|
|
ชื่อเรื่อง รูปแบบการบริหารโรงเรียนเพื่อเสริมสร้างชุมชนแห่งการเรียนรู้ทาง
วิชาชีพ ด้านการวิจัยปฏิบัติการในชั้นเรียน โรงเรียนเมืองพัทยา 1
(เชิญ พิศลยบุตรราษฎร์บำเพ็ญ)
ผู้วิจัย นางสาวสุรีย์ วรรณา
ตำแหน่ง รองผู้อำนวยการสถานศึกษา โรงเรียนเมืองพัทยา 1
(เชิญ พิศลยบุตรราษฎร์บำเพ็ญ)
ปีที่วิจัย ปีการศึกษา 2563 (ระหว่างปี พ.ศ.2563-2564)
บทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษากรอบแนวคิดและทฤษฎี ศึกษาสภาพปัจจุบันและสภาพที่พึงประสงค์ และพัฒนารูปแบบการบริหารโรงเรียนเพื่อเสริมสร้างชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพด้านการวิจัยปฏิบัติการในชั้นเรียน ด้วยระเบียบวิธีการวิจัยแบบผสม โดยมีแหล่งข้อมูลและกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง ผู้ทรงคุณวุฒิในด้านที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาการวิจัย เครื่องมือวิจัยที่ใช้ ได้แก่ แบบประเมินกรอบแนวคิดในการวิจัย แบบสอบถามสภาพปัจจุบันและสภาพที่พึงประสงค์และแบบประเมินความเหมาะสมและความเป็นไปได้ของรูปแบบการบริหาร การวิเคราะห์ข้อมูลแบ่งออกเป็น 3 รูปแบบ ได้แก่ การวิเคราะห์เนื้อหา การวิเคราะห์ค่าสถิติพื้นฐาน คือ ค่า ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์ความต้องการจำเป็น โดยใช้การวิเคราะห์ Modified Priority Needs Index (PNIModified)
ผลการวิจัยพบว่า 1. กรอบแนวคิดและทฤษฎีเกี่ยวกับรูปแบบการบริหารโรงเรียนเพื่อเสริมสร้างชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพด้านการวิจัยปฏิบัติการในชั้นเรียนประกอบด้วย 1) รูปแบบการบริหารโรงเรียน 6 รูปแบบ ได้แก่ รูปแบบการบริหารแบบทางการ รูปแบบการบริหารแบบผู้ร่วมงาน รูปแบบการบริหารแบบการเมือง รูปแบบการบริหารแบบอัตวิสัย รูปแบบการบริหารแบบกำกวม และรูปแบบการบริหารแบบวัฒนธรรม โดยใช้องค์ประกอบในการจำแนกรูปแบบได้แก่ ระดับของการกำหนดเป้าประสงค์ กระบวนการกำหนดเป้าประสงค์ความสัมพันธ์ระหว่างเป้าประสงค์กับการตัดสินใจธรรมชาติของกระบวนการตัดสินใจ ธรรมชาติของโครงสร้าง การเชื่อมโยงกับสภาพแวดล้อมภายนอกแบบของภาวะผู้นำและรูปแบบภาวะผู้นำที่เกี่ยวข้อง 2) การเสริมสร้างชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ 6 ขั้นตอน ได้แก่ การสนับสนุนและแลกเปลี่ยนภาวะผู้นำการสนับสนุนปัจจัยแวดล้อม การกำหนดและ แลกเปลี่ยนวิสัยทัศน์พันธกิจ เป้าหมายในการปฏิบัติงานร่วมกัน การปฏิบัติงานแบบร่วมมือ การปฏิบัติที่มุ่งผลลัพธ์เพื่อการเรียนรู้ของ นักเรียนและครูและการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และสะท้อนวิธีการปฏิบัติ 3) การวิจัยปฏิบัติการในชั้นเรียน (CAR ) ได้แก่ การวิเคราะห์ ผู้เรียนเป็นรายบุคคล การประเมินเพื่อพัฒนาแผนจัดการเรียนรู้กรณีศึกษานักเรียนที่มีปัญหา และการพัฒนานวัตกรรมการจัดการเรียนการสอน 