ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
รายงานผลการพัฒนาแบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจโดยใช้วิธีการสอนอ่านแบบบูรณาการของเมอร์ด๊อค (MIA) สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3

ผู้รายงาน นางสาวนีฮาย๊ะ มาแจ

ปีที่รายงาน 2565

บทคัดย่อ

การศึกษาครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนาและหาประสิทธิภาพแบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจโดยใช้วิธีการสอนอ่านแบบบูรณาการของเมอร์ด๊อค (MIA) สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 2) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ก่อนเรียนกับหลังเรียนด้วยแบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจโดยใช้วิธีการสอนอ่านแบบบูรณาการของเมอร์ด๊อค (MIA) และ 3) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ต่อการจัดการเรียนรู้ด้วยแบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจโดยใช้วิธีการสอนอ่านแบบบูรณาการของเมอร์ด๊อค (MIA) กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/6 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565 โรงเรียนเดชะปัตตนยานุกูล อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 15 จำนวน 39 คน ซึ่งได้จากการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) โดยใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยสุ่ม (Sampling Unit) เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ แบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจโดยใช้วิธีการสอนอ่านแบบ บูรณาการของเมอร์ด๊อค (MIA) สำหรับเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 5 ชุด แผนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 5 แผน แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แบบปรนัยชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 40 ข้อ และแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ต่อการจัดการเรียนรูด้วยแบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจโดยใช้วิธีการสอนอ่านแบบบูรณาการของเมอร์ด๊อค (MIA) จำนวน 10 ข้อ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้เกณฑ์ประสิทธิภาพ (E1/E2) ค่าเฉลี่ย (x ̅) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D) และการทดสอบค่าที (t-test)

ผลการศึกษาพบว่า

1. แบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจโดยใช้วิธีการสอนอ่านแบบบูรณาการของเมอร์ด๊อค (MIA) สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 80.55/81.06 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด

2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 หลังเรียนด้วยแบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจโดยใช้วิธีการสอนอ่านแบบบูรณาการของเมอร์ด๊อค (MIA) สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05

3. ความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ต่อการจัดการเรียนรู้ด้วยแบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจโดยใช้วิธีการสอนอ่านแบบบูรณาการของเมอร์ด๊อค (MIA) อยู่ในระดับมาก

โพสต์โดย Teacher chisuka : [3 ส.ค. 2565 เวลา 17:50 น.]
อ่าน [2556] ไอพี : 49.237.18.83
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 41,783 ครั้ง
งานประติมากรรมเครื่องปั้นดินเผา
งานประติมากรรมเครื่องปั้นดินเผา

เปิดอ่าน 17,563 ครั้ง
[ อยากมีเงินเหลือ อ่านเลย! ] วิธีลดค่าไฟฟ้าเดือนละ 1 พันบาท
[ อยากมีเงินเหลือ อ่านเลย! ] วิธีลดค่าไฟฟ้าเดือนละ 1 พันบาท

เปิดอ่าน 12,486 ครั้ง
ผักที่มีรูจากแมลงใช่ว่าจะปลอดภัยเสมอไป...
ผักที่มีรูจากแมลงใช่ว่าจะปลอดภัยเสมอไป...

เปิดอ่าน 9,783 ครั้ง
ไอ้หยา!ด.ญ.ร้องพิธีเปิดโอลิมปิกก็ลวง
ไอ้หยา!ด.ญ.ร้องพิธีเปิดโอลิมปิกก็ลวง

เปิดอ่าน 37,546 ครั้ง
หลักเกณฑ์การพิจารณาการย้าย
หลักเกณฑ์การพิจารณาการย้าย

เปิดอ่าน 54,050 ครั้ง
ที่มาของ "กรุงเทพมหานคร" และ "บางกอก"
ที่มาของ "กรุงเทพมหานคร" และ "บางกอก"

เปิดอ่าน 13,398 ครั้ง
องค์ประกอบ ของความสำเร็จ
องค์ประกอบ ของความสำเร็จ

เปิดอ่าน 13,181 ครั้ง
ชมคลิปวิดีโอการบรรยายเรื่อง "หลักการ พ.ร.บ.Undo" โดยผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง
ชมคลิปวิดีโอการบรรยายเรื่อง "หลักการ พ.ร.บ.Undo" โดยผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง

เปิดอ่าน 32,330 ครั้ง
jobsDB เผย 10 สายงานที่มีเงินเดือนมากที่สุด
jobsDB เผย 10 สายงานที่มีเงินเดือนมากที่สุด

เปิดอ่าน 14,671 ครั้ง
ชมย้อนหลัง วอลเล่ย์บอลสาวไทยชนะญี่ปุ่น 3-0 เซต คว้าแชมป์เอเชีย 2013 เมื่อวันที่ 21 ก.ย.56
ชมย้อนหลัง วอลเล่ย์บอลสาวไทยชนะญี่ปุ่น 3-0 เซต คว้าแชมป์เอเชีย 2013 เมื่อวันที่ 21 ก.ย.56

เปิดอ่าน 42,893 ครั้ง
รายชื่อหลักสูตรการพัฒนาข้าราชการครูของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน 2561
รายชื่อหลักสูตรการพัฒนาข้าราชการครูของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน 2561

เปิดอ่าน 16,083 ครั้ง
เส้นทางการศึกษาใหม่ ให้ทางเลือกเยาวชน
เส้นทางการศึกษาใหม่ ให้ทางเลือกเยาวชน

เปิดอ่าน 15,549 ครั้ง
พระคงคา
พระคงคา

เปิดอ่าน 10,628 ครั้ง
ปวดท้องตรงไหน เป็นอะไรกันแน่
ปวดท้องตรงไหน เป็นอะไรกันแน่

เปิดอ่าน 3,130 ครั้ง
การเป็นพลเมืองที่ดี
การเป็นพลเมืองที่ดี

เปิดอ่าน 10,125 ครั้ง
10 ความเข้าใจผิดๆ กับเรื่องอาหาร
10 ความเข้าใจผิดๆ กับเรื่องอาหาร
เปิดอ่าน 10,098 ครั้ง
เติมน้ำมันให้คุ้มที่สุด
เติมน้ำมันให้คุ้มที่สุด
เปิดอ่าน 11,309 ครั้ง
เผยแพร่แนวทางการจัดทำรายงานการประเมินตนเองของสถานศึกษา SAR (ไฟล์ Word)
เผยแพร่แนวทางการจัดทำรายงานการประเมินตนเองของสถานศึกษา SAR (ไฟล์ Word)
เปิดอ่าน 11,363 ครั้ง
ครูอินเดีย ลุยน้ำไปสอนหนังสือเด็กนานกว่า 20 ปี
ครูอินเดีย ลุยน้ำไปสอนหนังสือเด็กนานกว่า 20 ปี
เปิดอ่าน 8,154 ครั้ง
ร้อนตับแตก มีที่มาอย่างไร
ร้อนตับแตก มีที่มาอย่างไร

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