การวิจัยเรื่อง “การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ เรื่องการคูณ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนวัดลาดชิด (ลาดชิดวิทยาคาร) ด้วยการจัดการเรียนรู้รูปแบบ Game Based Learning” มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังเรียน เรื่องการคูณในวิชาคณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนวัดลาดชิด (ลาดชิดวิทยาคาร) 2) เพื่อศึกษาผลของการจัดการเรียนรู้รูปแบบ Game Based Learning เรื่องการคูณที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนวัดลาดชิด (ลาดชิดวิทยาคาร) โดยมีสมมติฐานการวิจัย คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนวัดลาดชิด (ลาดชิดวิทยาคาร) ที่เรียนรู้ในรูปแบบ Game Based Learning เรื่องการคูณ มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน ซึ่งประชากรที่ใช้ในการวิจัย คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนวัดลาดชิด (ลาดชิดวิทยาคาร) ปีการศึกษา 2564 จำนวน 31 คน มีเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบทดสอบเรื่องการคูณก่อนเรียนและหลังเรียน ซึ่งมีลักษณะเป็นข้อสอบเติมคำตอบ จำนวน 40 ข้อ 30 คะแนน ชุดกิจกรรมเกมการเรียนรู้ เรื่องการคูณประกอบด้วย เกมช่วยปลาน้อยกลับบ้าน (ความหมายของการคูณ) เกมจับคู่ดอกไม้ (การคูณจำนวนหนึ่งหลักกับจำนวนหนึ่งหลัก) เกมผึ้งน้อยหารัง (การคูณจำนวนหนึ่งหลักกับจำนวนสองหลัก) เกมบอลลูนตะลุยโจทย์ (การคูณจำนวนสองหลักกับจำนวนสองหลัก) และเกมตามล่าหาสมบัติ (วัดและประเมินผลเรื่องการคูณ) และแผนการจัดการเรียนรู้ หน่วยการเรียนรู้ เรื่องการคูณ

ซึ่งกระบวนการในการเก็บรวบรวมข้อมูล เริ่มจากทำการทดสอบก่อนเรียนกับชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ปีการศึกษา 2564 จำนวน 31 คน ด้วยแบบทดสอบเติมคำตอบ จำนวน 40 ข้อ 30 คะแนน แล้วบันทึกผลไว้เป็นคะแนนก่อนเรียน ศึกษา วิเคราะห์หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน วิเคราะห์ผู้เรียน ศึกษาเนื้อหา วิธีการจัดการเรียนรู้แบบ Game Based Learning เพื่อที่จะใช้สร้างชุดกิจกรรมเกมการเรียนรู้ รวมทั้งออกแบบการจัดการเรียนการสอน สร้างชุดกิจกรรมเกมการเรียนรู้ เรื่องการคูณ ประกอบไปด้วยเกมช่วยปลาน้อยกลับบ้าน (ความหมายของการคูณ) เกมจับคู่ดอกไม้ (การคูณจำนวนหนึ่งหลักกับจำนวนหนึ่งหลัก) เกมผึ้งน้อยหารัง (การคูณจำนวนหนึ่งหลักกับจำนวนสองหลัก) เกมบอลลูนตะลุยโจทย์ (การคูณจำนวนสองหลักกับจำนวนสองหลัก) และเกมตามล่าหาสมบัติ (วัดและประเมินผลเรื่องการคูณ) ให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบความถูกต้องของชุดกิจกรรมเกมการเรียนรู้ เรื่องการคูณ จากนั้นนำชุดกิจกรรมเกมการเรียนรู้ มาใช้ในการจัดการเรียนการสอนเรียนการสอนตามแผนการจัดการเรียนรู้กับนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ปีการศึกษา 2564 จำนวน 31 คน ทำการทดสอบหลังเรียนกับชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ปีการศึกษา 2564 จำนวน 31 คน ด้วยแบบทดสอบเติมคำตอบ จำนวน 40 ข้อ 30 คะแนน แล้วบันทึกผลไว้เป็นคะแนนหลังเรียน และนำผลการทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียนมาวิเคราะห์และสรุปผล โดยนำคะแนนแบบทดสอบก่อนเรียนและคะแนนแบบทดสอบหลังเรียนมาหาค่าเฉลี่ยเลขคณิต (x ̅) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และเปรียบเทียบความแตกต่างของค่าเฉลี่ยของคะแนนแบบทดสอบก่อนเรียนและคะแนนแบบทดสอบหลังเรียน โดยทดสอบความแตกต่างระหว่างค่าเฉลี่ยโดยการทดสอบค่าที (t – test) แล้วนำเสนอข้อมูลตารางประกอบความเรียง สามารถสรุปผลการวิจัยได้ดังนี้

1. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนวัดลาดชิด (ลาดชิดวิทยาคาร) ทำแบบทดสอบเรื่องการคูณ หลังเรียนมีคะแนนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01

2. การจัดการเรียนรู้รูปแบบ Game Based Learning เรื่องการคูณ สามารถพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนวัดลาดชิด (ลาดชิดวิทยาคาร) ได้

เว็บน่าสนใจ