2. สภาพปัจจุบัน เรียงตามลำดับค่าความถี่จากมากไปน้อย ได้แก่รูปแบบการบริหารแบบผู้ร่วมงาน รูปแบบการบริหารแบบทางการ รูปแบบการบริหารแบบวัฒนธรรม รูปแบบการบริหารแบบการเมือง รูปแบบการบริหารแบบอัตวิสัย และรูปแบบการบริหารแบบกำกวม สภาพที่พึงประสงค์เรียงตามลำดับค่าความถี่จากมากไปน้อย ได้แก่รูปแบบการบริหารแบบผู้ร่วมงาน รูปแบบการบริหารแบบวัฒนธรรม รูปแบบการบริหารแบบทางการ รูปแบบการบริหารแบบการเมือง รูปแบบการบริหารแบบอัตวิสัย และรูปแบบการบริหารแบบกำกวม ตามลำดับ และ3.รูปแบบการบริหารที่พัฒนาขึ้นมีชื่อว่า รูปแบบการบริหารโรงเรียนแบบยืดหยุ่นที่สอดคล้องกับวัฒนธรรมเพื่อเสริมสร้างชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพด้านการวิจัยปฏิบัติการในชั้นเรียนโรงเรียนเมืองพัทยา 1 (เชิญ พิศลยบุตรราษฎร์บำเพ็ญ) เป็นการบูรณาการรูปแบบการบริหารแบบกำกวมและแบบวัฒนธรรม ซึ่งมีส่วนประกอบที่สำคัญ 7 ส่วน ได้แก่ 1) ชื่อรูปแบบ 2) หลักการ และความสำคัญ 3) วัตถุประสงค์ของรูปแบบการบริหารโรงเรียนแบบยืดหยุ่นที่สอดคล้องกับวัฒนธรรมเพื่อเสริมสร้างชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพด้านการวิจัยปฏิบัติการในชั้นเรียน 4) องค์ประกอบของรูปแบบ 8 องค์ประกอบ คือ การกำหนดเป้าประสงค์การแลกเปลี่ยนวิสัยทัศน์ พันธกิจ และเป้าหมายการแลกเปลี่ยนเรียนรู้วิธีการปฏิบัติ การสนับสนุนปัจจัยแวดล้อม โครงสร้างการมี ปฏิสัมพันธ์ การเชื่อมโยงกับสภาพแวดล้อม แบบของผู้นำและแบบของภาวะผู้นำที่เกี่ยวข้อง 5) แผนภาพของรูปแบบและการนำไปใช้ 6) ปัจจัยความสำเร็จ และ 7) ประโยชน์ที่ได้รับ
|
โพสต์โดย สุรีย์ วรรณา : [9 ก.พ. 2565 เวลา 16:22 น.] อ่าน [3454] ไอพี : 27.145.207.121
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก
|
|
|
|
|
|
|
โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2. ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป
3. สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น
7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป
** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**
|
|
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ เปิดอ่าน 2,564 ครั้ง
| เปิดอ่าน 66,498 ครั้ง
| เปิดอ่าน 132,200 ครั้ง
| เปิดอ่าน 553,171 ครั้ง
| เปิดอ่าน 19,764 ครั้ง
| เปิดอ่าน 16,579 ครั้ง
| เปิดอ่าน 136,871 ครั้ง
| เปิดอ่าน 10,653 ครั้ง
| เปิดอ่าน 9,199 ครั้ง
| เปิดอ่าน 23,916 ครั้ง
| เปิดอ่าน 17,700 ครั้ง
| เปิดอ่าน 3,507 ครั้ง
| เปิดอ่าน 10,356 ครั้ง
| เปิดอ่าน 41,704 ครั้ง
| เปิดอ่าน 9,693 ครั้ง
| |
|
เปิดอ่าน 20,634 ครั้ง
| เปิดอ่าน 189,194 ครั้ง
| เปิดอ่าน 29,521 ครั้ง
| เปิดอ่าน 32,377 ครั้ง
| เปิดอ่าน 18,844 ครั้ง
|
|
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด
|