ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมความรู้ทั่วไป  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก
เตือนหญิงตั้งครรภ์ "ขาดไอโอดีน" ลูก เสี่ยง ไอคิวต่ำ
ความรู้ทั่วไป 2 ส.ค. 2553 เปิดอ่าน : 10,215 ครั้ง
☰แชร์เลย >  
เพิ่มเพื่อน
Advertisement

เตือนหญิงตั้งครรภ์ "ขาดไอโอดีน" ลูก เสี่ยง ไอคิวต่ำ
Advertisement

เมื่อไม่นานมานี้มีผลการวิจัยของกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ระบุ เด็กไทยมีปัญหาไอคิวต่ำและพัฒนาการล่าช้า โดยค่าเฉลี่ยในรอบ 12 ปีที่ผ่านมา เด็กไทยมีระดับไอคิว ลดลงจาก 91 จุดเหลือ 88 จุด ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยที่องค์การอนามัยโลกกำหนดไว้ที่ 90 - 110 และยังต่ำกว่าระดับ 104 ซึ่งเป็นระดับเชาว์ปัญญาของเด็กๆ ในประเทศที่พัฒนาแล้ว


จากการรวบรวมข้อมูลทางการแพทย์ ของ พญ.อรพร ดำรงวงศ์ศิริ คณะแพทยศาสตร์ รพ.รามาธิบดี ม.มหิดล ในฐานะคณะทำงานพัฒนาการวิชาการ เพื่อสนับสนุนคณะกรรมการประสานนโยบายการส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย เรื่อง ไอโอดีนกับเด็กปฐมวัย สนับสนุนโดยกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข และมูลนิธิสดศรี-สฤษดิ์วงศ์ (มสส.) ชี้ว่า


“ ไอโอดีน มีส่วนสำคัญที่ทำให้สมองของเด็กเจริญเติบโตอย่างสมบูรณ์ เฉลียวฉลาด มีข้อมูลระบุชัดว่า เด็กที่ขาดไอโอดีนมีระดับไอคิวต่ำกว่าเด็กที่ได้รับไอโอดีนอย่างเพียงพอ ถึง 13.5 จุด เด็กควรได้รับไอโอดีนอย่างเพียงพอตั้งแต่อยู่ในครรภ์ของมารดา หากมีการขาดไอโอดีนในช่วงเวลานี้ อาจทำให้ทารกเสียชีวิตตั้งแต่อยู่ในครรภ์ แท้ง พิการแต่กำเนิด หรือเด็กเกิดมาจะปัญญาอ่อน เป็นโรคเอ๋อ”


ทั้งนี้ไอโอดีน มีส่วนสำคัญในกระบวนการสร้าง ไทรอยด์ฮอร์โมน (Thyroid hormone) ที่มีความจำเป็นต่อการสร้างเซลล์ของ ร่างกาย และสมอง ให้มีการเจริญเติบโตอย่างปกติ โดยเฉพาะทารกที่อยู่ในครรภ์มารดาไปจนถึงอายุ 2 ขวบ หากขาดไอโอดีนจะทำให้สมองเจริญเติบโตไม่เต็มที่ ลดความเฉลียวฉลาด (ไอคิว) หรือระดับสติปัญญาของเด็กได้ถึง 10- 15 จุด ทำให้เด็กมีปัญหาในการเรียน เกิดความผิดปกติ มีอาการคอพอก เป็นโรคเอ๋อ และมีพัฒนาการทางร่างกายต่ำกว่าเกณฑ์


ตัวอย่างของเด็กในประเทศจีน จากการเก็บรวมรวมข้อมูลหญิงตั้งครรภ์ ที่มาฝากครรภ์ในมณฑลหนึ่ง ซึ่งอยู่ในเขตที่มีภาวะขาดไอโอดีน พบว่า ในกลุ่มตัวอย่างเด็กที่เกิดจากมารดาที่ได้รับไอโอดีนเสริมตั้งแต่ในช่วงตั้งครรภ์ จะทำข้อทดสอบได้คะแนนสูงกว่า เด็กที่เกิดจากมารดาที่ไม่ได้รับไอโอดีนเสริมในช่วงตั้งครรภ์ แม้ว่าจะได้รับในช่วงหลังคลอดก็ตาม สะท้อนว่าหญิงตั้งครรภ์ที่ขาดไอโอดีน จะส่งผลให้ทารกขาดไอโอดีนไปด้วย


