ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมบทความการศึกษา  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

ราชภัฏกับธนาคาร


บทความการศึกษา 10 ก.ค. 2558 เวลา 08:48 น. เปิดอ่าน : 7,963 ครั้ง
Advertisement

ราชภัฏกับธนาคาร

Advertisement

เสรี พงศ์พิศ
www.phongphit.com

มหาวิทยาลัยราชภัฏมีประวัติความเป็นมายาวนานกว่า 123 ปี ตั้งแต่เป็นโรงเรียนฝึกหัดอาจารย์เมื่อปี 2435 ในรัชกาลที่ 5 เปลี่ยนมาเป็นวิทยาลัยครู และจากวิทยาลัยครูมาเป็นสถาบันราชภัฏเมื่อปี 2538 และเป็นมหาวิทยาลัยราชภัฏเมื่อปี 2547 มีอยู่ 40 แห่งทั่วประเทศ

นับตั้งแต่ก่อตั้งมาจนถึงปัจจุบันมหาวิทยาลัยราชภัฏ (ต่อไปนี้ขอเรียกเพียง ราชภัฏŽ) มีศิษย์เก่าศิษย์ปัจจุบันนับล้านคน เป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาและการดำเนินงานของสังคมไทย วันนี้มีความขัดข้องหมองใจระหว่างราชภัฏกับธนาคารไทยพาณิชย์ เนื่องเพราะการประกาศรับพนักงานโดยไม่มีราชภัฏ

สถาบันอุดมศึกษาทั้งของรัฐและเอกชนในประเทศไทยมีอยู่ 170 กว่าแห่ง แต่ละแห่งก็มีชื่อเสียงในความชำนาญ ความรู้ความสามารถแตกต่างกัน เป็น ทุนŽ ที่สั่งสมมานานและเป็นที่ยอมรับหรือไม่ยอมรับทั่วไป ไม่ใช่เรื่องแปลก ปัญหาความขัดแย้งแบบนี้น่าจะมีในประเทศไทยเท่านั้นกระมัง

บทความนี้เขียนมาด้วยความปรารถนาดีจากประสบการณ์ที่เคยทำงานกับราชภัฏตั้งแต่เป็นวิทยาลัยครู เป็นสถาบันราชภัฏ ในฐานะกรรมการสภาสถาบันหลายแห่ง และกรรมการสภาใหญ่และสภาวิชาการที่กระทรวงศึกษาธิการ ได้บรรยายพิเศษและเป็นที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์ปริญญาเอกให้หลายแห่ง

จำได้ดีว่า ขณะที่มีการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติสถาบันราชภัฏ (ที่ออกมาในปี 2538) นั้นมีการให้ความสำคัญกับมาตราแรกที่ว่าด้วยเนื้อหาสำคัญของพรบ.ฉบับนี้ที่บอกว่า เป็นสถาบันอุดมศึกษาเพื่อการพัฒนาท้องถิ่นŽ มีอยู่ครั้งหนึ่งประโยคนี้หายไป และผมเป็นคนทักท้วงว่า และได้ขอให้นำกลับเข้ามาใหม่ ซึ่งคณะกรรมการสภาก็เห็นด้วย อยากถามราชภัฏวันนี้เหมือนกันว่า ให้ความสำคัญกับมาตรานี้เพียงใด

เมื่อสถาบันราชภัฏได้เปลี่ยนมาเป็นมหาวิทยาลัยราชภัฏ พระราชบัญญัติก็ได้มีการปรับเพียงเล็กน้อยเท่านั้น หัวใจของพรบ.สำคัญยังคงอยู่ และเขียนออกมาได้ดีและอยากให้อ่าน

มาตรา ๗ ให้มหาวิทยาลัยเป็นสถาบันอุดมศึกษาเพื่อการพัฒนาท้องถิ่นที่เสริมสร้างพลังปัญญาของแผ่นดิน ฟื้นฟูพลังการเรียนรู้เชิดชูภูมิปัญญาของท้องถิ่น สร้างสรรค์ศิลปวิทยา เพื่อ ความเจริญก้าวหน้าอย่างมั่นคงและยั่งยืนของปวงชน มีส่วนร่วมในการจัดการ การบํารุงรักษา การใช้ ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างสมดุลและยั่งยืน โดยมีวัตถุประสงค์ให้ การศึกษา ส่งเสริมวิชาการและวิชาชีพชั้นสูง ทําการสอน วิจัย ให้บริการทางวิชาการแก่สังคม ปรับปรุง ถ่ายทอด และพัฒนาเทคโนโลยีทะนุบํารุงศิลปะและวัฒนธรรม ผลิตครูและส่งเสริมวิทย ฐานะครู

