ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนาความสามารถในการอ่านจับใจความของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ โดยการใช้แบบฝึกอ่านจับใจความ

๑. ความเป็นมาและความสำคัญของปัญหา

จากพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ ได้ประกาศใช้หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551

กำหนดการจัดการศึกษา ต้องยึดหลักสำคัญคือในการจัดการเรียนรู้ ผู้เรียนมีความสำคัญที่สุด โดยมีหลักการที่ว่าผู้เรียนทุกคนมีความสามารถที่จะเรียนรู้ และสามารถที่จะพัฒนาตนเองได้ ในกระบวนการจัดการศึกษาจะต้องส่งเสริมให้ผู้เรียนสามารถพัฒนาตามธรรมชาติและเต็มศักยภาพ ครูซึ่งทำหน้าที่เป็นผู้สอนนั้นจะต้องเป็นผู้ออกแบบกระบวนการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาผู้เรียนให้เป็นผู้มีคุณภาพรู้จักเลือกกิจกรรมการเรียนรู้ เลือกวิธีจัด กิจกรรมการเรียนรู้แบบต่างๆ

ให้เหมาะสมกับเรื่องที่มีการเรียนรู้พร้อมกันนี้ผู้สอน จะต้องศึกษา จิตวิทยาการศึกษาเพื่อเป็นองค์ประกอบในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้และจะต้องมีการปรับปรุง ติดตามผลเป็นระยะๆ เพื่อให้การพัฒนาการเรียนการสอนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

จากผลการทกสอบทางการศึกษาระดับชาติ ผลการสอบ NT กลุ่มสาระภาษาไทยในปีการศึกษา 256๒

และปีการศึกษา 256๓ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 พบว่าในมาตรฐานที่ ความสามรถด้านภาษา ในเรื่องตอบคำถามจากเรื่องที่ฟัง ดู และอ่าน อยู่ในเกณฑ์ที่ต้องปรับปรุง และจากการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนที่ผ่านมาผู้วิจัยพบว่าปัญหาในการเรียนการสอนที่พบมากในการกลุ่มสาระภาษาไทย คือนักเรียนอ่านจับใจความไม่ได้และไม่ส่งงานตามระยะเวลาที่ครูกำหนดทำให้เกิดปัญหาด้านการเรียนการสอน

จากปัญหาดังกล่าวผู้วิจัยซึ่งอยู่ในฐานะครูผู้สอนในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 จึงมีความสนใจที่จะแก้ปัญหาโดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความในกลุ่มสาระภาษาไทยชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 และใช้เนื้อหาสาระในมาตรฐานที่ ท 1.1 ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิด เพื่อนำไปใช้ตัดสินใจ แก้ปัญหา ในการดำเนินชีวิต และมีนิสัยรักการอ่านของ ตัวชี้วัดที่ 3. ตั้งคำถามและตอบคำถามเชิงเหตุผลเกี่ยวกับเรื่องที่อ่าน ตัวชี้วัดที่ 4. ลำดับเหตุการณ์และคาดคะเนเหตุการณ์จากเรื่องที่อ่านโดยระบุเหตุผลประกอบ และ 5. สรุปความรู้และข้อคิดจากเรื่องที่อ่านเพื่อนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน

๒. จุดประสงค์การดำเนินงาน

เพื่อการพัฒนาความสามารถในการอ่านจับใจความของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3

โรงเรียนบ้านโนนโก

3. เป้าหมายการดำเนินงาน

นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบ้านโนนโก สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากำแพงเพชร เขต 1 ร้อยละ ๗๐ มีความสามารถในการอ่านจับใจความ

4. ขอบเขตของการดำเนินงาน

4.1 ขอบเขตด้านเนื้อหา

การพัฒนาเพลงและแบบฝึกทักษะการอ่าน แก้ปัญหาการเรียนในกลุ่มสาระภาษาไทย

ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบ้านโนนโกสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากำแพงเพชร เขต 1 โดยใช้เนื้อหาของกลุ่มสาระภาษาไทย มาตรฐานที่ ท ท 1.1 ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดเพื่อนำไปใช้ตัดสินใจ แก้ปัญหาในการดำเนินชีวิต และมีนิสัยรักการอ่านของ ตัวชี้วัดที่ 3. ตั้งคำถามและตอบคำถามเชิงเหตุผลเกี่ยวกับเรื่องที่อ่าน ตัวชี้วัดที่ 4. ลำดับเหตุการณ์และคาดคะเนเหตุการณ์จากเรื่องที่อ่านโดยระบุเหตุผลประกอบ และ 5. สรุปความรู้และข้อคิดจากเรื่องที่อ่านเพื่อนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน

4.2 ขอบเขตด้านกลุ่มเป้าหมาย

นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบ้านโนนโก ปีการศึกษา 256๔ จำนวน ๖ คน

5. กระบวนการ/ขั้นตอนการดำเนินงาน

1.ศึกษาหลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ระดับประถมศึกษาตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 เพื่อกำหนดขอบเขตเนื้อหาของบทเรียนและกำหนดพฤติกรรมที่ต้องการรวมถึงผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง

๒.เลือกเนื้อหาที่นำมาใช้สอนครั้งนี้ คือ ตั้งคำถามและตอบคำถามเชิงเหตุผลเกี่ยวกับเรื่องที่อ่านลำดับเหตุการณ์และคาดคะเนเหตุการณ์จากเรื่องที่อ่านโดยระบุเหตุผลประกอบและสรุปความรู้และข้อคิดจากเรื่องที่อ่านเพื่อนำไปใช้ในชีวิตประจำวันเพื่อนำมาใช้ประเมินผลในการจัดกลุ่มและจัดกิจกรรมเพื่อพัฒนากิจกรรมการสอนโดยใช้แบบฝึกจับใจความ

3.สร้างแบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความ

๔.จัดทำแผนการจัดการเรียนรู้

5.สร้างแบบประเมินโดยจัดสร้างขึ้นเพื่อประเมินทักษะการอ่านจับใจความ

6. ดำเนินการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนตามแผนการจัดการเรียนรู้

๗.สรุปผลการดำเนินงาน

6. ผลงานการปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practice)

จากการดำเนินงานตามขั้นตอนการดำเนินงานผลปรากฏว่านักเรียนว่านักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓

โรงเรียนบ้านโนนโก ที่ได้รับการพัฒนาอ่านอ่านจับใจความโดยใช้แบบฝึกทักษะร้อยละ 83.33 มีทักษะในการ อ่านจับใจความได้อย่างดีเยี่ยมและนักเรียนว่านักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ โรงเรียนบ้านโนนโก ร้อยละ 16.66 มีทักษะในการ อ่านจับใจความอยู่ในระดับพอใช้ ซึ่งเป็นไปตามค่าเป้าหมายที่ตั้งไว้

7. ปัจจัยความสำเร็จ

ผลสำเร็จที่เกิดเนื่องจากนักเรียนได้รับการฝึกฝนอย่างต่อเนื่องและได้ลงมือปฏิบัติจริงจึงทำให้นักเรียนเกิดทักษะการอ่านจับใจความ การตั้งคำถามและตอบคำถามเชิงเหตุผลเกี่ยวกับเรื่องที่อ่านลำดับเหตุการณ์และคาดคะเนเหตุการณ์จากเรื่องที่อ่านโดยระบุเหตุผลประกอบและสรุปความรู้และข้อคิดจากเรื่องที่อ่านเพื่อนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างยั่งยืน

โพสต์โดย ครูออย : [26 มี.ค. 2565 เวลา 07:30 น.]
อ่าน [2131] ไอพี : 1.46.141.195
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 12,894 ครั้ง
เตาอบไมโครเวฟ ทำให้เกิดโรคมะเร็งได้ไหม
เตาอบไมโครเวฟ ทำให้เกิดโรคมะเร็งได้ไหม

เปิดอ่าน 33,989 ครั้ง
ธนบัตรไทยรุ่นแรก
ธนบัตรไทยรุ่นแรก

เปิดอ่าน 15,020 ครั้ง
10 โรคเรื้อรังของคนวัย 40 อัพ
10 โรคเรื้อรังของคนวัย 40 อัพ

เปิดอ่าน 16,596 ครั้ง
มุขตลกของเด็กๆ ในห้องเรียน จำลองห้องเป็นรถเมล์
มุขตลกของเด็กๆ ในห้องเรียน จำลองห้องเป็นรถเมล์