หญิงตั้งครรภ์มีความต้องการไอโอดีนมากกว่าหญิงทั่วไปและมีโอกาสขาดไอโอดีนได้มากกว่า ดังนั้น หญิงตั้งครรภ์ สามารถป้องกันภาวะขาดไอโอดีนได้ ด้วยการกินอาหารทะเล หรือใช้เกลือเสริมไอโอดีนปรุงอาหารเป็นประจำ รวมทั้งการได้รับไอโอดีนเสริมในระหว่างการตั้งครรภ์


นอกจากนี้ อาหารที่สำคัญของทารกในช่วงวัยแรกเกิดถึง 6 เดือน คือ นมแม่ ดังนั้น ในช่วงเวลานี้ นมแม่จะเป็นแหล่งอาหารของไอโอดีนที่สำคัญ ปัจจัยที่มีผลสำคัญต่อ ระดับไอโอดีนในนมแม่ก็คือ อาหาร ถ้าแม่ได้รับไอโอดีนจากอาหารอย่างเพียงพอ ในนมแม่ก็จะมีระดับไอโอดีนเพียงพอด้วย


การศึกษาในประเทศไทย พบว่าปริมาณไอโอดีนในนมแม่มีค่าเฉลี่ย 55 ไมโครกรัม/เดซิลิตร ในขณะที่ระดับที่เหมาะสมควรจะมีปริมาณมากกว่า 100 ไมโครกรัม/เดซิลิตร นอกจากนั้น จากการสำรวจภาวะไอโอดีนในหญิงตั้งครรภ์ในประเทศไทย โดยใช้วิธีการวัดปริมาณไอโอดีนในปัสสาวะ (Urinary Iodine) ยังพบว่า ค่ามัธยฐานของระดับไอโอดีนในปัสสาวะของหญิงตั้งครรภ์ในประเทศไทยยังอยู่ในระดับต่ำ





นั่นย่อมแสดงว่ายังมี ผู้หญิงไทยจำนวนมากประสบปัญหาขาดไอโอดีน และส่งผลทำให้ทารกที่เกิดม มีภาวะขาดไอโอดีนตามไปด้วย




ในอดีต โรคขาดสารไอโอดีนในประเทศไทย จะพบมากในแถบจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือ ในพื้นที่ที่อยู่ในชนบทห่างไกล ซึ่งจะเห็นภาพของผู้ป่วยโรคขาดสารไอโอดีนที่รุนแรง มีคอหอยพอก แต่ปัจจุบัน การขาดสารไอโอดีนที่รุนแรงแบบในอดีตนั้นลดลงไปมาก แต่การขาดสารไอโอดีนที่ไม่รุนแรงนี้ ดูเหมือนจะเป็นปัญหาเงียบที่ซ่อนอยู่ในทุกพื้นที่ ทุกจังหวัด แม้แต่กรุงเทพฯ ก็สามารถพบการขาดสารไอโอดีนได้เช่นกัน หากร่างกายได้รับไอโอดีนไม่เพียงพอ


ด้วยเหตุนี้จึงมีการพยายามส่งเสริมให้มีการเติมไอโอดีนลงในเกลือบริโภค แต่พบว่ายังไม่ประสบผลสำเร็จนัก โดยจากผลการสำรวจ ในประเทศไทยระหว่างปี 2006 พบว่าจากเป้าหมายของกระทรวงสาธารณสุข ที่จะให้มีการบริโภคเกลือเสริมไอโอดีนร้อยละ 90 ของพื้นที่ แต่ทำได้จริงเพียงแค่ร้อยละ 46.2 เท่านั้น และสำรวจอีกครั้งเมื่อปี พ.ศ.2552 ทำได้เพียงร้อยละ 47.2


