ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
รายงานการประเมินโครงการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนของโรงเรียนโครงการหลวงบแกน้อยสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา เชียงใหม่ เขต 3 โดยใช้รูปแบบการประเมินแบบ CIPP Model ของ Stufflebeam

ชื่อเรื่อง : ผลการประเมินโครงการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนของโรงเรียนโครงการหลวงแกน้อย สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 3 โดยใช้รูปแบบการประเมิน แบบ CIPP Model ของ Stufflebeam

ผู้รายงาน : ประสงค์ ต๊ะมูล ผู้อำนวยการโรงเรียนโครงการหลวงแกน้อย

บทสรุปสำหรับผู้บริหาร

รายงานผลการประเมินโครงการผลการประเมินโครงการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนของโรงเรียนโครงการหลวงแกน้อย สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 3 โดยใช้รูปแบบการประเมินแบบ CIPP Model ของ Stufflebeam การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ เพื่อเพื่อรายงานผลการประเมินโครงการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนของโรงเรียนโครงการหลวงแกน้อย สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 3 โดยใช้รูปแบบการประเมินแบบ CIPP Model ของ Stufflebeam ประเมิน 4 ด้าน ดังนี้ ด้านสภาวะแวดล้อม ด้านปัจจัยนำเข้า ด้านกระบวนการ ด้านผลผลิต ประชากรที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ คณะกรรมการดำเนินงาน นักเรียน และผู้ปกครองนักเรียน ของโรงเรียนโครงการหลวงแกน้อยผู้บริหาร สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 3 รวมทั้งหมด 315 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล คือ แบบสอบถาม ตรวจสอบคุณภาพของเครื่องมือโดยผู้เชี่ยวชาญ และหาค่าความเชื่อมั่นได้ 0.96สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และ วิเคราะห์เนื้อหา

ผลการประเมินโครงการ

1) ผลการประเมินด้านสภาวะแวดล้อมของโครงการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนโครงการหลวงแกน้อยสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 3 โดยรวมพบว่า คณะกรรมการดำเนินงาน ประเมินอยู่ในระดับมากที่สุด (μ = 4.21, σ = 0.07) นักเรียน ประเมินอยู่ในระดับมาก (μ = 4.29, σ = 0.03)

2) ผลการประเมินด้านปัจจัยนำเข้าของการดำเนินโครงการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนโรงเรียนโครงการหลวงแกน้อยสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 3 โดยรวมพบว่าคณะกรรมการดำเนินงาน ประเมินอยู่ในระดับมากที่สุด (μ = 4.67, σ = 0.03) นักเรียน ประเมินอยู่ในระดับมาก (μ = 4.21, σ = 0.05)

3) ผลการประเมินด้านกระบวนการในการดำเนินโครงการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนโครงการหลวงแกน้อยสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 3 โดยรวมพบว่าคณะกรรมการดำเนินงาน ประเมินอยู่ในระดับมากที่สุด (μ = 4.81, σ = 0.03) นักเรียน ประเมินอยู่ในระดับมากที่สุดเช่นกัน (μ = 4.59, σ = 0.01)

4) ผลการประเมินด้านผลผลิตจากการดำเนินงานโครงการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนโครงการหลวงแกน้อยสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 3 โดยรวมพบว่า คณะกรรมการดำเนินงาน ประเมินอยู่ในระดับมากที่สุด (μ = 4.48, σ = 0.06) นักเรียน ประเมินอยู่ในระดับมากที่สุด (μ = 4.69, σ = 0.01) และผู้ปกครองประเมินอยู่ในระดับมากที่สุดเช่นกัน (μ = 4.51, σ = 0.01)

ข้อเสนอแนะ

1) ด้านสภาพแวดล้อม การกำหนดวัตถุประสงค์ของโครงการให้สอดคล้องและเหมาะสมกับสภาพแวดล้อมจะเป็นเข็มทิศชี้นำการปฏิบัติให้ไปสู่ความสำเร็จได้ดีจึงควรกำหนดวัตถุประสงค์ของโครงการให้สอดคล้องกับหน่วยงานต้นสังกัด และเหมาะสมกับบริบทของสถานศึกษาให้มากขึ้นเพื่อนำไปสู่การพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน และสนองความต้องการของนักเรียน ครู และผู้ปกครอง และควรเปิดโอกาสให้ผู้ปกครองได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนมากขึ้นเพื่อให้ผู้ปกครองมีความตระหนักเห็นความสำคัญในการพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน และยินดีให้ความร่วมมือกับโรงเรียนเป็นการตอบสนองต่อความต้องการจำเป็นในการดำเนินงานตามโครงการอย่างแท้จริง

