ชื่อเรื่อง รายงานการประเมินโครงการการนิเทศภายในแบบคู่สัญญา ด้วยกระบวนการ
บริหารวงจรคุณภาพ (PDCA)
ผู้รายงาน นางสาวจีระภา บุญไชย
สถานศึกษา โรงเรียนชะอวด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานครศรีธรรมราช
ปีการศึกษา 2564
บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อประเมินด้านบริบท ด้านปัจจัยนำเข้า ด้านกระบวนการดำเนินงาน ด้านผลผลิต และด้านผลลัพธ์ ของโครงการการนิเทศภายในแบบคู่สัญญา ด้วยกระบวนการบริหารวงจรคุณภาพ(PDCA) 2) เพื่อศึกษาด้านผลกระทบ ด้านประสิทธิผล ด้านความยั่งยืน และด้านการถ่ายโยงความรู้ ของโครงการการนิเทศภายในแบบคู่สัญญา ด้วยกระบวนการบริหารวงจรคุณภาพ (PDCA) และ 3) เพื่อศึกษาปัญหาและแนวทางการพัฒนาปรับปรุงโครงการการนิเทศภายในแบบคู่สัญญา ด้วยกระบวนการบริหารวงจรคุณภาพ (PDCA) กลุ่มตัวอย่างในการวิจัย ได้แก่ ครู นักเรียน ผู้ปกครองนักเรียน กรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานและผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 738 คน จำแนกได้ดังนี้ กลุ่มตัวอย่าง ประกอบด้วย ครู 71 คน นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-6 กำหนดกลุ่มตัวอย่างโดยใช้ตารางประมาณค่าของ เครจซี่และมอร์แกน และสุ่มแบบแบ่งชั้นอย่างเป็นสัดส่วน โดยจำแนกตามระดับชั้นและสุ่มอย่างง่าย โดยวิธีการจับฉลาก จำนวน 322 คน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 13 คน และและผู้ปกครองนักเรียนกำหนดกลุ่มตัวอย่างให้เป็นผู้ปกครองของนักเรียนที่เป็นกลุ่มตัวอย่าง จำนวน 322 คน ผู้ทรงคุณวุฒิ 10 คน โดยใช้วิธีการประเมินเชิงปริมาณ และเชิงคุณภาพ สำหรับการประเมินเชิงปริมาณใช้เครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นแบบสอบถามแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ (Rating Scale) ของลิเคอร์ท (Likert) การวิเคราะห์ข้อมูลใช้วิธีการหาค่าร้อยละ (%) ค่าเฉลี่ยเลขคณิต ("X" ̅) และค่าความเบี่ยงเบนมาตรฐาน ( S.D.) และ ค่าที (t-test) ด้านข้อมูลเชิงคุณภาพ ใช้แบบสนทนากลุ่ม และการวิเคราะห์เอกสาร นำเสนอในรูปแบบของการบรรยายพร้อมตาราง
ผลการประเมินพบว่า โครงการการนิเทศภายในแบบคู่สัญญา ด้วยกระบวนการบริหารวงจรคุณภาพ(PDCA) ในภาพรวมผ่านเกณฑ์การประเมินตามที่กำหนดไว้ โดยมีผลการดำเนินโครงการในระดับมาก โดยได้คะแนนรวม 83.80 คะแนน จากคะแนนเต็ม 100 คะแนน และเมื่อพิจารณาถึงรายละเอียดของประเด็นการประเมินทั้ง 5 ประเด็น พบว่า ผ่านเกณฑ์การประเมินเช่นเดียวกัน โดยผลการประเมินประเด็นสภาพแวดล้อมของโครงการ ประเด็นปัจจัยนำเข้าของโครงการ อยู่ในระดับมากที่สุด ประเด็นกระบวนการดำเนินโครงการ อยู่ในระดับมาก ประเด็นผลผลิตของโครงการ อยู่ในระดับมาก และประเด็นด้านผลลัพธ์ อยู่ในระดับมาก