การใช้เกลือเสริมไอโอดีน เป็นวิธีการช่วยขจัดปัญหาการเป็นโรคขาดสารไอโอดีน และแก้ไขปัญหาได้ระดับหนึ่ง แต่เกลือเสริมไอโอดีนส่วนหนึ่งก็มีปัญหาคุณภาพการผลิตต่ำกว่ามาตรฐาน ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข ปีพ.ศ.2537 กำหนดให้เกลือบริโภคต้องมีปริมาณไอโอดีนไม่น้อยกว่า 30 มิลลิกรัม ต่อเกลือบริโภค 1 กิโลกรัม แต่พบว่ามีเกลือบริโภคส่วนหนึ่งที่มีปริมาณไอโอดีนอยู่ที่ประมาณ 10-20 มิลลิกรัมต่อเกลือบริโภค 1 กิโลกรัม บ่งชี้ให้เห็นว่าการควบคุมคุณภาพการผลิตยังไม่สามารถครอบคลุมได้ทุกพื้นที่ จึงควรมีการรณรงค์เรื่องนี้อย่างจริงจังต่อไป


สำหรับวิธีการกินเกลือหรือน้ำปลา ให้ได้ไอโอดีนนั้น พญ.แสงโสม สีนะวัฒน์ สำนักที่ปรึกษา กรมอนามัย แนะนำว่า ไม่ได้เป็นการให้กินเกลือเพิ่ม ให้กินเท่าที่เคยกิน แต่เปลี่ยนเป็นเกลือหรือน้ำปลาที่มีไอโอดีน ซึ่งในน้ำปลา หากทำจากปลาทะเล จะมีไอโอดีน เพราะมาจากทะเล แต่ถ้าเป็นเกลือทะเล แทบจะไม่มีไอโอดีนเหลืออยู่เลย เพราะกระบวนการทำต้องใช้เวลาไม่น้อยกว่า 45 วัน กว่าที่แดดจะเผาออกมากลายเป็นเกลือ ผู้ผลิตจึงต้องเติมไอโอดีนลงไป เป็นเกลือเสริมไอโอดีน ทั้งนี้รวมถึงเกลือสินเธาว์ด้วย


“ส่วนใหญ่ที่ประชาชนขาดไอโอดีน เพราะไม่สามารถเข้าถึงอาหารที่มีไอโอดีน ยกตัวเอย่างน้ำปลายี่ห้อหนึ่งราคาขวดละ 35 บาท ถือว่าแพงสำหรับชาวบ้าน เขาจึงเลือกกินน้ำปลาขวดละ 15 บาทแทน แต่เป็นเพียงน้ำเกลือใส่สีธรรมดา ใส่ผงชูรส ทำให้มีปัญหาขาดไอโอดีนแน่นอน”


ดังนั้นประเด็นปัญหาเรื่อง ไอโอดีน จึงควรถูกพัฒนาเป็นนโยบาย รวมทั้งมีความร่วมมือจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐและเอกชน เพิ่มความเข้มงวดในการควบคุมคุณภาพ ดูแลเรื่องการผลิตเกลือบริโภคที่เสริมไอโอดีนตามมาตรฐาน รวมถึงอาหารอื่นเช่น น้ำปลา ซีอิ๊ว ให้ได้มาตรฐาน เพราะปัญหาการขาดไอโอดีนไม่ใช่เรื่องไกลตัวของคนไทย โดยเฉพาะกับหญิงตั้งครรภ์ หญิงให้นมบุตร และเด็กเล็ก หากเด็กคืออนาคตของชาติ ไอโอดีนก็คืออีกปัจจัยในการทำให้อนาคตของชาติเติบโตอย่างสมบูรณ์


( รายงานจาก มูลนิธิสดศรี - สฤษดิ์วงศ์ )

 

