่าน 33,421 ครั้ง
คู่มือเรียนรู้และปฏิบัติการ การวิจัยในชั้นเรียน พลศึกษา
คู่มือเรียนรู้และปฏิบัติการ การวิจัยในชั้นเรียน พลศึกษา

เปิดอ่าน 13,204 ครั้ง
qr code คืออะไร
qr code คืออะไร

เปิดอ่าน 55,134 ครั้ง
แบ่งปันเทคนิคการอ่าน พ.ร.บ. กฎ ระเบียบต่างๆ ให้เข้าใจและจำง่าย
แบ่งปันเทคนิคการอ่าน พ.ร.บ. กฎ ระเบียบต่างๆ ให้เข้าใจและจำง่าย
เปิดอ่าน 33,681 ครั้ง
รูปแบบการสอน 7 ประการ
รูปแบบการสอน 7 ประการ
เปิดอ่าน 5,950 ครั้ง
"หรือฉันจะเป็นแม่ที่แย่ที่สุด" คลิปดูแล้วอาจจะน้ำตาไหล โดยเฉพาะคนเป็นแม่
"หรือฉันจะเป็นแม่ที่แย่ที่สุด" คลิปดูแล้วอาจจะน้ำตาไหล โดยเฉพาะคนเป็นแม่
เปิดอ่าน 20,032 ครั้ง
ดื่มเบียร์ทุกวัน ทำให้หัวใจแข็งแรงขึ้นได้
ดื่มเบียร์ทุกวัน ทำให้หัวใจแข็งแรงขึ้นได้
เปิดอ่าน 7,925 ครั้ง
ระบบการศึกษาไม่สมดุล (จบ)
ระบบการศึกษาไม่สมดุล (จบ)

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