ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


หน้าแรกครูบ้านนอก > ข่าว/บทความ > ความรู้ทั่วไป > 2012 วันสิ้นโลก จริงหรือ?
2012 วันสิ้นโลก จริงหรือ?
ความรู้ทั่วไป โพสต์เมื่อวันที่ : 21 พ.ย. 2552 เปิดอ่าน : 17,445 ครั้ง
☰แชร์เลย >  
เพิ่มเพื่อน
Advertisement

❝ กระแส ข่าวลือในโลกอินเทอร์เน็ต ผ่านอีเมล์ลูกโซ่ เกี่ยวกับวันโลกาวินาศ หรือวันโลกแตก ที่จะเกิดขึ้นในเดือนธันวาคม ปี ค.ศ.2012 หรือ พ.ศ.2555 ตามคำทำนาย ของปฏิทินชนเผ่ามายาในสหรัฐอเมริกาที่ทำปฏิทินหยุดไว้แค่ปี ค.ศ.2012 และการคาดคะเนถึงปรากฏการณ์วิปริตผิดธรรมชาติต่าง ๆ เช่น มีดาวเคราะห์อีกดวง เดินทางอยู่ในวงโครจรเดียวกันกับโลกของเรา จะโคจรมาชนกับโลกในปี ค.ศ.2012 รวมไปถึงอาจจะมีแนวโน้มการที่ขั้วแม่เหล็กของโลกจะเกิดการสลับขั้วกะทันหัน ซึ่งอาจส่งผลให้น้ำแข็งในขั้วโลกละลายจนท่วมโลกได้อีกด้วย ❞
2012 วันสิ้นโลก จริงหรือ?
Advertisement

2012 วันสิ้นโลก 2012
2012 วันสิ้นโลก 2012

2012 วันสิ้นโลก 2012
2012 วันสิ้นโลก 2012


          ซึ่งกระแสข่าวเหล่านี้หวนกลับมาแพร่สะพัดไปทั่วโลกอีกครั้ง รวมถึงในประเทศไทย (หลังจากที่เคยเป็นที่กล่าวขวัญกันเมื่อหลายปีก่อนมาแล้ว) อาจจะมีเหตุมาจากการโปรโมทภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์เรื่อง "2012 วันสิ้นโลก" ของฮอลลีวู้ดลงโรงฉาย และค่ายโซนี่พิคเจอร์ส ในฐานะผู้สร้าง จัดทำเว็บไซต์ปลุกกระแสดังกล่าวขึ้นมาเพื่อหวังผลทางการตลาด จนคนในองค์กร "นาซ่า" ต้องทักท้วงว่าเป็นแผนการตลาดที่ไม่เหมาะสม ส่วนข้อเท็จจริงว่าโลกจะแตกจริงตามคำพยากรณ์หรือไม่ วันนี้กระปุกรวบรวบข้อมูลมาให้เพื่อน ๆ ได้อ่านกันค่ะ

           (1) ปฏิทินมายาทำนายว่า ปีค.ศ.2012 เป็นวาระสุดท้ายของโลกจริงหรือ?

          เกี่ยวกับเรื่องนี้ สมาคมดาราศาสตร์ โดย นายวิมุติ วสะหลาย ได้เขียนชี้แจงข้อเท็จจริงว่า ปฏิทิน มายามีหลายแบบ แบบหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับปี ค.ศ.2012 คือแบบที่เรียกกันว่า ปฏิทินรอบยาว (long count) ระบุวันด้วยชุดของตัวเลข ตัวเลขชุดนี้แทนวันที่ได้ยาวนาน 5,126 ปี เทียบกับวันที่ตามระบบปฏิทินสากลตั้งแต่วันที่ 11 สิงหาคม 3,114 ปีก่อน คริสตกาลไปจนสุดจำนวนเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม ค.ศ.2012 การสิ้นสุดของตัวเลขปฏิทินมายา หรือการครบจำนวนสูงสุดที่กำหนดไว้ในระบบนับวันระบบใดระบบหนึ่ง จะแสดงถึงการสิ้นสุดของโลกเชียวหรือ

