ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

รูปแบบการนิเทศแบบผสมผสานประยุกต์ใช้แนวคิด OKRs ด้วยเครือข่ายนิเทศ ตามแนวทางศาสตร์พระราชาเพื่อส่งเสริมสมรรถนะการวิจัยของครูคณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 1-3 สังกัดสำนักงานเขตพ

ชื่อเรื่อง : รูปแบบการนิเทศแบบผสมผสานประยุกต์ใช้แนวคิด OKRs ด้วยเครือข่ายนิเทศ

ตามแนวทางศาสตร์พระราชาเพื่อส่งเสริมสมรรถนะการวิจัยของครูคณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษา

ปีที่ 1-3 สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาชลบุรี ระยอง ในเขตพัฒนาพิเศษ

ภาคตะวันออก

ผู้วิจัย สุภลักษณ์ สีใส

ปีการศึกษา 2564

บทคัดย่อ

งานวิจัยนี้ใช้ระเบียบวิธีวิจัยแบบผสม มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อวิเคราะห์องค์ประกอบของสมรรถนะการวิจัยของครูกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-3 2) เพื่อศึกษาสภาพปัจจุบัน ปัญหา และความต้องการนิเทศเพื่อส่งเสริมสมรรถนะการวิจัยของครูคณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1- 3 สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาชลบุรี ระยอง ในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก 3) เพื่อสร้างรูปแบบการนิเทศแบบผสมผสานประยุกต์ใช้แนวคิด OKRs ด้วยเครือข่ายนิเทศตามแนวทางศาสตร์พระราชาเพื่อส่งเสริมสมรรถนะการวิจัยของครูคณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-3 ในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก 4) เพื่อศึกษาผลการใช้รูปแบบการนิเทศแบบผสมผสานประยุกต์ใช้แนวคิด OKRs ด้วยเครือข่ายนิเทศตามแนวทางศาสตร์พระราชาเพื่อส่งเสริมสมรรถนะการวิจัยของครูคณิตศาสตร์ ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-3 5) เพื่อประเมินประสิทธิผลการใช้รูปแบบการนิเทศแบบผสมผสานประยุกต์ใช้แนวคิด OKRs ด้วยเครือข่ายนิเทศเพื่อส่งเสริมสมรรถนะการวิจัยของครูคณิตศาสตร์ ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-3 โดยใช้ระเบียบวิธีวิจัยและกระบวนการวิจัยและพัฒนา กลุ่มตัวอย่าง 1) วิเคราะห์องค์ประกอบของสมรรถนะการวิจัยของครูกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 350 คน ได้มาโดยการสุ่มแบบหลายขั้นตอน 2) ศึกษาสภาพปัจจุบัน ปัญหา และความต้องการนิเทศเพื่อส่งเสริมสมรรถนะการวิจัยของครูคณิตศาสตร์ กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 188 คน ได้มาโดยใช้สูตรยามาเน่ 3) สร้างรูปแบบการนิเทศ กลุ่มตัวอย่างจำนวน 36 คน โดยการเลือกแบบเจาะจง 4) ทดลองใช้รูปแบบการนิเทศ กลุ่มตัวอย่างจำนวน 40 คนโดยการเลือกแบบเจาะจง 5)ประเมินประสิทธิผลการใช้รูปแบบกับครูผู้สอนกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ จำนวน 40 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ 1) รูปแบบการนิเทศ 2) แบบวัดความรู้พื้นฐานการวิจัย 2) แบบประเมินทักษะการวิจัย 3) แบบประเมินคุณลักษณะและแรงจูงใจ 4) แบบประเมินวัฒนธรรมการวิจัยและ 5) แบบประเมินการนำผลงานวิจัยไปใช้ประโยชน์ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบที (t – test) และการวิเคราะห์เนื้อหา

ผลการวิจัยพบว่า

1. โมเดลการวัดสมรรถนะวิจัยของครูกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-3สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาชลบุรี ระยอง ในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ประกอบด้วย 5 องค์ประกอบ คือ

(1) ด้านความรู้ในการวิจัย (2) ด้านทักษะการวิจัย (3) ด้านคุณลักษณะและแรงจูงใจ (4) ด้านวัฒนธรรมการวิจัย และ(5) ด้านนำผลงานวิจัยไปใช้ประโยชน์ ผลการตรวจสอบความสอดคล้องของโมเดลการวัดสมรรถนะวิจัยของครูกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-3 พบว่าโมเดลการวัดสมรรถนะวิจัยของครูกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ฯ มีความสอดคล้องกลมกลืนกับข้อมูลเชิงประจักษ์ โดยพิจารณาจากค่า x^2=1.304, df =4, x^2/df=.326, P-value = .998, GFI =.999, CFI = 1.000, RMSEA= .000

