ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
รายงานการประเมินโครงการพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน โดยใช้กิจกรรมสร้างสรรค์ 4 ลักษณะ โรงเรียนสำนักสงฆ์ศรีวิชัย

ชื่อเรื่อง รายงานการประเมินโครงการพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน โดยใช้กิจกรรมสร้างสรรค์ 4 ลักษณะ โรงเรียนสำนักสงฆ์ศรีวิชัย ปีการศึกษา 2564

ผู้รายงาน นางสาวนิพัทธา ปลอดทอง

ตำแหน่ง รองผู้อำนวยการโรงเรียนสำนักสงฆ์ศรีวิชัย

ปีที่รายงาน ปีการศึกษา 2564

บทสรุป

รายงานการประเมินโครงการพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน โดยใช้กิจกรรมสร้างสรรค์ 4 ลักษณะ โรงเรียนสำนักสงฆ์ศรีวิชัย ปีการศึกษา 2564 มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินด้านสภาพแวดล้อม ด้านปัจจัยนำเข้า ด้านกระบวนการ และด้านผลผลิตของโครงการ โดยประยุกต์รูปแบบการประเมินแบบซิปป์ (CIPP Model) ของสตัฟเฟิลบีม (Stufflebeam’s CIPP Model) มาใช้ในการประเมิน

กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการประเมินประกอบด้วยครู จำนวน 20 คน นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 จำนวน 161 คน ผู้ปกครองของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 จำนวน 161 คน และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 13 คน

เครื่องมือที่ใช้ในการประเมินรวมทั้งสิ้น 7 ฉบับ มี 2 ลักษณะ ได้แก่ แบบสอบถามที่มีลักษณะเป็นมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) 5 ระดับ จำนวน 6 ฉบับ ทุกฉบับมีการตรวจสอบคุณภาพของเครื่องมือ ได้ค่าความเชื่อมั่นอยู่ระหว่าง0.909-0.966 และแบบบันทึกผลการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่ไม่พึ่งประสงค์ของนักเรียนโดยใช้กิจกรรมสร้างสรรค์ 4 ลักษณะ โรงเรียนสำนักสงฆ์ศรีวิชัย ปีการศึกษา 2564 ตามสภาพจริง สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ (Percentage) ค่าเฉลี่ย (Mean) และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) ผลการประเมินสรุปได้ดังนี้

1. ผลการวิเคราะห์ข้อมูลด้านสภาพแวดล้อมของโครงการพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน โดยใช้กิจกรรมสร้างสรรค์ 4 ลักษณะ โรงเรียนสำนักสงฆ์ศรีวิชัย ปีการศึกษา 2564 ตามความคิดเห็นของ ครู และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน พบว่า ทั้งสองกลุ่มที่ประเมินมีค่าเฉลี่ยสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดได้คะแนนรวมเฉลี่ย 15 ผ่านเกณฑ์การประเมิน ทั้งภาพรวมและทุกประเด็นตัวชี้วัด อยู่ในระดับมาก และเมื่อพิจารณาแต่ละกลุ่มผู้ประเมิน พบว่า ครูมีความเห็นโดยรวมมีค่าเฉลี่ย ( = 4.27, S.D.= 0.59) อยู่ในระดับมาก ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 15 ผ่านเกณฑ์การประเมิน ส่วนคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน มีความคิดเห็นโดยรวมมีค่าเฉลี่ย ( = 4.25, S.D.= 0.79) ในระดับมากได้คะแนนรวมเฉลี่ย 15 ผ่านเกณฑ์การประเมิน เช่นกัน