2) ด้านปัจจัยนำเข้า ปัจจัยที่ใช้ในการดำเนินงานตามโครงการเป็นทรัพยากรที่สำคัญในการขับเคลื่อนโครงการให้ไปสู่ความสำเร็จทั้งความพร้อม และศักยภาพของครู เจตคติ และความสามารถในการดำเนินงาน งบประมาณความพร้อมของสื่อเครื่องมือ และความพร้อมในการดำเนินงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนซึ่งเป็นปัจจัยที่มีความสำคัญในการดำเนินงานตามโครงการให้เหมาะสมกับกิจกรรมและควรพัฒนาครูผู้รับผิดชอบให้พร้อมก่อนที่จะปฏิบัติงานเพื่อให้ผู้ปฏิบัติสามารถปฏิบัติงานได้อย่างถูกต้องบรรลุผลอย่างมีประสิทธิภาพตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้

3) ด้านกระบวนการ การปฎิบัติงานตามกิจกรรมของโครงการมีหลายกิจกรรมที่ต้องอาศัยผู้ปฏิบัติที่มีความรู้ และทักษะเฉพาะด้านจึงควรให้ผู้รับผิดชอบโครงการ และครูที่มีความรู้ ความสามารถปรับปรุงพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนให้มีความเหมาะสมยิ่งขึ้น และควรสนับสนุนให้มีการประสานงานการปฎิบัติงานระหว่างผู้รับผิดชอบโครงการ ครู และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องอย่างเหมาะสม และสม่ำเสมอเพื่อให้การดำเนินโครงการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนดำเนินไปได้อย่างคล่องตัวไม่ติดขัดบรรลุผลตามวัตถุประสงค์อย่างมีประสิทธิภาพ

4) ด้านผลผลิต ผลผลิตของโครงการ คือ สิ่งที่ต้องการให้เกิดขึ้นตามวัตถุประสงค์ จาก ผลการประเมินโครงการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนด้านผลผลิต พบว่า ผลผลิตที่เน้นนักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนผ่านเกณฑ์การประมิน ตามหลักสูตรทุกรายวิชา ผลการประเมินที่มีค่าเฉลี่ยต่ำกว่าด้านอื่นๆจึงควรดำเนินการเร่งรัดให้ผู้รับผิดชอบโครงการ และครูพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นต่อเนื่องสม่ำเสมอ และเกิดประสิทธิภาพเพื่อเพิ่มการพัฒนาตนเองของนักเรียนได้ตามศักยภาพและสามารถดำเนินชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุขมากยิ่งขึ้นอีกทั้งเป็นการสร้างความพึงพอใจแก่ครูนักเรียนผู้ปกครองและคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานให้มากยิ่งขึ้น

5) ควรนำผลการประเมินโครงการมาวิเคราะห์หาจุดเด่นจุดที่ควรพัฒนาเพื่อกำหนดรูปแบบและแนวทางในการพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนโครงการหลวงแกน้อยสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 3 เพราะจะทำให้รู้ทิศทางของการพัฒนาในแต่ละด้านเกิดความคล่องตัวในการประสานงานทุกทุกฝ่ายและจะทำให้เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืนต่อไป

6) โรงเรียนอื่นๆโดยเฉพาะอย่างยิ่งโรงเรียนที่มีขนาดและบริบทที่ใกล้เคียงกันควรนำรูปแบบวิธีการและกิจกรรมต่างๆในโครงการไปปรับประยุกต์ใช้ในการพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนให้สอดคล้องกับบริบทของโรงเรียนเพราะจะทำให้โรงเรียนเกิดการพัฒนาไปในทิศทางที่ดีขึ้น

7) ควรนำผลการประเมินโครงการเสนอต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการจัดการศึกษาได้แก่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาหรือหน่วยงานอื่นๆได้รับทราบและเผยแพร่ผลจากการดำเนินงานของโครงการให้ผู้เกี่ยวข้องด้านการศึกษาได้รับทราบและสนับสนุนข้อเสนอแนะสำหรับการประเมินหรือวิจัยครั้งต่อไป