2. สภาพปัจจุบันครูมีสมรรถนะการวิจัยเพื่อพัฒนาการจัดการเรียนรู้อยู่ในระดับปานกลาง (x̄ = 3.25) สภาพปัญหาครูขาดสมรรถนะการวิจัยอยู่ในระดับมาก (x̄ = 4.20) และมีความต้องการนิเทศเพื่อพัฒนาสมรรถนะการวิจัยอยู่ในระดับมาก (x̄= 4.75)

3. รูปแบบการนิเทศ มี 6 องค์ประกอบ คือ 1) หลักการ 2) วัตถุประสงค์ 3) เนื้อหา 4) กระบวนการนิเทศ 5) การวัดผลและประเมินผล และ 6) เงื่อนไขความสำเร็จ ประกอบด้วยกระบวนการนิเทศ มี 6 ขั้นตอน คือ 1) การค้นหาความต้องการ 2) การวางแผนการนิเทศผสานแนวคิด OKRs 3) การให้ความรู้ก่อนการนิเทศ 4) การดำเนินการนิเทศ 5) การประเมินผลการนิเทศ และ 6) การสะท้อนผล โดยวิธีการนิเทศใช้แบบผสมผสาน คือ การนิเทศออนไลน์, การนิเทศชี้แนะ, การนิเทศสะท้อนผล,การนิเทศเสริมพลังอำนาจ,การนิเทศด้วยการใช้การวิจัยเป็นฐานและการสร้างชุมชนแห่งการเรียนรู้วิชาชีพ

มีค่าดัชนีความสอดคล้อง (IOC) เท่ากับ .96 ผลการทดลองใช้ พบว่าผู้เข้าร่วมอบรมมีความรู้ในการวิจัย โดยมีคะแนนก่อนอบรม เฉลี่ย 16.50 คะแนน และหลังอบรมมีคะแนนเฉลี่ย 23.40 คะแนน มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญที่ .05 ครูมีทักษะการวิจัยเฉลี่ยร้อยละ 70.00 มีคุณลักษณะและแรงจูงใจ ร้อยละ 80.15 มีวัฒนธรรมการวิจัย ร้อยละ 73.46 และมีการนำผลงานวิจัยไปใช้ประโยชน์ ร้อยละ 85.23

4) ผลการประเมินประสิทธิผลการใช้รูปแบบการนิเทศแบบผสมผสานประยุกต์ใช้แนวคิด OKRs ด้วยเครือข่ายนิเทศตามแนวทางศาสตร์พระราชาเพื่อส่งเสริมสมรรถนะการวิจัยของครูคณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-3 สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาชลบุรี ระยอง ในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก พบว่า ครูผู้เข้าร่วมอบรม มีคะแนนความรู้ในการวิจัยก่อนอบรม เฉลี่ย 15.40 คะแนน และหลังอบรม เฉลี่ย 24.40 คะแนน โดยมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญที่ .05 มีทักษะการวิจัยเฉลี่ยร้อยละ 72.00 มีคุณลักษณะและแรงจูงใจ ร้อยละ 82.15 มีวัฒนธรรมการวิจัย ร้อยละ 75.46 และมีการนำผลงานวิจัยไปใช้ประโยชน์ ร้อยละ 89.45

คำสำคัญ: รูปแบบการนิเทศแบบผสมผสาน, กระบวนการนิเทศ, OKRs

โพสต์โดย นุช : [26 ธ.ค. 2565 เวลา 00:14 น.]
อ่าน [64790] ไอพี : 182.232.135.196
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 19,764 ครั้ง
การประยุกต์ทฤษฎีการแพร่กระจาย การปรับปรุงโปรแกรมสื่อในโรงเรียน
การประยุกต์ทฤษฎีการแพร่กระจาย การปรับปรุงโปรแกรมสื่อในโรงเรียน

เปิดอ่าน 22,784 ครั้ง
การศึกษาประชารัฐ FOCUS ที่พัฒนาครู
การศึกษาประชารัฐ FOCUS ที่พัฒนาครู