2. ผลการวิเคราะห์ข้อมูลด้านปัจจัยนำเข้าโครงการพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน โดยใช้กิจกรรมสร้างสรรค์ 4 ลักษณะ โรงเรียนสำนักสงฆ์ศรีวิชัย ปีการศึกษา 2564 ตามความคิดเห็นของครู พบว่า โดยรวมมีค่าเฉลี่ยสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 15 ผ่านเกณฑ์การประเมินทุกประเด็นตัวชี้วัด มีค่าเฉลี่ย ( = 4.22 , S.D.= 0.60) อยู่ในระดับมาก และเมื่อพิจารณาเป็นรายตัวชี้วัดแต่ละด้านพบว่า ด้านความพร้อมของบุคลากร มีค่าเฉลี่ยสูงสุด ( = 4.50 , S.D. = 0.66) อยู่ในระดับมากที่สุดได้คะแนนรวมเฉลี่ย 15 ผ่านเกณฑ์การประเมิน รองลงมา คือ ด้านความเพียงพอของวัสดุ อุปกรณ์ มีค่าเฉลี่ย ( = 4.35, S.D. = 0.66) อยู่ในระดับมาก ความพอเพียงของงบประมาณ มีค่าเฉลี่ย ( = 4.20 , S.D. = 0.68) อยู่ในระดับมาก ส่วนด้านความเหมาะสมของการบริหารจัดการ มีค่าเฉลี่ย ( = 4.16 , S.D = 0.60) อยู่ในระดับมาก ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 15 ผ่านเกณฑ์การประเมิน และด้านที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด คือ ผู้สนับสนุนโครงการ มีค่าเฉลี่ย ( = 3.91 , S.D. = 0.70) อยู่ในระดับมาก ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 15 ผ่านเกณฑ์การประเมิน เช่นกัน

3. ผลการวิเคราะห์ข้อมูลด้านกระบวนการดำเนินโครงการพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน โดยใช้กิจกรรมสร้างสรรค์ 4 ลักษณะ โรงเรียนสำนักสงฆ์ศรีวิชัย ปีการศึกษา 2564 ตามความคิดเห็นของนักเรียน ครู และผู้ปกครอง พบว่า ทั้งสามกลุ่มที่ประเมินมีค่าเฉลี่ยสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 20 ผ่านเกณฑ์การประเมิน ทั้งภาพรวมและทุกประเด็นตัวชี้วัด อยู่ในระดับมาก และเมื่อพิจารณาแต่ละกลุ่มผู้ประเมิน พบว่า นักเรียนมีความคิดเห็นโดยรวมมีค่าเฉลี่ย ( = 4.01 , S.D.= 0.63) อยู่ในระดับมาก ได้คะแนนเฉลี่ย 20 ผ่านเกณฑ์การประเมิน ส่วนครูมีความคิดเห็นโดยรวมมีค่าเฉลี่ย ( = 4.13 , S.D.= 0.66) อยู่ในระดับมาก ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 20 ผ่านเกณฑ์การประเมินและผู้ปกครองมีความคิดเห็นโดยรวม มีค่าเฉลี่ย ( = 4.01 , S.D.= 0.64) อยู่ในระดับมาก ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 20 ผ่านเกณฑ์การประเมิน เช่นกัน

4. ผลการประเมินด้านผลผลิตของโครงการ ได้แก่

4.1 ผลการวิเคราะห์ข้อมูลด้านผลผลิตเกี่ยวกับระดับคุณภาพระบบดูแลช่วยเหลือ โดยใช้กิจกรรมสร้างสรรค์ 4 ลักษณะ โรงเรียนสำนักสงฆ์ศรีวิชัย ปีการศึกษา 2564 ตามความคิดเห็นของนักเรียน ครู และผู้ปกครอง พบว่าทั้งสามกลุ่มที่ประเมินมีค่าเฉลี่ยสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด ได้คะแนนเฉลี่ย 15 ผ่านเกณฑ์การประเมินทั้งภาพรวมและทุกประเด็นตัวชี้วัด และเมื่อพิจารณาแต่ละกลุ่มที่ประเมิน พบว่า นักเรียนมีความคิดเห็นโดยรวมมีค่าเฉลี่ย ( = 3.98 , S.D.= 0.58) อยู่ในระดับมาก ได้คะแนนเฉลี่ย 15 ผ่านเกณฑ์การประเมิน ส่วนครูมีความคิดเห็นโดยรวมมีค่าเฉลี่ย ( = 4.25 , S.D.= 0.65) อยู่ในระดับมาก ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 15 ผ่านเกณฑ์การประเมิน และผู้ปกครอง มีความคิดเห็นโดยรวมมีค่าเฉลี่ย ( = 3.99 , S.D.= 0.68) อยู่ในระดับมาก ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 15 ผ่านเกณฑ์การประเมิน เช่นกัน