          คอมพิวเตอร์สมัยก่อนก็มีระบบปฏิทินในตัวเครื่องที่แสดงวันเดือนปีได้ จนถึงสิ้น ค.ศ.2000 อันเป็นที่รู้จักกันในนามของปัญหา Y2K แต่เมื่อสิ้นสุด ค.ศ.2000 โลกก็ไม่ได้แตกตามระบบนับวันของคอมพิวเตอร์ ทำนองเดียวกัน โลกก็จะไม่แตกสลายเพราะว่าสุดตัวเลขปฏิทินมายา หลังวันที่ 21 ธันวาคม ค.ศ.2012 ปฏิทินมายาก็จะเริ่มนับรอบใหม่

           (2) ในปี ค.ศ.2012 จะเกิดพายุสุริยะโจมตีโลกจริงหรือ?

         นายวิมุติ ได้ให้คำตอบว่า จริง พายุสุริยะเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นเกือบตลอดเวลา และส่งผลกระทบถึงโลก และมีระดับความรุนแรงผันแปรเป็นคาบ คาบละประมาณ 11 ปี คาบที่ชัดเจนนี้ทำให้นักดาราศาสตร์พยากรณ์ได้ว่า ช่วงสูงสุดหรือต่ำสุดของวัฏจักรสุริยะจะเกิดขึ้นเมื่อใด ช่วงสูงสุดของวัฏจักรที่จะเกิดในครั้งถัดไปคาดว่าจะอยู่ในช่วงกลาง ค.ศ.2013 ช่วงสูงสุดของวัฏจักรสุริยะกินเวลายาวนานข้ามปี ดังนั้น แม้ช่วงสูงสุดจะอยู่ใน ค.ศ.2013 แต่พายุสุริยะก็เริ่มจะกระหน่ำโลกตั้งแต่ก่อน ค.ศ.2012 แล้ว

          แม้ช่วงปี 2013 จะอยู่ในช่วงสูงสุดของวัฏจักรสุริยะ แต่พายุสุริยะที่จะเกิดขึ้นก็ไม่ได้รุนแรงมากไปกว่าที่เคยเกิดขึ้นในรอบก่อน ซึ่งเกิดในราวปี ค.ศ.2000, ค.ศ.1989 และก่อนหน้านั้น ความจริงมีแนวโน้มว่าช่วงสูงสุดของวัฏจักรที่จะมาถึงในปี ค.ศ.2013 จะอ่อนกำลังกว่าวัฏจักรก่อนหน้านี้เสียด้วยซ้ำ

           (3) ปี 2012 สนามแม่เหล็กโลกจะเปลี่ยนตำแหน่งจริงหรือ?

         นายวิมุติ ได้ให้คำตอบว่า จริง แต่เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ และไม่ใช่กำลังจะเกิดใน ค.ศ.2012 หากแต่เกิดขึ้นตลอดเวลา นักวิทยาศาสตร์ทราบว่า ขั้วแม่เหล็กโลกมีการเคลื่อนที่ตั้งแต่ที่ ค้นพบขั้วเหนือแม่เหล็กโลกเมื่อกว่าศตวรรษก่อนแล้ว การเคลื่อนที่นี้เกิดขึ้นอย่างช้า ๆ ด้วยอัตราเฉลี่ยประมาณ 1 องศาต่อ 1 ล้านปีหรืออาจเร็วกว่านั้น การสำรวจในช่วงไม่กี่ปีมานี้พบว่า ขั้วเหนือแม่เหล็กโลกเคลื่อนที่เร็วขึ้น แต่ความเปลี่ยนแปลงนี้ไม่ใช่ตัวบ่งชี้ว่าโลกใกล้สลับขั้วหรือกำลังวิปริต เพราะอัตราการเคลื่อนที่มีขึ้นมีลงอยู่เสมอ

           (4) หากเกิดการสลับขั้วแม่เหล็กโลกจริง จะทำให้เกิดหายนะถึงขั้นผู้คนล้มตายเป็นจำนวนมากหรือไม่

