ชื่อเรื่อง รายงานการประเมินโครงการพัฒนาศักยภาพครู สู่คุณภาพผู้เรียน โรงเรียนห้วยยอด
(กลึงวิทยาคาร) ปีการศึกษา 2564
ผู้รายงาน นางสาวสุมนา หนูเอียด
ตาแหน่ง รองผู้อานวยการโรงเรียนโรงเรียนห้วยยอด (กลึงวิทยาคาร)
สานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาตรัง เขต 2
ปีที่รายงาน ปีการศึกษา 2564
บทสรุป
รายงานการประเมินโครงการพัฒนาศักยภาพครู สู่คุณภาพผู้เรียน โรงเรียนห้วยยอด (กลึง
วิทยาคาร) ปีการศึกษา ๒๕๖๔ มีวัตถุประสงค์ เพื่อประเมินด้านสภาพแวดล้อม ด้านปัจจัยนาเข้า ด้าน
กระบวนการดาเนินงานและด้านผลผลิตของโครงการ โดยประยุกต์รูปแบบการประเมินแบบซิปป์ (CIPP Model)
ของสตัฟเฟิลบีม (Stufflebeam. 1983 : 261) มาใช้ในการประเมิน
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการประเมินประกอบด้วย ประชากรนักเรียนจานวน 484 คน ครู
จานวน 35 คน ผู้ปกครองนักเรียน จานวน 480 คน และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จานวน 13 คน
ได้มาโดยการกาหนดกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง (Purposive Sampling)
เครื่องมือที่ใช้ในการประเมิน เป็นแบบสอบถามที่มีลักษณะเป็นมาตราส่วนประมาณค่า
(Rating Scale) มี 5 ระดับ พร้อมคาถามปลายเปิด จานวน 6 ฉบับ แบบบันทึกผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนในระดับ
สถานศึกษาปีการศึกษา 2564 1 ฉบับและแบบบันทึกผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET)
1 ฉบับ เครื่องมือทุกฉบับมีการตรวจสอบคุณภาพของเครื่องมือ ได้ค่าความเชื่อมั่นอยู่ระหว่าง 0.892 - 0.997
สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ (Percentage) ค่าเฉลี่ย (Mean) และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน
(Standard Deviation)
ผลการประเมินพบว่า
1. ผลการประเมินด้านสภาพแวดล้อมของโครงการพัฒนาศักยภาพครู สู่คุณภาพผู้เรียน โรงเรียน
ห้วยยอด (กลึงวิทยาคาร) ปีการศึกษา 2564 ตามความคิดเห็นของครูและคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน โดย
ภาพรวมพบว่า ทั้งสองกลุ่มที่ประเมินมีค่าเฉลี่ยสูงกว่าเกณฑ์ที่กาหนดได้คะแนนรวมเฉลี่ย 15 คะแนน ผ่านเกณฑ์การ
ประเมินทุกประเด็นตัวชี้วัด เมื่อพิจารณาแต่ละกลุ่ม พบว่า ผ่านเกณฑ์การประเมินทั้งสองกลุ่ม โดยภาพรวมทุกกลุ่ม
ผู้ตอบแบบสอบถาม มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากและมากที่สุด เมื่อพิจารณาจาแนกตามกลุ่มผู้ตอบแบบสอบถาม
พบว่า กลุ่มครู มีค่าเฉลี่ยสูงสุด อยู่ในระดับมากที่สุด (X = 4.52, S.D. = 0.35) รองลงมา กลุ่มคณะกรรมการ
สถานศึกษาขั้นพื้นฐาน อยู่ในระดับมาก (X = 4.41, S.D. = 0.41)
