ครูบ้านนอก

ชื่อเรื่อง การพัฒนาการจัดการเรียนการสอนเชิงรุกต่อความสามารถในการแก้ปัญหาและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน วิชาสุขศึกษา สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1

ผู้รายงาน มนต์รัก พาลธุวงษ์

ปีที่ศึกษา 2564

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อพัฒนาการจัดการเรียนการสอนเชิงรุกต่อความสามารถในการแก้ปัญหา และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน วิชาสุขศึกษา สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียนโดยการจัดการเรียนการสอนเชิงรุก วิชาสุขศึกษา สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 และ 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนการสอน เชิงรุก วิชาสุขศึกษา สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/2 โรงเรียนสิริราชอนุสรณ์ จังหวัดสระแก้ว สังกัดองค์การบริหาร ส่วนจังหวัดสระแก้ว ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564 จำนวน 28 คน ซึ่งได้มาโดยวิธีการสุ่มอย่างง่าย จับฉลากห้องเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 4 ห้องเรียน ได้ห้องเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/2 มีจำนวน 28 คน ที่มีผลการเรียนคละกัน เก่ง ปานกลาง และอ่อน

เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้คือ (1) แผนการจัดการเรียนการสอนเชิงรุก วิชาสุขศึกษา กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 6 แผน ใช้เวลาในการสอนแผนละ 1 ชั่วโมง รวม 6 แผน (2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน รายวิชาสุขศึกษา สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ซึ่งใช้สำหรับทดสอบนักเรียนก่อนและหลังการจัดการเรียนการสอนเชิงรุก เป็นแบบทดสอบปรนัย ชนิดเลือกตอบ มี 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ จำนวน 1 ฉบับ (3) แบบวัดความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนการสอนเชิงรุก วิชาสุขศึกษา กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีลักษณะเป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) แบ่งระดับความพึงพอใจเป็น 5 ระดับ คือ มากที่สุด มาก ปานกลาง น้อย และน้อยที่สุด จำนวน 15 ข้อ จำนวน 1 ฉบับ และสถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ หาประสิทธิภาพของการจัดการเรียนการสอนเชิงรุก ด้วยวิธี E1/E2 การวิเคราะห์ความแตกต่างของคะแนนก่อนเรียน และหลังเรียนโดยใช้การทดสอบค่า t – test (Dependent Samples) หาค่าความตรงเชิงเนื้อหาจากค่าดัชนีความสอดคล้องระหว่างข้อสอบกับพฤติกรรมที่ต้องการวัด หาค่าความยากและค่าอำนาจจำแนกของแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน หาค่าความเชื่อมั่นของแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนทั้งฉบับ โดยใช้สูตร KR – 20 (Kuder-Richardson) และศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนการสอนเชิงรุก วิชาสุขศึกษา กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยใช้ค่าเฉลี่ย ( ) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.)

ผลการศึกษา พบว่า

1. ผลการหาประสิทธิภาพของการจัดการเรียนการสอนเชิงรุก วิชาสุขศึกษา กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีประสิทธิภาพ 84.02/86.08 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้ คือ 80/80

2. ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้การจัดการเรียนการสอนเชิงรุกวิชาสุขศึกษา กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

3. ผลการประเมินความพึงพอใจของนักเรียนของที่มีต่อการจัดการเรียนการสอนเชิงรุก วิชาสุขศึกษา กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 อยู่ในระดับความพึงพอใจมากที่สุด ( = 4.21) และมีความพึงพอใจสอดคล้องไปในทิศทางเดียวกัน (S.D. = 0.82)

เว็บน่าสนใจ