         นายวิมุติ ได้อธิบายไว้ว่า เนื่องจากสนามแม่เหล็กโลกมีบทบาทสำคัญในการเป็นเกราะคุ้มกันรังสีอันตรายจาก ห้วงอวกาศ ดังนั้น จึงเชื่อได้ว่าหากเกิดความผิดปกติของสนามแม่เหล็กโลก เช่น สนามแม่เหล็กหายไป ซึ่งอาจเกิดขึ้นในช่วงที่มีการสลับขั้วแม่เหล็ก ก็ย่อมส่งผลต่อสรรพชีวิตบนพื้นโลกอย่างแน่นอน ผลกระทบที่ว่านี้จะรุนแรงถึงขั้นบาดเจ็บล้มตายหรือเกิดการสูญพันธุ์ครั้ง ใหญ่หรือไม่? ก็ไม่น่าจะเป็นเช่นนั้น และจากการเทียบบันทึกการสลับขั้วแม่เหล็กโลกในอดีตซึ่งเกิดแล้วหลายครั้ง เราไม่พบว่ามีความสอดคล้องกับเวลาที่เกิดการสูญพันธุ์ครั้งใหญ่ที่เคยเกิด ขึ้นบนโลก นี่น่าจะพอเบาใจได้ในระดับหนึ่งว่า หากโลกสลับขั้วแม่เหล็กในช่วงนี้ก็คงไม่ถึงขั้นคอขาดบาดตาย 

           (5) ดาวนิบิรุ มีจริงหรือไม่?

         นายวิมุติ ได้อธิบายไว้ว่า "นิบิรุ" เป็นชื่อเทพองค์หนึ่งของบาบิโลน ส่วนดาวนิบิรุเป็นดาวตามทฤษฎีของ "เซชาเรีย ซิตชิน" ซึ่งอ้างว่าถอดความมาจากจารึกของชาวสุเมเรียน ทฤษฎีนี้กล่าวว่าดาวนิบิรุเป็นดาวที่มีสิ่งมีชีวิตที่มีอารยธรรมอาศัยอยู่ และเคยมาเยือนโลกเมื่อนานมาแล้ว แม้เรื่องดาวนิบิรุจะได้รับความนิยมในหมู่ผู้ชื่นชอบเรื่องลึกลับ เรื่องจานบิน เรื่องมนุษย์ต่างดาว แต่เนื่องจากทฤษฎีนี้มีหลักฐานอ่อนมากและตั้งอยู่บนจินตนาการมากกว่าเหตุผล จึงไม่ได้รับการยอมรับในวงกว้างในวงการวิทยาศาสตร์ รวมถึงนักวิชาการด้านสุเมเรียนด้วย

          นอกจากนี้เรายังมีข้อมูลจากนักวิชาการของไทยหลาย ๆ ท่าน มาให้ข้อมูลและความรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้เพิ่มเติมอีกค่ะ โดยเริ่มจาก ดร.อานนท์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ผู้อำนวยการศูนย์เครือข่ายงานวิเคราะห์วิจัยและฝึกอบรมการเปลี่ยนแปลงของโลก แห่งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า 

          "เหตุ ที่มีคนออกมาวิพากษ์วิจารณ์คำทำนายโลกแตก ในปี 2012 กันมากขึ้น อาจเป็นเพราะอิทธิพลของการโฆษณาภาพยนตร์เรื่องหนึ่งที่กำลังฉายอยู่ทั่วโลก ขณะนี้ นอกจากนั้น การที่มีโหรออกมาทำนายถึงเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตก็อาจจะทำให้มีการ พูดถึงกันไปใหญ่ จนกลายเป็นประเด็นที่หลายคนเริ่มตื่นตระหนก ส่วนตัวแล้วคิดว่า ถ้าจะพูดในแง่หลักฐานที่นักวิทยาศาสตร์ นักธรณีวิทยา และนักฟิสิกส์ รวมทั้งนักดาราศาสตร์ รวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ทั้งหมดนั้น ยังมีหลักฐานอ่อนเกินไป หรือแทบจะไม่มีอะไรที่จะมาสนับสนุนแนวคิดดังกล่าวได้เลย"