4.2 ผลการวิเคราะห์ข้อมูลด้านผลผลิตเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมของนักเรียน ครู และผู้ปกครองในโครงการการพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน โดยใช้กิจกรรมสร้างสรรค์ 4 ลักษณะ โรงเรียนสำนักสงฆ์ศรีวิชัย ปีการศึกษา 2564 ตามความคิดเห็นของนักเรียน ครู และผู้ปกครอง พบว่า ทั้งสามกลุ่มที่ประเมินมีค่าเฉลี่ย สูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 20 ผ่านเกณฑ์การประเมิน ทั้งภาพรวมและทุกประเด็นตัวชี้วัด อยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาจำแนกตามกลุ่มผู้ประเมิน พบว่า นักเรียนมีความคิดเห็นโดยรวมมีค่าเฉลี่ย ( = 4.26 , S.D.= 0.35) อยู่ในระดับมาก ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 15 ผ่านเกณฑ์การประเมิน ส่วนครูมีความเห็นโดยรวมมีค่าเฉลี่ย ( = 4.16 , S.D.= 0.67) อยู่ในระดับมาก ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 15 ผ่านเกณฑ์การประเมิน และผู้ปกครองมีความเห็นโดยรวมมีค่าเฉลี่ย ( = 3.97 , S.D.= 0.63) อยู่ในระดับมาก ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 15 ผ่านเกณฑ์การประเมิน เช่นกัน

4.3 ผลการวิเคราะห์ข้อมูลด้านผลผลิตโครงการเกี่ยวกับผลการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ของนักเรียน ตามแบบบันทึกผลการประเมินตามสภาพจริง พบว่า ปีการศึกษา 2563โดยภาพรวมมีจำนวนนักเรียนที่มีพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ จำนวน 77 คน คิดเป็นร้อยละ 22.78 ปีการศึกษา 2564 โดยภาพรวมมีจำนวนนักเรียนที่มีพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ จำนวน 54 คน คิดเป็นร้อยละ 17.03 แสดงให้เห็นว่า จำนวนนักเรียนที่มีพฤติกรรมนักเรียนที่ไม่พึงประสงค์ลดลงจำนวน 23 คน คิดเป็นร้อยละ 7.26 สูงกว่าเกณฑ์ ที่กำหนด ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 5 ผ่านเกณฑ์การประเมิน

4.4 ผลการวิเคราะห์ข้อมูลด้านผลผลิตเกี่ยวกับความพึงพอใจของนักเรียน ครู และผู้ปกครองต่อการดำเนินโครงการพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนโดยใช้กิจกรรมสร้างสรรค์ 4 ลักษณะ โรงเรียนสำนักสงฆ์ศรีวิชัย ปีการศึกษา 2564 พบว่า ทั้งสามกลุ่มที่ประเมินมีค่าเฉลี่ย สูงกว่าเกณฑ์ ที่กำหนดได้คะแนนรวมเฉลี่ย 15 ผ่านเกณฑ์การประเมิน ทั้งภาพรวมและทุกประเด็นตัวชี้วัด มีค่าเฉลี่ยความพึงพอใจ อยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาจำแนกตามกลุ่มที่ประเมิน พบว่า นักเรียนมีความคิดเห็นโดยรวมมีค่าเฉลี่ย ( = 4.02 , S.D.= 0.72) อยู่ในระดับมาก ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 15 ผ่านเกณฑ์การประเมิน ส่วนครูมีความเห็นโดยรวมมีค่าเฉลี่ย ( = 4.14 , S.D.= 0.69) อยู่ในระดับมาก ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 15 ผ่านเกณฑ์การประเมิน และผู้ปกครองมีความเห็นโดยรวม มีค่าเฉลี่ย ( = 4.02 , S.D.= 0.72) อยู่ในระดับมาก ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 15 ผ่านเกณฑ์การประเมิน เช่นกัน

สรุปผลการประเมินโครงการพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนโดยใช้กิจกรรมสร้างสรรค์ 4 ลักษณะ โรงเรียนสำนักสงฆ์ศรีวิชัย ปีการศึกษา 2564 โดยใช้รูปแบบการประเมินแบบซิปป์ (CIPP Model) ค่าน้ำหนัก 100 ได้คะแนนเฉลี่ย 100 ผ่านเกณฑ์การประเมิน

ข้อเสนอแนะ

ข้อเสนอแนะในการนำผลการประเมินไปใช้

1. ควรประชาสัมพันธ์โครงการให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้รับทราบก่อนประเมินสภาพแวดล้อม

พร้อมวิเคราะห์ผลการจัดกิจกรรมในรอบปีที่ผ่านมา

2. ควรประสานงานการจัดกิจกรรมกับกลุ่มบริหารวิชาการ เพื่อการวางแผนหรือกำหนดเวลา

การจัดกิจกรรมให้เป็นไปตามปฏิทินและนิเทศการปฏิบัติงานอย่างต่อเนื่อง

3. ผู้บริหารโรงเรียนควรสนับสนุนสร้างขวัญและกำลังใจแก่ครูที่ดูแลนักเรียน เช่น นักเรียน

ได้รับรางวัลคุณธรรมดีเด่นจากการแข่งขัน หรือได้รับการคัดเลือกจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในทุกระดับ และชื่นชมยกย่องนักเรียนที่มีความประพฤติดีมีคุณธรรม อย่างน้อยภาคเรียนละ 1 ครั้ง

4. ควรส่งเสริมการให้ความร่วมมือกับสหวิชาชีพและชุมชนเพิ่มขึ้น

5. ควรส่งเสริมกิจกรรมให้นักเรียนสามารถป้องกันและดูแลตนเองได้

ข้อเสนอแนะในการประเมินโครงการ หรือการวิจัยครั้งต่อไป

1. ควรมีการประเมินโครงการต่าง ๆ ในระดับหน่วยงานหรือกลุ่มงานย่อยทุกโครงการ โดย

ประยุกต์ใช้รูปแบบการประเมินแบบซิปป์ (CIPP Model) หรือรูปแบบอื่นที่เหมาะสม

2. ควรมีการศึกษาปัจจัยอื่นๆ ที่ส่งผลต่อการเพิ่มประสิทธิภาพการพัฒนาระบบ ดูแลช่วยเหลือนักเรียน

โพสต์โดย พัท : [29 มิ.ย. 2565 เวลา 13:57 น.]
อ่าน [1913] ไอพี : 171.7.238.155
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 31,606 ครั้ง
ม่วงส่าหรี
ม่วงส่าหรี

เปิดอ่าน 12,885 ครั้ง
3 เรื่องที่ต้องรู้ "ตั้งเป้ารวยก่อนแก่"
3 เรื่องที่ต้องรู้ "ตั้งเป้ารวยก่อนแก่"