เมื่อพิจารณาตัวชี้วัดของประเด็นการประเมินทั้ง 5 ประเด็น จำนวน 25 ตัวชี้วัด พบว่า ผ่านเกณฑ์การประเมินทั้ง 25 ตัวชี้วัด โดยมีผลการประเมิน อยู่ในระดับปานกลาง 2 ตัวชี้วัด ได้แก่ ประเด็นด้านปัจจัยนำเข้า ตัวชี้วัดหน่วยงานที่สนับสนุนและประเด็นด้านผลผลิตของโครงการ ตัวชี้วัดคุณลักษณะการเป็นบุคคลแห่งการเรียนรู้ของนักเรียน
ผลการประเมินอยู่ในระดับมาก 9 ตัวชี้วัด ได้แก่ ประเด็นปัจจัยนำเข้า ตัวชี้วัดด้านทรัพยากร ด้านข้อมูลสารสนเทศเพื่อการพัฒนา ประเด็นกระบวนการของโครงการ ตัวชี้วัดการวางแผนการดำเนินงาน การปฏิบัติตามแผนการดำเนินงาน การตรวจสอบการปฏิบัติตามแผน การปรับปรุงแก้ไข ประเด็นผลผลิตของโครงการ ตัวชี้วัด คุณภาพในการจัดการเรียนรู้ของครูผู้สอนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระดับสถานศึกษา ความพึงพอใจของผู้ปกครองต่อคุณภาพการเรียนรู้ของนักเรียน
ผลการประเมินอยู่ในระดับมากที่สุด 14 ตัวชี้วัด ได้แก่ ประเด็นสภาพแวดล้อม ความต้องการและความจำเป็นของโครงการ ความเหมาะสมของวัตถุประสงค์ ความเป็นไปได้ของโครงการ ความเหมาะสมของของกระบวนการดำเนินงาน และ ความสอดคล้องกับนโยบายต้นสังกัด ประเด็นด้านปัจจัยนำเข้า ด้านผู้บริหารและครู ด้านระบบบริหาร ประเด็นด้านผลผลิต ความพึงพอใจของครูที่มีต่อการโครงการการนิเทศภายในแบบคู่สัญญา ประเด็นด้านผลลัพธ์ของโครงการ ด้านผลกระทบ ด้านประสิทธิผล ด้านความยั่งยืน และด้านการถ่ายโยงความรู้
ผลการศึกษาข้อมูลเชิงคุณภาพด้านผลลัพธ์ของโครงการการนิเทศภายในแบบคู่สัญญา ด้วยกระบวนการบริหารวงจรคุณภาพ (PDCA) ประกอบด้วย ด้านผลกระทบ ด้านประสิทธิผล ด้านความยั่งยืน และด้านการถ่ายโยงความรู้ สรุปได้ดังนี้
1. ด้านผลกระทบ (Impact) พบว่า 1) จำนวนนักเรียนปีการศึกษา 2564 มีจำนวนเพิ่มขึ้นมากกว่าทุกปี แสดงผลกระทบในเชิงบวก 2) นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 และชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 จบหลักสูตรการศึกษา 100% 3) การศึกษาต่อและการประกอบอาชีพของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 พบว่า การศึกษาต่อมีความหลากหลายสอดคล้องกับศักยภาพของนักเรียน และ 4) นักเรียนและครูมีผลงานเชิงประจักษ์และได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติ ระดับประเทศ ระดับภูมิภาค และระดับเขตพื้นที่การศึกษา จำนวน 23 รางวัล และครู จำนวน 18 รางวัล
2. ด้านประสิทธิผล (Effectiveness) พบว่า 1) การประเมินการบรรลุวัตถุประสงค์ในการดำเนินโครงการ พบว่า ผลการดำเนินโครงการอยู่ในระดับมาก 2) การประเมินความเหมาะสมของการใช้ทรัพยากร พบว่า ประเด็นปัจจัยของโครงการ อยู่ในระดับมากที่สุด 3) การประเมินกระบวนการทำงานที่มีประสิทธิภาพ พบว่า กระบวนการดำเนินโครงการ อยู่ในระดับมาก และ 4) การประเมินความพึงพอใจต่อผลประโยชน์ที่ได้รับจากผลผลิต พบว่า อยู่ในระดับมาก