เปิดอ่าน 7,860 ครั้ง
ไทยมีอัตราการเติบโตของการใช้อินเทอร์เน็ต สูงเป็นอันดับ 1 ของโลก
ไทยมีอัตราการเติบโตของการใช้อินเทอร์เน็ต สูงเป็นอันดับ 1 ของโลก

เปิดอ่าน 3,371 ครั้ง
ศาสนา เรื่องที่ไม่เคยรู้ ตอนที่ 1 สาระน่ารู้ตามหลักศาสนาพุทธ  เรื่อง การถวายสังฆทาน
ศาสนา เรื่องที่ไม่เคยรู้ ตอนที่ 1 สาระน่ารู้ตามหลักศาสนาพุทธ เรื่อง การถวายสังฆทาน

เปิดอ่าน 17,987 ครั้ง
"มะระ" ป้องเบาหวาน-จัดการริดสีดวง!
"มะระ" ป้องเบาหวาน-จัดการริดสีดวง!

เปิดอ่าน 55,126 ครั้ง
คู่มือประเมินสมรรถนะสำคัญของผู้เรียนฯ ตามหลักสูตรแกนกลางการฯ 2551 ชั้นป. 6
คู่มือประเมินสมรรถนะสำคัญของผู้เรียนฯ ตามหลักสูตรแกนกลางการฯ 2551 ชั้นป. 6

เปิดอ่าน 11,557 ครั้ง
แบบคำขอมีบัตร ประจำตัวข้าราชการ ตำแหน่ง ผอ.สพท.
แบบคำขอมีบัตร ประจำตัวข้าราชการ ตำแหน่ง ผอ.สพท.

เปิดอ่าน 39,422 ครั้ง
เรียบร้อยโรงเรียนจีน วลีนี้มีที่มา
เรียบร้อยโรงเรียนจีน วลีนี้มีที่มา

เปิดอ่าน 31,153 ครั้ง
การนวดท้องแบบ"ชิเนซัง"(Shi-Nei-Tsang) ปลดปล่อยสารพิษในร่างกาย
การนวดท้องแบบ"ชิเนซัง"(Shi-Nei-Tsang) ปลดปล่อยสารพิษในร่างกาย

เปิดอ่าน 2,335 ครั้ง
10 ทักษะที่จำเป็นสำหรับผู้นำ
10 ทักษะที่จำเป็นสำหรับผู้นำ

เปิดอ่าน 17,177 ครั้ง
เลิกตามใจลูก ปลูกวินัยวัยเด็ก
เลิกตามใจลูก ปลูกวินัยวัยเด็ก

เปิดอ่าน 19,351 ครั้ง
แอบดูไลน์ เป็นไปได้หรือไม่
แอบดูไลน์ เป็นไปได้หรือไม่

เปิดอ่าน 9,493 ครั้ง
เทคนิคดูแลเด็กให้สนุกกับการเรียน
เทคนิคดูแลเด็กให้สนุกกับการเรียน

เปิดอ่าน 11,771 ครั้ง
สาวกเนื้อเต้น ! ภาพชุด iPad Mini ล่าสุดว่อนเน็ต
สาวกเนื้อเต้น ! ภาพชุด iPad Mini ล่าสุดว่อนเน็ต

เปิดอ่าน 16,872 ครั้ง
4 ปัญหายอดฮิต เมื่อสอบติดมหาลัย
4 ปัญหายอดฮิต เมื่อสอบติดมหาลัย

เปิดอ่าน 14,083 ครั้ง
เราจะรู้ได้อย่างไรว่าสายตาสั้น
เราจะรู้ได้อย่างไรว่าสายตาสั้น
เปิดอ่าน 17,745 ครั้ง
รักษาอาการไอแบบไม่พึ่งยา ด้วยธรรมชาติบำบัด
รักษาอาการไอแบบไม่พึ่งยา ด้วยธรรมชาติบำบัด
เปิดอ่าน 15,537 ครั้ง
ประวัติ วะโฮรัมย์ เหรียญทองวีลแชร์พาราลิมปิก2008
ประวัติ วะโฮรัมย์ เหรียญทองวีลแชร์พาราลิมปิก2008
เปิดอ่าน 16,949 ครั้ง
"ครู" คือ "ปูชนียบุคคล" หรือ "ผู้แจวเรือจ้าง"
"ครู" คือ "ปูชนียบุคคล" หรือ "ผู้แจวเรือจ้าง"
เปิดอ่าน 233,870 ครั้ง
Uncountable Nouns
Uncountable Nouns

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
ติวสอบ GED
ติวสอบ SAT
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