ขอบคุณที่มาจาก มติชนออนไลน์


Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

“นิทานก่อนนอน”กิจกรรมยามดึกที่หนูๆชื่นชอบ

“นิทานก่อนนอน”กิจกรรมยามดึกที่หนูๆชื่นชอบ
เปิดอ่าน 9,035 ครั้ง
การกัวซาบำบัดโรค

การกัวซาบำบัดโรค
เปิดอ่าน 17,822 ครั้ง
9 พฤติกรรมที่ไม่ควรทำบน Facebook

9 พฤติกรรมที่ไม่ควรทำบน Facebook
เปิดอ่าน 13,466 ครั้ง
จบมาไม่เตะฝุ่น !! 7 กลุ่มอาชีพดาวรุ่งพุ่งแรง

จบมาไม่เตะฝุ่น !! 7 กลุ่มอาชีพดาวรุ่งพุ่งแรง
เปิดอ่าน 81,056 ครั้ง
5 วิธีปกป้องตนเองไม่ตกเป็นเหยื่อบนโลกออนไลน์

5 วิธีปกป้องตนเองไม่ตกเป็นเหยื่อบนโลกออนไลน์
เปิดอ่าน 1,028 ครั้ง
ประโยชน์และโทษของ ชา

ประโยชน์และโทษของ ชา
เปิดอ่าน 15,752 ครั้ง
นอน ถูกท่า ถูกวิธี.. เพิ่มความงามแบบไม่รู้ตัว

นอน ถูกท่า ถูกวิธี.. เพิ่มความงามแบบไม่รู้ตัว
เปิดอ่าน 10,446 ครั้ง
5 กิจกรรมส่งความสุข เพื่อสมองลูกรัก

5 กิจกรรมส่งความสุข เพื่อสมองลูกรัก
เปิดอ่าน 9,573 ครั้ง
ทำไมแบตเตอรี่มีอายุสั้นลง?

ทำไมแบตเตอรี่มีอายุสั้นลง?
เปิดอ่าน 13,529 ครั้ง
ชื่นฉ่ำกับผลไม้ประจำฤดูกาล

ชื่นฉ่ำกับผลไม้ประจำฤดูกาล
เปิดอ่าน 17,104 ครั้ง
อะไรคือสาเหตุที่ทำให้คนถนัดขวามีมากกว่าคนถนัดซ้าย

อะไรคือสาเหตุที่ทำให้คนถนัดขวามีมากกว่าคนถนัดซ้าย
เปิดอ่าน 20,554 ครั้ง
"พันธุกรรม"ทำให้ คนลดน้ำหนักได้ไม่เท่ากัน

"พันธุกรรม"ทำให้ คนลดน้ำหนักได้ไม่เท่ากัน
เปิดอ่าน 8,953 ครั้ง
ลายมือเช่นไร คือคนที่จะได้ดีบั้นปลายของชีวิต

ลายมือเช่นไร คือคนที่จะได้ดีบั้นปลายของชีวิต
เปิดอ่าน 20,633 ครั้ง
เปลือกผลไม้ ไม่ไร้ค่า

เปลือกผลไม้ ไม่ไร้ค่า
เปิดอ่าน 20,012 ครั้ง
ธงชาติไทยเอกลักษณ์ความเป็นชาติ

ธงชาติไทยเอกลักษณ์ความเป็นชาติ
เปิดอ่าน 42,382 ครั้ง

:: เรื่องปักหมุด ::

คุณประโยชน์ต่างๆของผักโดยเฉพาะ
คุณประโยชน์ต่างๆของผักโดยเฉพาะ
เปิดอ่าน 12,378 ☕ คลิกอ่านเลย

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
แกว่งแขนลดพุง แถมรักษาโรคได้เพียบ!
แกว่งแขนลดพุง แถมรักษาโรคได้เพียบ!
เปิดอ่าน 21,902 ☕ คลิกอ่านเลย

ครม.ตั้ง "จ.บึงกาฬ" จังหวัดที่77 แยกจากหนองคาย
ครม.ตั้ง "จ.บึงกาฬ" จังหวัดที่77 แยกจากหนองคาย
เปิดอ่าน 37,246 ☕ คลิกอ่านเลย

"มะละกอ" มีถิ่นกำเนิดจากที่ใด?
"มะละกอ" มีถิ่นกำเนิดจากที่ใด?
เปิดอ่าน 40,306 ☕ คลิกอ่านเลย