          ดร.อานนท์ ยังกล่าวอีกว่า "อย่างไรก็ตาม อาจจะมีอีกหลายข้อมูลที่นักวิทยาศาสตร์ยังไม่รู้ หรือยังหาไม่เจอ ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ทุกคนจะเปิดรับฟังข้อมูล รวมทั้งเร่งศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ให้มากขึ้น แล้วจึงไตร่ตรองอย่างรอบคอบว่าควรจะเชื่อดีหรือไม่ แต่ทางที่ดีที่สุด ก็คือ การทำความเข้าใจกับสภาพของโลกที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ และช่วยกันทำให้ดีขึ้นจะดีกว่า"

          ดร.อานนท์ กล่าวส่งท้ายว่า "ใน ฐานะนักวิทยาศาสตร์คนหนึ่ง ผมว่าเราควรเปิดกว้างสำหรับการรับฟังข้อมูลจากทุกด้าน และไตร่ตรองกับข้อมูลเหล่านั้นอย่างรอบคอบ เช่น นักวิทยาศาสตร์เขาเชื่อว่า ปี 2012 โลกยังไม่แตก เพราะเขาศึกษามา มีหลักฐานที่สามารถอ้างอิงและพิสูจน์ได้ ในขณะที่โหรคนหนึ่งบอกว่า ปีดังกล่าวโลกจะแตก เพราะเขานั่งทางในเห็น เหตุผลแบบนี้ผมก็ฟัง และทุกคนก็ฟัง แต่ก็ต้องมาคิดแล้วว่าเราจะเชื่อใครดี" ดร.อานนท์ กล่าว 

          ด้าน คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ได้แสดงทรรศนะในเรื่องเดียวกันนี้ว่า "เรื่องปี 2012 นี้เป็นสิ่งที่หลายคนกำลังกังวลอยู่ว่าในอนาคตจะมีอะไรเกิดขึ้นกับโลกของเรา บ้าง เพราะปัจจุบันเรามีความรู้เกี่ยวกับโลกยังไม่มากพอ ดังนั้น สิ่งสำคัญจึงควรที่จะหาข้อมูลให้มากขึ้น โดยเฉพาะนักวิทยาศาสตร์จะต้องช่วยกันทำงานเพื่อจะช่วยกันเผยแพร่ความรู้ต่อ ประชาชนทั่วไป ให้เกิดความตระหนัก แต่ไม่ควรตระหนกจนเกินไป ที่ผ่านมา ตนได้ยินเหมือนกันว่ามีเด็ก ๆ เยาวชน แม้กระทั่งเด็กในโรงเรียนอนุบาล ประถม มาพูดถึงเรื่องน้ำท่วมโลก โลกจะแตก ทำให้ตื่นกลัวกันไปใหญ่ จึงไม่อยากให้ตื่นตระหนกกันมากไป ถึงแม้ว่าที่ผ่านมาจะมีนักวิทยาศาสตร์ นักวิจัยในอดีต จะเคยคาดการณ์เอาไว้ว่า โลกมีโอกาสล่มสลายไปได้ แต่ก็เป็นระยะเวลาอีกนับร้อยปีข้างหน้า แต่คงจะไม่ใช่การล่มสลายไปในปีสองปีนี้แน่นอน และเป็นเพียงการทำนายเท่านั้น"

          คุณหญิงกัลยา กล่าวต่อว่า "วิธี การป้องกัน ก็คือ ทุกคนต้องช่วยกันดูแลรักษาโลก เพราะขณะที่ทั่วโลกตื่นตัวเรื่องของ "สภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงไป" อันเกิดจากน้ำมือมนุษย์ที่ปล่อย "ก๊าซเรือนกระจก" ออกสู่ชั้นบรรยากาศของโลกจำนวนมาก ทำให้โลกร้อนขึ้น น้ำแข็งขั้วโลกละลาย ระดับน้ำทะเลสูงขึ้น พื้นที่ชายฝั่งหลายแห่งถูกน้ำท่วม เช่น ที่ จ.สมุทรปราการ เป็นตัวอย่างชัดเจน ส่วนเรื่องของระดับน้ำที่สูงขึ้น จนทำให้พื้นที่หลายแห่งของโลกจะถูกจมลงในทะเลก็อาจเป็นไปได้ เพราะในอดีตนักวิทยาศาสตร์เคยวาดภาพแผนที่โลกไว้ซึ่งก็ไม่ใช่แผนที่โลกใน ปัจจุบันนี้ หลายทวีปเกิดขึ้นใหม่หลายทวีปก็จมลงทะเลไปแล้ว ดังนั้นการบอกว่าโลกจะจมน้ำก็มีโอกาสเป็นไปได้ แต่ถ้าบอกว่าโลกจะแตกในปีนั้นปีนี้อย่างรวดเร็วคงจะเป็นเพียงการจินตนาการใน ภาพยนตร์ ไม่อยากให้ประชาชน โดยเฉพาะเยาวชนแตกตื่นกันไป"