3. ด้านความยั่งยืน (Sustainability) พบว่า 1) การนำความรู้ที่ได้จากการนิเทศภายในมาใช้ในการพัฒนาการเรียนการสอนสู่การปฏิบัติที่เป็นเลิศ โดยครูได้ค้นพบวิธีปฏิบัติที่เป็นเลิศ ที่เป็นนวัตกรรมสามารถตอบสนองความคาดหวังของผู้เกี่ยวข้องได้เป็นอย่างดี 2) การประยุกต์องค์ความรู้ที่ได้จากการนิเทศภายในไปสู่งานอื่นๆ ได้แก่ การพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้ให้ผู้เรียนมีสมรรถนะตามหลักสูตร การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้ให้ผู้เรียนมีทักษะและคุณลักษณะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 (3R8C) 3) กระบวนการทำงานเป็นทีมที่มีประสิทธิภาพ โดยโรงเรียนใช้กระบวนการทำงานเป็นทีมในการดำเนินการนิเทศภายในแบบคู่สัญญาด้วยกระบวนการบริหารวงจรคุณภาพ (PDCA) ทั้ง 6 ขั้นตอน
4. ด้านการถ่ายโยงความรู้ (Transportability) พบว่า 1) สรุปองค์ความรู้และภาพความสำเร็จ ได้แก่ การนิเทศภายในที่มีการทำงานร่วมกันทั้งองค์กร การนิเทศภายในที่อยู่บนหลักการของประชาธิปไตย การทำพันธะสัญญาระหว่างคู่นิเทศบนหลักการร่วมคิด ร่วมทำ และการพัฒนาการปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practices) ภายใต้แนวคิดนักเรียนเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ 2) การนำเสนอกระบวนการนิเทศภายใน โดยการเผยแพร่รายงานการประเมินโครงการแก่โรงเรียนต่างๆ การนำเสนอในที่ประชุมผู้บริหาร การเป็นวิทยากรการนิเทศภายใน การเผยแพร่ข้อมูลการนิเทศภายในแบบคู่สัญญาครอบคลุมกลุ่มเป้าหมาย การนำเสนอกิจกรรมวิธีการปฏิบัติที่เป็นเลิศของ สพม. นครศรีธรรมราช และการนำเสนอรูปแบบการนิเทศภายในแบบคู่สัญญาในโครงการหนึ่งโรงเรียนหนึ่งนวัตกรรม 3) การปรับปรุงและการนำไปใช้เกี่ยวกับแนวคิดองค์ความรู้ใหม่ ได้แก่ การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและทัศนคติในการทำงาน ความร่วมมือทั้งองค์กรในการนิเทศภายใน การสร้างเครือข่ายการนิเทศ และการใช้เทคโนโลยีในการนิเทศภายใน 4) การปรับระบบการนิเทศภายในให้เหมาะสมกับความเปลี่ยนแปลงของกระบวนการเรียนรู้ เทคโนโลยี และนโยบาย โดยนำแนวการนิเทศภายในโดยใช้ห้องเรียนเป็นฐานเพื่อพัฒนาคุณภาพผู้เรียนในระดับโรงเรียน ของหน่วยศึกษานิเทศก์ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน มาประยุกต์กับการนิเทศภายในแบบคู่สัญญา
ผลการศึกษาสภาพปัญหา พบว่า ปัญหาครูบางส่วนขาดความตระหนักและรับผิดชอบในการทำหน้าที่ในการนิเทศภายใน และกระบวนการนิเทศภายในที่ไม่ได้ดำเนินการให้เกิดคุณภาพในการเปลี่ยนแปลงการเรียนการสอน เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน โดยโรงเรียนได้กำหนดแนวทางการพัฒนา คือ ดำเนินการพัฒนาครู สร้างความรู้ความเข้าใจ สร้างความตระหนักและความรับผิดชอบในการนิเทศภายใน และกำหนดเป้าหมายในการนิเทศภายในแบบคู่สัญญาอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อให้ครูและบุคลากรดำเนินการนิเทศภายในได้อย่างมีประสิทธิภาพตามเป้าหมายที่กำหนด