มาตรา ๘ ในการดําเนินงานเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามมาตรา ๗ ให้กําหนด ภาระหน้าที่ของมหาวิทยาลัย ดังต่อไปนี้ (๑) แสวงหาความจริงเพื่อสู่ความเป็นเลิศทางวิชาการ บนพื้นฐานของภูมิปัญญา ท้องถิ่น ภูมิปัญญาไทย และภูมิปัญญาสากล (๒) ผลิตบัณฑิตที่มีความรู้คู่คุณธรรม สํานึกในความเป็นไทย มีความรักและผูกพัน ต่อท้องถิ่น อีกทั้งส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตในชุมชน เพื่อช่วยให้คนในท้องถิ่นรู้เท่าทันการ เปลี่ยนแปลง การผลิตบัณฑิตดังกล่าว จะต้องให้มีจํานวนและคุณภาพสอดคล้องกับแผนการผลิต บัณฑิตของประเทศ (๓) เสริมสร้างความรู้ความเข้าใจในคุณค่า ความสํานึก และความภูมิใจในวัฒนธรรม ของท้องถิ่นและของชาติ (๔) เรียนรู้และเสริมสร้างความเข้มแข็งของผู้นําชุมชน ผู้นําศาสนาและนักการเมือง ท้องถิ่นให้มีจิตสํานึกประชาธิปไตย คุณธรรม จริยธรรม และความสามารถในการบริหารงานพัฒนา ชุมชนและท้องถิ่นเพื่อประโยชน์ของส่วนรวม

(๕) เสริมสร้างความเข้มแข็งของวิชาชีพครูผลิตและพัฒนาครูและบุคลากรทางการ ศึกษาให้มีคุณภาพและมาตรฐานที่เหมาะสมกับการเป็นวิชาชีพชั้นสูง (๖) ประสานความร่วมมือและช่วยเหลือเกื้อกูลกันระหว่างมหาวิทยาลัย ชุมชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและองค์กรอื่นทั้งในและต่างประเทศ เพื่อการพัฒนาท้องถิ่น (๗) ศึกษาและแสวงหาแนวทางพัฒนาเทคโนโลยีพื้นบ้านและเทคโนโลยีสมัยใหม่ให้ เหมาะสมกับการดํารงชีวิตและการประกอบอาชีพของคนในท้องถิ่น รวมถึงการแสวงหาแนวทาง เพื่อ ส่งเสริมให้เกิดการจัดการ การบํารุงรักษา และการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดล้อมอย่างสมดุลและยั่งยืน (๘) ศึกษา วิจัย ส่งเสริมและสืบสานโครงการอันเนื่องมาจากแนวพระราชดําริในการ ปฏิบัติภารกิจของมหาวิทยาลัยเพื่อการพัฒนาท้องถิ่นŽ

วันนี้สำนักงานคณะกรรมการอุดมศึกษากำลังอยู่ระหว่างการปฏิรูป หนึ่งในแนวคิดคือการแยกประเภทของสถาบันอุดมศึกษาให้ชัดเจนอย่างน้อย 3 กลุ่ม กลุ่มหนึ่งเน้นความเป็นเลิศด้านวิชาการ หรือ academic excellence เป็นนักวิชาการ อาจารย์ นักวิจัย กลุ่มสองเน้นความเป็นเลิศด้านวิชาชีพชั้นสูง professional excellence เช่น แพทย์ พยาบาล วิศวกร สถาปนิก นักบัญชี ทนายความ (มีสมาคมวิชาชีพให้การรับรอง) กลุ่มสามเน้นความเป็นเลิศเฉพาะทาง competency excellence รับราชการ ทำงานพัฒนา อาชีพต่างๆ

การแยกแยะอาจยังไม่ชัดเจนนัก แต่ก็เป็นเรื่องดีที่จะมีการสร้างกรอบเกณฑ์ตัวชี้วัดที่เหมาะสมกับประเภทของการศึกษา ไม่ใช่เอาเกณฑ์ประเภทหนึ่งไปวัดอีกประเภทหนึ่ง ตอบสนองความต้องการเฉพาะด้านของสังคม และไม่เรียนแบบเหมารวม แบบเรียนอะไรก็ทำได้ทุกอย่าง ที่สุดทำอะไรไม่เป็นสักอย่าง ทำอะไรก็ พอกะเทินŽ อย่างที่เพลงลูกทุ่งเขาร้องกัน