2. ผลการประเมินด้านปัจจัยนาเข้าของโครงการพัฒนาศักยภาพครู สู่คุณภาพผู้เรียน
โรงเรียนห้วยยอด (กลึงวิทยาคาร) ปีการศึกษา 2564 ตามความคิดเห็นของครู โดยรวมพบว่า มีความเหมาะสมอยู่
ในระดับมาก ( X = 4.40, S.D. =0.41 ) ทุกประเด็นตัวชี้วัด มีค่าเฉลี่ยสูงกว่าเกณฑ์ที่กาหนด ได้คะแนนเฉลี่ย 15
ผ่านเกณฑ์การประเมิน
3. ผลการประเมินด้านกระบวนการดาเนินงานของโครงการพัฒนาศักยภาพครู สู่คุณภาพ
ผู้เรียน โรงเรียนห้วยยอด (กลึงวิทยาคาร) ปีการศึกษา 2564 ตามความคิดเห็นของครู คณะกรรมการสถานศึกษา
ขั้นพื้นฐานและผู้ปกครอง โดยภาพรวมพบว่า ทั้งสามกลุ่มที่ประเมิน มีค่าเฉลี่ยสูงกว่าเกณฑ์ที่กาหนด ได้คะแนนเฉลี่ย
20 ผ่านเกณฑ์การประเมิน เมื่อพิจารณาแต่ละกลุ่ม พบว่า ผ่านเกณฑ์การประเมินทั้งสามกลุ่ม โดยภาพรวมทุกกลุ่ม
ผู้ตอบแบบสอบถาม มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากและมากที่สุด เมื่อพิจารณาจาแนกตามกลุ่มผู้ตอบแบบสอบถาม
พบว่า กลุ่มครู มีค่าเฉลี่ยสูงสุด อยู่ในระดับมากที่สุด ( X = 4.54, S.D. = 0.40) รองลงมา คือ กลุ่มคณะกรรมการ
สถานศึกษาขั้นพื้นฐาน อยู่ในระดับมาก ( X = 4.46, S.D. = 0.45) ส่วนความคิดเห็นของ ผู้ปกครองมีค่าเฉลี่ยต่าสุด
( X = 4.28 , S.D. = 0.54) อยู่ในระดับมากเช่นกัน
4. ผลการประเมินด้านผลผลิตของโครงการพัฒนาศักยภาพครู สู่คุณภาพผู้เรียน โรงเรียน
ห้วยยอด (กลึงวิทยาคาร) ปีการศึกษา 2564 จาแนกเป็น
4.1 ผลการประเมินด้านคุณภาพการพัฒนาศักยภาพครู ตามโครงการพัฒนาศักยภาพครู
สู่คุณภาพผู้เรียน โรงเรียนห้วยยอด (กลึงวิทยาคาร) ปีการศึกษา 2564 ตามความคิดเห็นของครู คณะกรรมการ
สถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และผู้ปกครอง โดยภาพรวมพบว่า ทั้งสามกลุ่มที่ประเมิน มีค่าเฉลี่ยสูงกว่าเกณฑ์ที่กาหนด ได้
คะแนนเฉลี่ย 10 ผ่านเกณฑ์การประเมิน
เมื่อพิจารณาแต่ละกลุ่ม พบว่า ผ่านเกณฑ์การประเมินทั้งสามกลุ่ม โดยภาพรวมทุกกลุ่มผู้ตอบ
แบบสอบถาม มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากและมากที่สุด เมื่อพิจารณาจาแนกตามกลุ่มผู้ตอบแบบสอบถามพบว่า กลุ่ม
คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน มีค่าเฉลี่ยสูงสุด อยู่ในระดับมากที่สุด ( X = 4.54, S.D. = 0.44) รองลงมา คือ
กลุ่มครู ( X = 4.31, S.D. = 0.37) อยู่ในระดับมาก ส่วนกลุ่ม ผู้ปกครองมีค่าเฉลี่ยต่าสุด ( X = 4.21 , S.D. = 0.54)
อยู่ในระดับมากเช่นกัน
4.2 ผลการประเมินด้านประสิทธิภาพการจัดการเรียนรู้ของครู ตามโครงการพัฒนาศักยภาพครู
สู่คุณภาพผู้เรียน โรงเรียนห้วยยอด (กลึงวิทยาคาร) ปีการศึกษา 2564 ตามความคิดเห็นของนักเรียน คณะกรรมการ
สถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และผู้ปกครอง โดยภาพรวมพบว่า ทั้งสามกลุ่มที่ประเมิน มีค่าเฉลี่ยสูงกว่าเกณฑ์ที่กาหนด ได้
คะแนนเฉลี่ย 10 ผ่านเกณฑ์การประเมิน
เมื่อพิจารณาแต่ละกลุ่ม พบว่า ผ่านเกณฑ์การประเมินทั้งสามกลุ่ม โดยภาพรวมทุกกลุ่มผู้ตอบ
แบบสอบถาม มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากและมากที่สุด เมื่อพิจารณาจาแนกตามกลุ่มผู้ตอบแบบสอบถามพบว่า
กลุ่มคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน มีค่าเฉลี่ยสูงสุด อยู่ในระดับมากที่สุด ( X = 4.54, S.D. = 0.44) รองลงมา
คือกลุ่มผู้ปกครอง ( X = 4.25, S.D. = 0.51) อยู่ในระดับมาก ส่วนกลุ่ม นักเรียนมีค่าเฉลี่ยต่าสุด ( X = 4.14 ,
S.D. = 0.54) อยู่ในระดับมากเช่นกัน
4.3 คุณภาพผู้เรียนโรงเรียนห้วยยอด (กลึงวิทยาคาร) จาแนกเป็น
4.3.1 คะแนนเฉลี่ยผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระดับสถานศึกษาโรงเรียนห้วยยอด(กลึงวิทยาคาร)
ปีการศึกษา 2564 โดยรวมมีคะแนนเฉลี่ยร้อยละ 70.52 สูงกว่าเกณฑ์ที่กาหนด ผ่านเกณฑ์การประเมิน
เมื่อพิจารณาจาแนกตามระดับชั้นพบว่า ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 มีค่าเฉลี่ย สูงสุด เท่ากับ 76.97 รองลงมาได้แก่
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 มีค่าเฉลี่ย เท่ากับ 76.75 ส่วนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีค่าเฉลี่ยต่าสุด เท่ากับ 61.94
4.3.2 ผลการทดสอบระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 และระดับ
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ปีการศึกษา 2564 พบว่า โดยภาพรวมชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีค่าคะแนนเฉลี่ยสูงกว่า
ระดับประเทศ โดยรวมมีค่าเฉลี่ย ร้อยละ 43.71 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยรวมมีค่าเฉลี่ย ร้อยละ 29.76
4.4 ผลการประเมินความพึงพอใจต่อการดาเนินโครงการพัฒนาศักยภาพครู สู่คุณภาพผู้เรียน
โรงเรียนห้วยยอด (กลึงวิทยาคาร) ปีการศึกษา 2564 ตามความคิดเห็นของครู นักเรียน คณะกรรมการสถานศึกษา
ขั้นพื้นฐาน และผู้ปกครอง โดยภาพรวมพบว่า ทั้งสี่กลุ่มที่ประเมิน มีค่าเฉลี่ยสูงกว่าเกณฑ์ที่กาหนด ได้คะแนนเฉลี่ย
10 ผ่านเกณฑ์การประเมิน
เมื่อพิจารณาแต่ละกลุ่ม พบว่า ผ่านเกณฑ์การประเมินทั้งสี่กลุ่ม โดยภาพรวมทุกกลุ่มผู้ตอบ
แบบสอบถาม มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากและมากที่สุด เมื่อพิจารณาจาแนกตามกลุ่มผู้ตอบแบบสอบถามพ บว่า
กลุ่มครู มีค่าเฉลี่ยสูงสุด อยู่ในระดับมากที่สุด ( X = 4.54, S.D. = 0.40) รองลงมา คือ กลุ่มคณะกรรมการ
สถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ( X = 4.53 , S.D. = 0.48) อยู่ในระดับมากที่สุด ส่วนกลุ่มนักเรียนมีค่าเฉลี่ยต่าสุด ( X = 4.20
, S.D. = 0.52) อยู่ในระดับมาก
ข้อเสนอแนะ
1. ข้อเสนอแนะเพื่อนาผลการประเมินไปใช้
1.1 โรงเรียนควรส่งเสริมให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องมีความเข้าใจและตระหนักถึงความต้องการจาเป็นในการ
พัฒนาศักยภาพครู ร่วมกันวิเคราะห์สภาพปัจจุบัน ปัญหา กาหนดเป้าหมายและกรอบกิจกรรมการพัฒนาครูที่
สอดคล้องกับความต้องการจาเป็นของโรงเรียนและสอดคล้องกับความต้องการพัฒนาตนเองของครู
1.2 การดาเนินการพัฒนาศักยภาพครู สู่คุณภาพผู้เรียน ผู้บริหารต้องดาเนินการให้สอดคล้องกับความ
ต้องการจาเป็นของโรงเรียนและสอดคล้องกับความต้องการพัฒนาตนเองของครู วิธีการพัฒนาศักยภาพครูจึงต้องมี
ความหลากหลาย ด้วยกิจกรรมพัฒนา 3 ลักษณะดังนี้1) กิจกรรมการพัฒนาตนเองโดยครูเป็นหลัก และมีโรงเรียน
สนับสนุน ส่งเสริม 2) กิจกรรมการพัฒนาตนเองโดยโรงเรียนเป็นเจ้าภาพหลัก และ 3) กิจกรรมการพัฒนาตนเองโดย
หน่วยงานต้นสังกัด หรือหน่วยงานอื่นจัดขึ้น
1.3 ควรมีการยกย่อง เชิดชูเกียรติ การเสริมสร้างโอกาสแสดงศักยภาพและความสามารถ 2Xf2E6aEU7n685eHEbXGYHrmWn2y7a62UWBrtZzodVdD ความชอบด้วยความยุติธรรม ส่งผลให้ครูมีขวัญและกาลังใจในการปฏิบัติงาน มีความสุขและสนุกกับการจัดการเรียนรู้ มุ่งสู่คุณภาพผู้เรียน
1.4 ควรมีการนิเทศ กากับติดตามอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะอย่างยิ่งการทบทวนหลังปฏิบัติงาน ( AAR : After Action Review ) ร่วมกันสะท้อนและทบทวนกระบวนการต่างๆ นาบทเรียนที่ได้จากความสาเร็จและปัญหาที่เกิดขึ้น มาพัฒนากระบวนการดาเนินงานพัฒนาศักยภาพครูให้มีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผลมากยิ่งขึ้น
2. ข้อเสนอแนะเพื่อการประเมิน และวิจัยครั้งต่อไป
2.1 ควรศึกษาการประเมินโครงการพัฒนาศักยภาพครู สู่คุณภาพผู้เรียน ในเชิงคุณภาพ เพื่อให้ได้ ข้อมูลเชิงลึกอันจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน
2.2 ควรนารูปแบบหรือวิธีการประเมินอื่น ๆ นอกเหนือจากการประเมินโดยใช้ซิป โมเดล (CIPP Model) มาประเมินโครงการพัฒนาศักยภาพครู สู่คุณภาพผู้เรียน เพื่อการยืนยันผล
2.3 ควรประเมินผลกระทบของโครงการในระยะยาว เช่น ผลการเรียนรู้ที่ผู้เรียนได้รับจากการดาเนินโครงการพัฒนาศักยภาพครู สู่คุณภาพผู้เรียน
2.4 ควรศึกษาผลกระทบที่มีต่อการดาเนินงานโครงการพัฒนาศักยภาพครู สู่คุณภาพผู้เรียน ตามบริบทของโรงเรียนที่แตกต่างกัน เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการวางแผนการพัฒนาการดาเนินงานตามโครงการต่อไป