คำสำคัญ: การประเมินโครงการแบบ CIPP Model ของ Stufflebeam

โพสต์โดย กัญณิชานันท์ ธัญเรืองชัยกุล : [14 ก.พ. 2566 เวลา 09:58 น.]
อ่าน [3428] ไอพี : 110.171.110.54
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 19,420 ครั้ง
เริ่มแล้ว! กล้องไฮเทค จับผิด 30 แยกทั่วกรุงเทพฯ
เริ่มแล้ว! กล้องไฮเทค จับผิด 30 แยกทั่วกรุงเทพฯ

เปิดอ่าน 40,655 ครั้ง
Cut-Away Leaf Art ตัดใบไม้ให้เป็นงานอาร์ต
Cut-Away Leaf Art ตัดใบไม้ให้เป็นงานอาร์ต

เปิดอ่าน 11,913 ครั้ง
"ทักษะทางสังคม" ต้นทุนได้งานนักศึกษาจบใหม่
"ทักษะทางสังคม" ต้นทุนได้งานนักศึกษาจบใหม่

เปิดอ่าน 16,815 ครั้ง
Gen Y วายร้ายจริงหรือ (จบ)
Gen Y วายร้ายจริงหรือ (จบ)

เปิดอ่าน 13,705 ครั้ง
การกระตุ้นพัฒนาการลูกในครรภ์
การกระตุ้นพัฒนาการลูกในครรภ์

เปิดอ่าน 16,675 ครั้ง
ถั่วเขียวขจัดรอยด่างดำ
ถั่วเขียวขจัดรอยด่างดำ

เปิดอ่าน 11,134 ครั้ง
รถอัจฉริยะ-ไร้คนขับ
รถอัจฉริยะ-ไร้คนขับ

เปิดอ่าน 17,659 ครั้ง
สวมแหวนนิ้วไหนถึงจะมีโชค
สวมแหวนนิ้วไหนถึงจะมีโชค

เปิดอ่าน 81,860 ครั้ง
หน้ามน-หน้ามล
หน้ามน-หน้ามล

เปิดอ่าน 13,876 ครั้ง
การบวกเมตริก
การบวกเมตริก

เปิดอ่าน 10,042 ครั้ง
คนไทย80% กินอาหารเกินจำเป็นร่างกาย
คนไทย80% กินอาหารเกินจำเป็นร่างกาย

เปิดอ่าน 14,807 ครั้ง
แนวปฏิบัติในการโอนบุคลากรด้านการศึกษาในสถานศึกษาไป อปท.
แนวปฏิบัติในการโอนบุคลากรด้านการศึกษาในสถานศึกษาไป อปท.

เปิดอ่าน 24,903 ครั้ง
คณิตศาสตร์ไขปริศนาฟองเบียร์แฟบ
คณิตศาสตร์ไขปริศนาฟองเบียร์แฟบ

เปิดอ่าน 8,011 ครั้ง
ยัน"เขื่อนศรีฯ"ยังรับน้ำได้อีก
ยัน"เขื่อนศรีฯ"ยังรับน้ำได้อีก

เปิดอ่าน 13,858 ครั้ง
ครูแท้แพ้ไม่เป็น ตอนที่1
ครูแท้แพ้ไม่เป็น ตอนที่1

เปิดอ่าน 18,422 ครั้ง
ประโยชน์ของ "ผักแพว"
ประโยชน์ของ "ผักแพว"
เปิดอ่าน 11,428 ครั้ง
นร.ยืน หัวดีกว่า นร.นั่งเรียนปกติ
นร.ยืน หัวดีกว่า นร.นั่งเรียนปกติ
เปิดอ่าน 13,871 ครั้ง
ลูกเรามีความคิดสร้างสรรค์แค่ไหน
ลูกเรามีความคิดสร้างสรรค์แค่ไหน
เปิดอ่าน 30,859 ครั้ง
เคล็ดลับการทำให้หน้าเรียวกระชับใน 3 นาที
เคล็ดลับการทำให้หน้าเรียวกระชับใน 3 นาที
เปิดอ่าน 11,653 ครั้ง
สำคัญที่ผู้สอน (ครู, อาจารย์)
สำคัญที่ผู้สอน (ครู, อาจารย์)

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
โครงการบ้านเชียงใหม่
บ้านเชียงใหม่
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