อยากให้ราชภัฏพิจารณารากเหง้าของตนให้ดี และทบทวนบทบาทหน้าที่ตามพระราชบัญญัติ 2547รวมทั้งชื่อที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานประหนึ่งให้เป็น จิตวิญญาณŽ ของสถาบันแห่งนี้ทำได้ตามนั้น บ้านเมืองต้องเจริญพัฒนาอย่างแน่นอน เพราะวันนี้มีไม่มีการศึกษา เพื่อท้องถิ่นŽ มีแต่การศึกษา เพื่อทิ้งถิ่นŽ 

 

 

ที่มา สยามรัฐ วันที่ 8 ก.ค.2558

พิเศษสำหรับคนรักสัตว์🐕🐈เสื้อผ้าสัตว์เลี้ยงของสุนัขแมวกระต่าย เสื้อแมวและสุนัข ในราคา ฿45 - ฿150 ที่ Shopee

https://s.shopee.co.th/4VM0SRGuMT?share_channel_code=6


ราชภัฏกับธนาคาร

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

:: เรื่องปักหมุด ::

ร.ร.ประชารัฐ-ร.ร.ไอซียู : สมหมาย ปาริจฉัตต์

ร.ร.ประชารัฐ-ร.ร.ไอซียู : สมหมาย ปาริจฉัตต์

เปิดอ่าน 16,514 ☕ คลิกอ่านเลย

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
ปัดฝุ่น "สถาบันฝึกหัดครู" พัฒนาพลเมืองการศึกษาศตวรรษ 21
ปัดฝุ่น "สถาบันฝึกหัดครู" พัฒนาพลเมืองการศึกษาศตวรรษ 21
เปิดอ่าน 9,544 ☕ คลิกอ่านเลย

ครูพันธุ์ควอลิตี้
ครูพันธุ์ควอลิตี้
เปิดอ่าน 9,358 ☕ คลิกอ่านเลย

ข้อสอบเด็กไทย...ปัญหาใหญ่ที่ต้องมอง
ข้อสอบเด็กไทย...ปัญหาใหญ่ที่ต้องมอง
เปิดอ่าน 8,949 ☕ คลิกอ่านเลย

ปฏิรูปการศึกษานับหนึ่งใครเป็นใคร
ปฏิรูปการศึกษานับหนึ่งใครเป็นใคร
เปิดอ่าน 12,457 ☕ คลิกอ่านเลย

การศึกษาเพื่อสร้างบัณฑิตเป็น‘ผู้นำสังคม’ : โดย นพ.วิชัย เทียนถาวร
การศึกษาเพื่อสร้างบัณฑิตเป็น‘ผู้นำสังคม’ : โดย นพ.วิชัย เทียนถาวร
เปิดอ่าน 16,907 ☕ คลิกอ่านเลย

Smart Thailand
Smart Thailand
เปิดอ่าน 8,987 ☕ คลิกอ่านเลย

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

แบคทีเรียกินเนื้อคน แพทย์แนะล้างแผลฆ่าเชื้อโรคทันที หากถูกก้างปลาตำ
แบคทีเรียกินเนื้อคน แพทย์แนะล้างแผลฆ่าเชื้อโรคทันที หากถูกก้างปลาตำ
เปิดอ่าน 12,079 ครั้ง

วิธีปฏิบัติเมื่อต้องเป็นผู้นำในทีมที่มีหลากหลายเจเนอเรชัน
วิธีปฏิบัติเมื่อต้องเป็นผู้นำในทีมที่มีหลากหลายเจเนอเรชัน
เปิดอ่าน 12,485 ครั้ง

ธปท. ยันไม่มีปลอม แบงก์เอทีเอ็ม
ธปท. ยันไม่มีปลอม แบงก์เอทีเอ็ม
เปิดอ่าน 8,760 ครั้ง

ฟ้าทะลายโจร แจกฟรี สู้หวัด2009
ฟ้าทะลายโจร แจกฟรี สู้หวัด2009
เปิดอ่าน 11,615 ครั้ง

Minions Banana Song ที่กำลังฮิตกันทั่วโลก
Minions Banana Song ที่กำลังฮิตกันทั่วโลก
เปิดอ่าน 26,126 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