|
|
ชื่อเรื่อง รูปแบบการบริหารแบบมีส่วนร่วมโดยใช้สถานศึกษา ชุมชน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นฐานเพื่อพัฒนาแหล่งเรียนรู้ในโรงเรียนแม่หลวงอุปถัมภ์ไทยคีรี สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงราย เขต 4
ผู้รายงาน พรนภา ประยศ
ปีที่จัดทำ 2563-2564
บทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนารูปแบบการบริหารแบบมีส่วนร่วมโดยใช้สถานศึกษา ชุมชน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นฐานเพื่อพัฒนาแหล่งเรียนรู้ในโรงเรียนแม่หลวงอุปถัมภ์ไทยคีรี สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงราย เขต 4 โดยดำเนินการวิจัย 4 ขั้นตอน ได้แก่ ขั้นตอนที่ 1 การศึกษาข้อมูลพื้นฐานของรูปแบบ กลุ่มผู้ให้ข้อมูล คือ ครู จำนวน 27 คน และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 13 คน รวมจำนวน 40 คน ผู้บริหารและครูที่ปฏิบัติงานโรงเรียนต้นแบบ จำนวน 5 โรงเรียน ผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 11 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบสัมภาษณ์ วิเคราะห์ข้อมูลโดยการวิเคราะห์เนื้อหาและสรุปข้อมูล ขั้นตอนที่ 2 สร้างรูปแบบ กลุ่มผู้ให้ข้อมูล คือ ผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 7 คน ได้มาโดยการคัดเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ ประเด็นการสนทนากลุ่มและแบบตรวจสอบ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติคือ ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ขั้นตอนที่ 3 ศึกษาผลการใช้รูปแบบ โดยนำรูปแบบไปใช้จริงกับครูโรงเรียนแม่หลวงอุปถัมภ์ไทยคีรี ในปีการศึกษา 2563 จำนวน 29 คน และปีการศึกษา 2564 จำนวน 25 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบสรุปข้อมูล วิเคราะห์ข้อมูลโดยการวิเคราะห์เนื้อหาและสรุปข้อมูล และขั้นตอนที่ 4 ประเมินรูปแบบ ได้แก่ ประเมินด้านปัจจัยนำเข้า ด้านกระบวนการ และด้านผลผลิต กลุ่มผู้ให้ข้อมูล ได้แก่ ครูปีการศึกษา 2563 จำนวน 29 คน และปีการศึกษา 2564 จำนวน 25 คน ได้มาโดยการคัดเลือกแบบเจาะจง และประเมินความพึงพอใจ กลุ่มผู้ให้ข้อมูล ได้แก่ คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน เจ้าหน้าที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นำชุมชน/ผู้นำท้องถิ่นเขตพื้นที่บริการ ผู้ปกครองนักเรียน ปีการศึกษา 2563 จำนวน 320 คน และปีการศึกษา 2564 จำนวน 320 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบประเมิน และวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติ คือ ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการวิจัยพบว่า
1. ผลการศึกษาข้อมูลพื้นฐาน พบว่า โรงเรียนได้ประสบปัญหาการบริหารจัดการแหล่งเรียนรู้ ไม่สามารถใช้ประโยชน์ด้านพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุด เนื่องมาจากพื้นที่มีจำกัด ไม่ทันสมัย อยู่ในสภาพไม่พร้อมใช้งาน และขาดงบประมาณในการพัฒนาแหล่งเรียนรู้ในโรงเรียน ชุมชนขาดความพร้อมในการให้ความอนุเคราะห์แก่สถานศึกษาหรือผู้เรียน ทั้งด้านกำลังทรัพย์ และการใช้แหล่งเรียนรู้ในการจัดการเรียนการสอนมีจำกัด ไม่หลากหลาย และไม่สอดคล้องกับเนื้อหาสาระการเรียนรู้ ดังนั้นโรงเรียนจึงต้องการพัฒนาแหล่งเรียนรู้ในโรงเรียนให้มีความพร้อมสำหรับจัดการเรียนการสอน ได้แก่ แหล่งเรียนรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่น (การปักผ้าม้ง-การทำผ้าเขียนเทียน) ห้องสมุด ธนาคารขยะ แปลงเกษตร โรงเรือนเลี้ยงไก่ และห้องสื่อและนวัตกรรมโรงเรียน โดยเปิดโอกาสให้ชุมชนและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเข้ามามีส่วนร่วมพัฒนาแหล่งเรียนรู้ในโรงเรียน
2. รูปแบบการบริหารแบบมีส่วนร่วมโดยใช้สถานศึกษา ชุมชน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นฐานเพื่อพัฒนาแหล่งเรียนรู้ในโรงเรียนแม่หลวงอุปถัมภ์ไทยคีรี สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงราย เขต 4 มี 5 องค์ประกอบ ได้แก่ หลักการ วัตถุประสงค์ กระบวนการ การวัดและประเมินผล และเงื่อนไขความสำเร็จ โดยมีกระบวนการ 5 ขั้นตอน ได้แก่ ขั้นวิเคราะห์ปัญหา (Analysis) ขั้นวางแผน (Plan) ขั้นดำเนินการ (Action) ขั้นสังเกตผลและประเมินผล (Observe and Evaluation) ขั้นชื่นชมและสะท้อนผล (Reflection) โดยรวมรูปแบบและคู่มือการใช้รูปแบบมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด
3. ผลการใช้รูปแบบ ทำให้สถานศึกษามีแหล่งเรียนรู้ในโรงเรียน ได้แก่ แหล่งเรียนรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่น (การปักผ้าม้ง-การทำผ้าเขียนเทียน) ห้องสมุด ธนาคารขยะ แปลงเกษตร โรงเรือนเลี้ยงไก่ และห้องสื่อและนวัตกรรมโรงเรียน โดยการมีส่วนร่วมของสถานศึกษา ชุมชน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการพัฒนาแหล่งเรียนรู้ในโรงเรียน ผลลัพธ์ที่เกิดจากการใช้แหล่งเรียนรู้ในโรงเรียนสำหรับการจัดการเรียนการสอน พบว่า 1) ด้านความรู้ ทำให้นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจในวิธีการปักผ้าม้งและการทำผ้าเขียนเทียน การใช้ห้องสมุด กระบวนการดำเนินงานธนาคารขยะและการคัดแยกขยะ การปลูกผักปลอดสารพิษ การเลี้ยงไก่ไข่ และการใช้สื่อนวัตกรรมหรือโครงงานในการศึกษาหาความรู้ 2) ด้านทักษะ นักเรียนมีทักษะและสามารถสร้างผลิตภัณฑ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นจากผ้าม้งและผ้าเขียนเทียน มีทักษะด้านการอ่านและการเขียน มีความสามารถดำเนินงานกิจกรรมธนาคารขยะ และคัดแยกขยะได้อย่างถูกต้อง มีทักษะการจัดการเชิงธุรกิจจากการผลิต จำหน่ายและส่งสนับสนุนโครงการอาหารกลางวันของโรงเรียน 3) ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ นักเรียนรักในความเป็นไทยและเห็นคุณค่าของการอนุรักษ์วัฒนธรรมในท้องถิ่นของตนเอง ใฝ่เรียนรู้ มีนิสัยรักการอ่านและใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ มีจิตสำนึกและตระหนักในเรื่องความสะอาด ดำเนินชีวิตตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง มีวินัย ซื่อสัตย์สุจริต และอยู่อย่างพอเพียง และ 4) ด้านความพึงพอใจ นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้แหล่งเรียนรู้ในปีการศึกษา 2563 อยู่ในระดับมากที่สุด และปีการศึกษา 2564 อยู่ในระดับมากที่สุด
4. ผลการประเมินรูปแบบ พบว่า ผลการประเมินรูปแบบปีการศึกษา 2563 โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ด้านกระบวนการ มีผลการประเมินอยู่ในระดับมากที่สุด รองลงมาคือ ด้านผลผลิต และด้านปัจจัยเข้านำ มีผลการประเมินอยู่ในระดับมาก และปีการศึกษา 2564 โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณาแต่ละด้าน พบว่า ด้านปัจจัยนำเข้า ด้านกระบวนการ และด้านผลผลิต มีผลการประเมินอยู่ในระดับมากที่สุด ตามลำดับ และผลการประเมินความพึงพอใจของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ชุมชน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต่อการดำเนินงานตามรูปแบบ
|
โพสต์โดย นางสาวพรนภา ประยศ : [1 ก.พ. 2565 เวลา 10:36 น.] อ่าน [788] ไอพี : 171.4.236.226
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก
|
|
|
|
|
|
|
โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2. ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป
3. สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น
7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป
** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**
|
|
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ เปิดอ่าน 8,209 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 8,809 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 14,661 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 9,306 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 10,067 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 10,887 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 7,321 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 20,316 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 20,605 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 9,379 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 13,696 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 61,223 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 24,525 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 11,018 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 22,703 ครั้ง 
| |
|
เปิดอ่าน 14,700 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 23,394 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 12,877 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 27,560 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 18,138 ครั้ง 
|
|

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด
|