|
|
ชื่องานวิจัย การพัฒนาแบบฝึกทักษะวิชาคณิตศาสตร์เรื่องเศษส่วน โดยใช้การจัดการเรียนรู้ แบบปัญหาเป็นฐาน เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเทศบาล ๓ (วิมุกตายนวิทยา)
ผู้วิจัย อภิรดี พฤฒิพัฒนพงศ์ ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ
ปีการศึกษาที่วิจัย 2563
บทคัดย่อ
การพัฒนาแบบฝึกทักษะวิชาคณิตศาสตร์เรื่องเศษส่วน โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบปัญหาเป็นฐาน เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหา สำหรับนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่4 โรงเรียนเทศบาล ๓ (วิมุกตายนวิทยา) ครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานและความต้องการในการพัฒนาแบบฝึกทักษะวิชาคณิตศาสตร์เรื่องเศษส่วน โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบปัญหาเป็นฐาน เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 2) เพื่อพัฒนาแบบฝึกทักษะวิชาคณิตศาสตร์เรื่องเศษส่วน โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบปัญหาเป็นฐาน เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 3) เพื่อทดลองใช้แบบฝึกทักษะวิชาคณิตศาสตร์เรื่องเศษส่วน โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบปัญหาเป็นฐาน เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 4) การประเมินผลและปรับปรุงแบบฝึกทักษะวิชาคณิตศาสตร์ เรื่องเศษส่วน โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบปัญหาเป็นฐาน เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โดยเปรียบเทียบความสามารถในการแก้ปัญหา ก่อนและหลังใช้แบบฝึกทักษะ วิชาคณิตศาสตร์ เรื่องเศษส่วน โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบปัญหาเป็นฐาน และศึกษาความคิดเห็นของนักเรียนที่มีต่อแบบฝึกทักษะ วิชาคณิตศาสตร์ เรื่องเศษส่วน โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบปัญหาเป็นฐาน เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยคือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4/1 โรงเรียนเทศบาล ๓ (วิมุกตายนวิทยา) ที่กำลังศึกษาอยู่ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563 จำนวน 33 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย 1) แบบฝึกทักษะ เรื่องเศษส่วน 2) แผนการจัดการเรียนรู้ตามแนวการสอนแบบปัญหาเป็นฐาน จำนวน 14แผนการเรียนรู้ 3 ) แบบทดสอบวัดความสามารถในการแก้ปัญหา 4) แบบสอบถามความคิดเห็นของนักเรียนที่มีต่อแบบฝึกทักษะ โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบปัญหาเป็นฐาน การวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติ ค่าร้อยละ(%) ค่าเฉลี่ย (x̄) ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) ทดสอบค่าที (t test) แบบ Dependent และการวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis)
ผลการวิจัย พบว่า 1) นักเรียนและครูกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์เห็นความสำคัญต่อการใช้แบบฝึกทักษะประกอบการจัดการเรียนรู้แบบปัญหาเป็นฐาน เพื่อพัฒนาความสามารถในการแก้ปัญหา ประกอบด้วย ชื่อเรื่อง คำนำ คำชี้แจง สารบัญ วัตถุประสงค์ แบบทดสอบก่อนเรียน แบบฝึกทักษะ จำนวน 7 ชุด ได้แก่ ความหมายการอ่านและการเขียนเศษส่วน เศษส่วนที่เท่ากัน เศษส่วนอย่างต่ำ เศษส่วนที่เท่ากับจำนวนนับ เศษแท้ เศษเกิน จำนวนคละ การเปรียบเทียบ เรียงลำดับเศษส่วนและจำนวนคละที่ตัวส่วนหนึ่งเป็นพหุคูณของอีกตัวหนึ่ง และการบวก การลบเศษส่วน และจำนวนคละที่มีตัวส่วนเท่ากัน และแบบทดสอบหลังเรียน 2) แบบฝึกทักษะ วิชาคณิตศาสตร์ เรื่องเศษส่วน โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบปัญหาเป็นฐาน เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 80.91/ 81.06 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 80/80 3) ทดลองใช้แบบฝึกทักษะ จำนวน 7 ชุด 14 แผนการจัดการเรียนรู้ รวม 16 ชั่วโมง และจัดการเรียนรู้แบบปัญหาเป็นฐาน 5 ขั้นตอน 4) ความสามารถในการแก้ปัญหา ก่อนและหลังใช้แบบฝึกทักษะ วิชาคณิตศาสตร์ เรื่องเศษส่วน โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบปัญหาเป็นฐาน พบว่า ความสามารถในการแก้ปัญหาหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติทีjระดับ.05 5) ความคิดเห็นของนักเรียนที่มีต่อแบบฝึกทักษะ วิชาคณิตศาสตร์ เรื่องเศษส่วน โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบปัญหาเป็นฐาน เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 พบว่า โดยภาพรวมนักเรียนมีความคิดเห็นอยู่ในระดับดี และนักเรียนมีความคิดเห็นว่าการทำแบบฝึกทักษะ ทำให้สามารถแก้โจทย์ปัญหาได้มากขึ้น เข้าใจง่าย เป็นต้น
|
โพสต์โดย one : [14 ก.พ. 2565 เวลา 09:30 น.] อ่าน [2076] ไอพี : 158.108.29.31
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก
|
|
|
|
|
|
|
โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2. ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป
3. สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น
7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป
** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**
|
|
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ เปิดอ่าน 40,773 ครั้ง
| เปิดอ่าน 59,058 ครั้ง
| เปิดอ่าน 11,095 ครั้ง
| เปิดอ่าน 33,625 ครั้ง
| เปิดอ่าน 442 ครั้ง
| เปิดอ่าน 12,854 ครั้ง
| เปิดอ่าน 9,071 ครั้ง
| เปิดอ่าน 17,808 ครั้ง
| เปิดอ่าน 462,177 ครั้ง
| เปิดอ่าน 11,055 ครั้ง
| เปิดอ่าน 29,093 ครั้ง
| เปิดอ่าน 13,340 ครั้ง
| เปิดอ่าน 28,313 ครั้ง
| เปิดอ่าน 10,715 ครั้ง
| เปิดอ่าน 31,094 ครั้ง
| |
|
เปิดอ่าน 79,217 ครั้ง
| เปิดอ่าน 185,742 ครั้ง
| เปิดอ่าน 47,662 ครั้ง
| เปิดอ่าน 11,239 ครั้ง
| เปิดอ่าน 9,265 ครั้ง
|
|
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด
|