เปิดอ่าน 15,588 ครั้ง
นวดหน้าลดริ้วรอย
นวดหน้าลดริ้วรอย

เปิดอ่าน 39,380 ครั้ง
ศัพท์สถิติทางการศึกษา
ศัพท์สถิติทางการศึกษา

เปิดอ่าน 10,717 ครั้ง
ชี้เป็นเด็กอัจฉริยะต้องมี 6Q
ชี้เป็นเด็กอัจฉริยะต้องมี 6Q

เปิดอ่าน 33,069 ครั้ง
ลายมือนักธุรกิจ
ลายมือนักธุรกิจ

เปิดอ่าน 10,248 ครั้ง
ทานอาหารช่วยบำบัดความเครียด
ทานอาหารช่วยบำบัดความเครียด

เปิดอ่าน 28,198 ครั้ง
กฎ  ก.ค.ศ. ว่าด้วยการให้ข้าราชการครูฯ ได้รับเงินเดือนสูงกว่าหรือต่ำกว่าขั้นต่ำฯ ฉบับที่ 2 (2555)
กฎ ก.ค.ศ. ว่าด้วยการให้ข้าราชการครูฯ ได้รับเงินเดือนสูงกว่าหรือต่ำกว่าขั้นต่ำฯ ฉบับที่ 2 (2555)

เปิดอ่าน 13,609 ครั้ง
Speed Leader 5 กุญแจความสำเร็จสร้างผู้นำ
Speed Leader 5 กุญแจความสำเร็จสร้างผู้นำ

เปิดอ่าน 40,222 ครั้ง
การจัดการศึกษาในโรงเรียนแบบเชิญชวน
การจัดการศึกษาในโรงเรียนแบบเชิญชวน

เปิดอ่าน 42,886 ครั้ง
ประวัติศาสตร์ไทย
ประวัติศาสตร์ไทย

เปิดอ่าน 17,604 ครั้ง
จวกยับเนื้อหาวิชาสังคมฯ ม.4-6 ไม่ตรงข้อเท็จจริง
จวกยับเนื้อหาวิชาสังคมฯ ม.4-6 ไม่ตรงข้อเท็จจริง

เปิดอ่าน 17,854 ครั้ง
ชมคลิปฮ็อต เปิดใจ "น้องมันตรา-พริตตี้สาว" คู่กรณีวลีเด็ด "แก่ ใจดี สปอร์ต กทม.-ไม่ช็อต!"
ชมคลิปฮ็อต เปิดใจ "น้องมันตรา-พริตตี้สาว" คู่กรณีวลีเด็ด "แก่ ใจดี สปอร์ต กทม.-ไม่ช็อต!"

เปิดอ่าน 473 ครั้ง
5 ไอเดียเก็บรักษาปากกาสำหรับนักสะสม ให้สภาพสมบูรณ์ สวยใหม่อยู่เสมอ
5 ไอเดียเก็บรักษาปากกาสำหรับนักสะสม ให้สภาพสมบูรณ์ สวยใหม่อยู่เสมอ

เปิดอ่าน 10,171 ครั้ง
การศึกษา สู่สนามแข่งขันเวทีอาเซียน ให้จับตาเวียดนาม
การศึกษา สู่สนามแข่งขันเวทีอาเซียน ให้จับตาเวียดนาม

เปิดอ่าน 136,037 ครั้ง
ทฤษฎีมานุษยนิยมของมาสโลว์
ทฤษฎีมานุษยนิยมของมาสโลว์
เปิดอ่าน 50,421 ครั้ง
ซอฟต์แวร์ Open Source คืออะไร?
ซอฟต์แวร์ Open Source คืออะไร?
เปิดอ่าน 18,150 ครั้ง
จดหมายลูกโซ่ มีความเป็นมาอย่างไร
จดหมายลูกโซ่ มีความเป็นมาอย่างไร
เปิดอ่าน 16,848 ครั้ง
นักวิจัยไทย พบแมลงใหม่ 3 ชนิด "สมเด็จพระเทพฯ" พระราชทานนาม
นักวิจัยไทย พบแมลงใหม่ 3 ชนิด "สมเด็จพระเทพฯ" พระราชทานนาม
เปิดอ่าน 11,876 ครั้ง
เช้าควบเที่ยง เสี่ยงโรคอ้วน
เช้าควบเที่ยง เสี่ยงโรคอ้วน

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