เปิดอ่าน 17,100 ครั้ง
งดเหล้าเข้าพรรษา ก่อนงด ต้องลดยังไง
งดเหล้าเข้าพรรษา ก่อนงด ต้องลดยังไง

เปิดอ่าน 10,430 ครั้ง
กำจัดเซลลูไลท์ กำจัดผิวเปลือกส้ม
กำจัดเซลลูไลท์ กำจัดผิวเปลือกส้ม

เปิดอ่าน 27,094 ครั้ง
เมื่องานที่ทำ ยังไม่เป็นงานที่ใช่ จะอยู่ทำก่อนหรือจากไป
เมื่องานที่ทำ ยังไม่เป็นงานที่ใช่ จะอยู่ทำก่อนหรือจากไป

เปิดอ่าน 10,510 ครั้ง
เปิดผลวิจัยคนไทยติดแชต กระทบงาน-การเรียนหนัก
เปิดผลวิจัยคนไทยติดแชต กระทบงาน-การเรียนหนัก

เปิดอ่าน 10,348 ครั้ง
ล้มต้นไม้มือเปล่า ผู้ชายคนนี้ ขวานไม่ต้อง
ล้มต้นไม้มือเปล่า ผู้ชายคนนี้ ขวานไม่ต้อง

เปิดอ่าน 12,236 ครั้ง
สมการและการแก้สมการ
สมการและการแก้สมการ

เปิดอ่าน 12,629 ครั้ง
เปลี่ยนผิวหน้าพังให้กลับมาสวยปังกับ 4 การรักษาฝ้าอย่างถูกวิธี
เปลี่ยนผิวหน้าพังให้กลับมาสวยปังกับ 4 การรักษาฝ้าอย่างถูกวิธี

เปิดอ่าน 19,755 ครั้ง
เหมือนอย่างกับแกะ! หุ่นยนต์เหมือนมนุษย์ตัวล่าสุด (มีคลิป)
เหมือนอย่างกับแกะ! หุ่นยนต์เหมือนมนุษย์ตัวล่าสุด (มีคลิป)

เปิดอ่าน 28,983 ครั้ง
ลายมือของคนที่มีเงินทองอยู่ตลอดเวลาต้องมี "ก้นหอยมหาเศรษฐี"
ลายมือของคนที่มีเงินทองอยู่ตลอดเวลาต้องมี "ก้นหอยมหาเศรษฐี"

เปิดอ่าน 33,665 ครั้ง
"สาสน์" "สาส์น" และ "สาร"
"สาสน์" "สาส์น" และ "สาร"

เปิดอ่าน 12,183 ครั้ง
ลูกหมาเดินวนกินนม แบบกังหัน น่ารักมากครับ
ลูกหมาเดินวนกินนม แบบกังหัน น่ารักมากครับ

เปิดอ่าน 28,650 ครั้ง
เด็กไทยเขียนเรซูเม่ไม่เป็นหรือตลาดแรงงานไม่มีตำแหน่งว่าง
เด็กไทยเขียนเรซูเม่ไม่เป็นหรือตลาดแรงงานไม่มีตำแหน่งว่าง
เปิดอ่าน 13,928 ครั้ง
ปัญหาหน้าห้องใหญ่กว่านาย ... การศึกษาไทยสะดุด
ปัญหาหน้าห้องใหญ่กว่านาย ... การศึกษาไทยสะดุด
เปิดอ่าน 14,723 ครั้ง
Flash Drive ปัญหาไวรัสเรื่องใหญ่
Flash Drive ปัญหาไวรัสเรื่องใหญ่
เปิดอ่าน 16,694 ครั้ง
ชาวเน็ตร่วมพิสูจน์! คลิปพญานาคโผล่เล่นน้ำสกลนคร...จริงหรือ?
ชาวเน็ตร่วมพิสูจน์! คลิปพญานาคโผล่เล่นน้ำสกลนคร...จริงหรือ?
เปิดอ่าน 427,905 ครั้ง
หมดยุค"ปริญญาแปะฝาบ้าน"!! "ทักษะอาชีพ-ชีวิต"สำคัญกว่า?
หมดยุค"ปริญญาแปะฝาบ้าน"!! "ทักษะอาชีพ-ชีวิต"สำคัญกว่า?

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