          "ขณะ นี้ในส่วนของกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ เอง ก็พยายามที่จะรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับโลกเก็บไว้เพื่อทำการศึกษา รวมทั้งเผยแพร่ความรู้ให้กับประชาชนโดยทั่วไป หากอยากไขข้อสงสัยอะไรก็สามารถติดต่อขอทราบข้อมูลได้ เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่มากขึ้น" คุณหญิงกัลยา กล่าว

          ขณะที่ ดร.พันธ์ศักดิ์ ศิริรัชตพงษ์ ผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) กล่าว ว่า "คงไม่มีใครบอกได้ว่าโลกจะแตกจริงหรือไม่ และโลกจะแตกเมื่อไหร่ เพราะคงไม่มีใครรู้ได้ชัดเจน การที่ตอนนี้มีประเด็นทำให้มีคนออกมาพูดวิพากษ์วิจารณ์กันอาจจะเป็นเพราะคำ ทำนายต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการทำนายของ "นอสตราดามุส" หรือการทำนายของคนอื่น ๆ ซึ่งอาจเป็นการจูงใจทำให้คนหันมาให้ความสนอกสนใจเรื่องนี้มากขึ้น รวมทั้งความเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติในปัจจุบันก็เป็นสิ่งที่ทำให้คนรู้สึก ได้"

          "อย่างไรก็ตาม ในส่วนตัวคิดว่าในระยะเวลาอันใกล้นี้เป็นไปไม่ได้แน่นอนที่โลกจะแตก หรือล่มสลายไป นอกเสียจากว่าจะมี "อุกกาบาต" วิ่งเข้ามาชนโลกฉับพลัน ขณะนี้นักดาราศาสตร์ หรือนักวิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวข้องก็กำลังจับตามองอยู่ และยังไม่เห็นว่าโลกเราจะอยู่ในภาวะอันตราย" ดร.พันธ์ศักดิ์ กล่าว

          "เรื่อง ของโลกจะแตก หรือเกิดอะไรขึ้นกับโลกนี้ ส่วนตัวผมว่าเป็นไปได้น้อยมาก หรือหากจะเกิดขึ้นจริง ๆ คิดว่าอาจจะเกิดเพียงจุดใดจุดหนึ่งของโลกเท่านั้น ไม่ได้ทำให้โลกนี้แตกสลายไปได้ง่าย ๆ อย่างแน่นอน อย่างน้อยเชื่อว่าคนรุ่นเรา ๆ ไม่น่าจะเห็น" ดร.พันธ์ศักดิ์ กล่าวส่งท้าย

          หวัง ว่าข้อมูลหลาย ๆ ประเด็นที่ได้รวบรวมมาให้อ่านกัน ก็คงจะทำให้เพื่อน ๆ ได้ความรู้เพิ่มขึ้น ที่สำคัญที่สุด ก่อนที่จะกลัวโลกดับสูญลง เรามาช่วยกันทำให้โลกนี้น่าอยู่ ด้วยการรักษาโลกใบนี้ ให้สวยงามน่าอยู่กันดีกว่าค่ะ

ที่มา  ::  ข่าวสด


TAGS ที่เกี่ยวข้อง >> 2012 วันสิ้นโลก จริงหรือ?2012วันสิ้นโลกจริงหรือ? << คลิกอ่านเพิ่มเติม

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

LCD (Liquid Crystal Display)