คีเลชั่น (Chelation) คืออะไร
คีเลชั่น (Chelation) คืออะไร
เปิดอ่าน 14,751 ☕ คลิกอ่านเลย

ลายมือคนที่บั้นปลายของชีวิตมีเงินทอง มีหลักฐานมั่นคง
ลายมือคนที่บั้นปลายของชีวิตมีเงินทอง มีหลักฐานมั่นคง
เปิดอ่าน 23,722 ☕ คลิกอ่านเลย

อุจจาระบอกสุขภาพ
อุจจาระบอกสุขภาพ
เปิดอ่าน 10,363 ☕ คลิกอ่านเลย

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

ทำไม สัญลักษณ์โอลิมปิก ต้องเป็นรูปวงกลม 5 ห่วง
ทำไม สัญลักษณ์โอลิมปิก ต้องเป็นรูปวงกลม 5 ห่วง
เปิดอ่าน 32,498 ครั้ง

“ไมโครกรีน” ผักจิ๋ว แต่คุณประโยชน์สูง...ทางเลือกใหม่ของผู้รักสุขภาพ “ทานน้อยแต่ได้ประโยชน์มาก”
“ไมโครกรีน” ผักจิ๋ว แต่คุณประโยชน์สูง...ทางเลือกใหม่ของผู้รักสุขภาพ “ทานน้อยแต่ได้ประโยชน์มาก”
เปิดอ่าน 33,860 ครั้ง

เช็กรึยัง ใครชง ใครแย่ พร้อมทางแก้เพื่อชีวิตดีๆ ปี 2559 โดย อ.คฑา ชินบัญชร
เช็กรึยัง ใครชง ใครแย่ พร้อมทางแก้เพื่อชีวิตดีๆ ปี 2559 โดย อ.คฑา ชินบัญชร
เปิดอ่าน 12,336 ครั้ง

ภาพมาโคร คืออะไร?
ภาพมาโคร คืออะไร?
เปิดอ่าน 35,058 ครั้ง

ศัพท์กฏหมายภาษาอังกฤษน่ารู้
ศัพท์กฏหมายภาษาอังกฤษน่ารู้
เปิดอ่าน 148,946 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย


เว็บไซต์ที่น่าสนใจ

  • IELTS Test
  • SAT Test
  • สอบ IELTS
  • สอบ TOEIC
  • สอบ SAT
  • เว็บไซต์พันธมิตร

  • IELTS
  • TOEIC Online
  • chulatutor
  • เพลงเด็กอนุบาล
  •  
    หมวดหมู่เนื้อหา
    เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


    · Technology
    · บทความเทคโนโลยีการศึกษา
    · e-Learning
    · Graphics & Multimedia
    · OpenSource & Freeware
    · ซอฟต์แวร์แนะนำ
    · การถ่ายภาพ
    · Hot Issue
    · Research Library
    · Questions in ETC
    · แวดวงนักเทคโนฯ

    · ความรู้ทั่วไป
    · คณิตศาสตร์
    · วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
    · ภาษาต่างประเทศ
    · ภาษาไทย
    · สุขศึกษาและพลศึกษา
    · สังคมศึกษา ศาสนาฯ
    · ศิลปศึกษาและดนตรี
    · การงานอาชีพ

    · ข่าวการศึกษา
    · ข่าวตามกระแสสังคม
    · งาน/บริการสังคม
    · คลิปวิดีโอยอดนิยม
    · เกมส์
    · เกมส์ฝึกสมอง

    · ทฤษฎีทางการศึกษา
    · บทความการศึกษา
    · การวิจัยทางการศึกษา
    · คุณครูควรรู้ไว้
    · เตรียมประเมินวิทยฐานะ
    · ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
    · เครื่องมือสำหรับครู

    ครูบ้านนอกดอทคอม

    เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

          kroobannok.com

    © 2000-2020 Kroobannok.com  
    All rights reserved.


    Design by : kroobannok.com


    ครูบ้านนอกดอทคอม
    การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

    วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
     

    ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

    เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

    Email : kornkham@hotmail.com
    Tel : 081-3431047

    สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
    คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