LCD (Liquid Crystal Display)
เปิดอ่าน 10,842 ครั้ง
คีย์บอร์ดเสมือนจริงกูเกิล

คีย์บอร์ดเสมือนจริงกูเกิล
เปิดอ่าน 14,056 ครั้ง
ฮือฮา! รถใช้น้ำแทนน้ำมัน วิ่งได้ 56 กิโลเมตร/ลิตร

ฮือฮา! รถใช้น้ำแทนน้ำมัน วิ่งได้ 56 กิโลเมตร/ลิตร
เปิดอ่าน 80,056 ครั้ง
7 เคล็ดลับ รักษามือให้น่าหลงใหล

7 เคล็ดลับ รักษามือให้น่าหลงใหล
เปิดอ่าน 14,317 ครั้ง
วิธีการทดสอบน้ำผึ้งแท้หรือปลอม

วิธีการทดสอบน้ำผึ้งแท้หรือปลอม
เปิดอ่าน 58,494 ครั้ง
16 กันยายน วันโอโซนโลก

16 กันยายน วันโอโซนโลก
เปิดอ่าน 13,152 ครั้ง
6 ข้อคิดดี ๆ จากนิทานอีสปที่คุณอาจจะลืมไปแล้ว

6 ข้อคิดดี ๆ จากนิทานอีสปที่คุณอาจจะลืมไปแล้ว
เปิดอ่าน 28,142 ครั้ง
6 จุดที่เป็นแหล่งกำเนิดพลังลับในบ้าน ที่ต้องเร่งกำจัดก่อนจะบั่นทอนชีวิตทุกวัน

6 จุดที่เป็นแหล่งกำเนิดพลังลับในบ้าน ที่ต้องเร่งกำจัดก่อนจะบั่นทอนชีวิตทุกวัน
เปิดอ่าน 2,411 ครั้ง
ผู้ว่าฯ เชียงราย ผุดไอเดีย สร้างถนนดอกซากุระ สั่งซื้อจากญี่ปุ่น

ผู้ว่าฯ เชียงราย ผุดไอเดีย สร้างถนนดอกซากุระ สั่งซื้อจากญี่ปุ่น
เปิดอ่าน 14,096 ครั้ง
นอน ถูกท่า ถูกวิธี.. เพิ่มความงามแบบไม่รู้ตัว

นอน ถูกท่า ถูกวิธี.. เพิ่มความงามแบบไม่รู้ตัว
เปิดอ่าน 10,138 ครั้ง
มาตรฐานโทรศัพท์มือถือยุคที่ 3

มาตรฐานโทรศัพท์มือถือยุคที่ 3
เปิดอ่าน 11,269 ครั้ง
วิธีเลือกของขวัญมีค่า-ไม่แพง

วิธีเลือกของขวัญมีค่า-ไม่แพง
เปิดอ่าน 21,734 ครั้ง
ตกแต่งห้องให้ดูกว้างขึ้น

ตกแต่งห้องให้ดูกว้างขึ้น
เปิดอ่าน 14,577 ครั้ง
3 วิธีแกะกล่องพัสดุให้ปลอดภัยห่างไกลจากโควิด-19

3 วิธีแกะกล่องพัสดุให้ปลอดภัยห่างไกลจากโควิด-19
เปิดอ่าน 38,114 ครั้ง
"วาสนา" ดีจากไหน ลองดูที่ "เส้นวาสนา" จากลายมือกัน

"วาสนา" ดีจากไหน ลองดูที่ "เส้นวาสนา" จากลายมือกัน
เปิดอ่าน 23,836 ครั้ง

:: เรื่องปักหมุด ::

รัดผมตึง...ระวังโรคเครียด
รัดผมตึง...ระวังโรคเครียด
เปิดอ่าน 10,076 ☕ คลิกอ่านเลย

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
เผยอีโคไลตัวใหม่ ทนยาปฏิชีวนะ ถึงตายได้
เผยอีโคไลตัวใหม่ ทนยาปฏิชีวนะ ถึงตายได้
เปิดอ่าน 12,960 ☕ คลิกอ่านเลย

ความมืดมีประโยชน์ ช่วยต้านมะเร็ง แถมลดน้ำหนัก
ความมืดมีประโยชน์ ช่วยต้านมะเร็ง แถมลดน้ำหนัก
เปิดอ่าน 14,244 ☕ คลิกอ่านเลย

แบ่งปันความสุข แบ่งเบาความทุกข์
แบ่งปันความสุข แบ่งเบาความทุกข์
เปิดอ่าน 18,476 ☕ คลิกอ่านเลย

กินอย่างไรไม่ให้อ้วน
กินอย่างไรไม่ให้อ้วน
เปิดอ่าน 1,080 ☕ คลิกอ่านเลย

บัญญัติ 10 ประการ การออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ
บัญญัติ 10 ประการ การออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ
เปิดอ่าน 11,911 ☕ คลิกอ่านเลย

สมุนไพรไม่ปลอดภัยเสมอไป
สมุนไพรไม่ปลอดภัยเสมอไป
เปิดอ่าน 10,556 ☕ คลิกอ่านเลย

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

วันนี้คุณบำรุงผิวหน้าด้วยอโลเวร่าหรือยัง ?
วันนี้คุณบำรุงผิวหน้าด้วยอโลเวร่าหรือยัง ?
เปิดอ่าน 13,110 ครั้ง

กลิ่นกุหลาบช่วยกระตุ้นหน่วยความจำ
กลิ่นกุหลาบช่วยกระตุ้นหน่วยความจำ
เปิดอ่าน 9,121 ครั้ง

ต้องดู! คลิปผลงานนศ. ถ่ายทอดเรื่องราวซึ้งกินใจ
ต้องดู! คลิปผลงานนศ. ถ่ายทอดเรื่องราวซึ้งกินใจ
เปิดอ่าน 11,043 ครั้ง

ฝึกลูกจำศัพท์อังกฤษ50คำได้ไม่ต้องท่อง หมวดสิ่งของทั่วไป
ฝึกลูกจำศัพท์อังกฤษ50คำได้ไม่ต้องท่อง หมวดสิ่งของทั่วไป
เปิดอ่าน 46,868 ครั้ง

7 เคล็ดลับผิวสว่างใส สำหรับสาวย่าง 30
7 เคล็ดลับผิวสว่างใส สำหรับสาวย่าง 30
เปิดอ่าน 14,865 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย


เว็บไซต์ที่น่าสนใจ

  • IELTS Test
  • SAT Test
  • สอบ IELTS
  • สอบ TOEIC
  • สอบ SAT
  • เว็บไซต์พันธมิตร

  • IELTS
  • TOEIC Online
  • chulatutor
  • เพลงเด็กอนุบาล
  •  
    หมวดหมู่เนื้อหา
    เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


    · Technology
    · บทความเทคโนโลยีการศึกษา
    · e-Learning
    · Graphics & Multimedia
    · OpenSource & Freeware
    · ซอฟต์แวร์แนะนำ
    · การถ่ายภาพ
    · Hot Issue
    · Research Library
    · Questions in ETC
    · แวดวงนักเทคโนฯ

    · ความรู้ทั่วไป
    · คณิตศาสตร์
    · วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
    · ภาษาต่างประเทศ
    · ภาษาไทย
    · สุขศึกษาและพลศึกษา
    · สังคมศึกษา ศาสนาฯ
    · ศิลปศึกษาและดนตรี
    · การงานอาชีพ

    · ข่าวการศึกษา
    · ข่าวตามกระแสสังคม
    · งาน/บริการสังคม
    · คลิปวิดีโอยอดนิยม
    · เกมส์
    · เกมส์ฝึกสมอง

    · ทฤษฎีทางการศึกษา
    · บทความการศึกษา
    · การวิจัยทางการศึกษา
    · คุณครูควรรู้ไว้
    · เตรียมประเมินวิทยฐานะ
    · ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
    · เครื่องมือสำหรับครู

    ครูบ้านนอกดอทคอม

    เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

          kroobannok.com

    © 2000-2020 Kroobannok.com  
    All rights reserved.


    Design by : kroobannok.com


    ครูบ้านนอกดอทคอม
    การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

    วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
     

    ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

    เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

    Email : kornkham@hotmail.com
    Tel : 081-3431047

    สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
    คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