ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

รูปแบบการนิเทศโดยกระบวนการชุมชนแห่งการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมความสามารถในการทำวิจัยในชั้นเรียน โรงเรียนเทศบาล ๑ (วัดพรหมวิหาร) อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย

บทคัดย่อ

ชื่อเรื่อง : รูปแบบการนิเทศโดยกระบวนการชุมชนแห่งการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมความสามารถในการทำวิจัยในชั้นเรียน โรงเรียนเทศบาล ๑ (วัดพรหมวิหาร) อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย

ผู้วิจัย : นางอินทิรา ปงลังกา

ปีการศึกษา : 2564

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนารูปแบบการนิเทศโดยกระบวนการชุมชนแห่งการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมความสามารถในการทำวิจัยในชั้นเรียน โรงเรียนเทศบาล ๑ (วัดพรหมวิหาร) อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย โดยใช้วิธีการดำเนินวิจัยและพัฒนา 4 ขั้นตอน คือ ขั้นตอนที่ 1 ศึกษาข้อมูลพื้นฐาน โดย 1) ศึกษาแนวคิด ทฤษฎี และเอกสารที่เกี่ยวข้อง 2) สำรวจสภาพปัญหาและความต้องการของครูจำนวน 43 คน 3) สนทนากลุ่มครูวิชาการ จำนวน 9 คน 4) สนทนากลุ่มผู้บริหารสถานศึกษา จำนวน 6 คน โดยใช้แบบสรุปข้อมูล แบบสรุปข้อมูล แบบบันทึกการประชุม และประเด็นสนทนากลุ่ม ขั้นตอนที่ 2 สร้างรูปแบบ โดยการออกแบบและยกร่างรูปแบบ ตรวจสอบความสอดคล้องของรูปแบบและความเหมาะสมของคู่มือรูปการใช้แบบจากผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 7 คน โดยใช้การสัมมนาอิงผู้เชี่ยวชาญและแบบตรวจสอบ วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าเฉลี่ยและค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ขั้นตอนที่ 3 ศึกษาผลการใช้รูปแบบ โดยนำรูปแบบที่พัฒนาขึ้นไปทดลองใช้กับครูโรงเรียนเทศบาล ๑ (วัดพรหมวิหาร) จำนวน 43 คน ได้มาโดยการคัดเลือกแบบเจาะจง เพื่อประเมินความสามารถในการปฏิบัติตามกระบวนการวิจัยในชั้นเรียน ความสามารถในการเขียนรายงานการวิจัยในชั้นเรียน และสรุปข้อมูลสะท้อนผลการส่งเสริมความสามารถในการทำวิจัยในชั้นเรียนโดยรวม เครื่องมือที่ใช้การวิจัย คือ แบบประเมิน จำนวน 2 ฉบับ และแบบสรุปข้อมูล วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และ t-test for one sample วิเคราะห์เนื้อหาและสรุปข้อมูล ขั้นตอนที่ 4 ประเมินรูปแบบในด้านปัจจัยนำเข้า ด้านกระบวนการ และด้านผลผลิต โดยผู้อำนวยการ รองผู้อำนวยการ และครู รวม 45 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบประเมิน และวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติ คือ ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน

ผลการวิจัยพบว่า

1. ผลการศึกษาข้อมูลพื้นฐานที่จำเป็น พบว่า 1) ครูมีความต้องการได้รับการสนับสนุนให้ทำวิจัยในชั้นเรียน และใช้ผลงานการทำวิจัยในชั้นเรียนเป็นส่วนหนึ่งของการพิจารณาความดีความชอบ โดยมีการกำหนดนโยบายด้านการวิจัยที่ชัดเจน สร้างความตระหนักและความรู้ความเข้าใจในการทำวิจัยในชั้นเรียน ลงมือปฏิบัติจริงเพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจและทักษะการทำวิจัยในชั้นเรียน โดยในระหว่างการปฏิบัติการทำวิจัยในชั้นเรียน ให้ความช่วยเหลือ คำแนะนำ ปรึกษา และร่วมกันสะท้อนผลเพื่อการปรับปรุงและพัฒนา นิเทศติดตามผลการดำเนินการวิจัยในชั้นเรียนของครูอย่างต่อเนื่อง และส่งเสริมให้ครูทำผลงานประกวดในระดับต่าง 2) แนวทางการนิเทศเพื่อส่งเสริมการทำวิจัยในชั้นเรียน คือ ส่งเสริมพัฒนาครูผู้สอนให้ศึกษาวิเคราะห์วิจัยเพื่อพัฒนาคุณภาพการเรียนรู้โดยใช้ระบบชุมชนแห่งการเรียนรู้ (PLC) ในแต่ละกลุ่มสาระการเรียนรู้ มีการวางแผนการนิเทศอย่างเป็นระบบ ส่งเสริมให้ครูผู้สอนเป็นผู้นิเทศและผู้รับการนิเทศมีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน และนำเสนอข้อแนะนำเพื่อการปรับปรุงระบบการจัดการเรียนรู้ให้มีประสิทธิภาพ

2. รูปแบบการนิเทศโดยกระบวนการชุมชนแห่งการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมความสามารถในการทำวิจัยในชั้นเรียน โรงเรียนเทศบาล ๑ (วัดพรหมวิหาร) อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย มี 6 องค์ประกอบ ได้แก่ หลักการ วัตถุประสงค์ เนื้อหา กระบวนการนิเทศ การวัดและประเมินผล เงื่อนไขความสำเร็จ โดยมีกระบวนการนิเทศ 6 ขั้นตอน ได้แก่ 1) ขั้นสร้างทีมและกำหนดข้อตกลงร่วมกัน 2) ขั้นวางแผนการนิเทศ 3) ขั้นร่วมปฏิบัติการนิเทศ 4) ขั้นเปิดรับการชี้แนะการทำวิจัยในชั้นเรียน 5) ขั้นสะท้อนผลการนิเทศร่วมกัน และ 6) ขั้นเผยแพร่สู่สาธารณะและสร้างเครือข่าย ซึ่งโดยรวมรูปแบบและคู่มือการใช้รูปแบบมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด

3. ผลการทดลองใช้รูปแบบ พบว่า 1) ครูมีความสามารถในการปฏิบัติตามกระบวนการวิจัยในชั้นเรียน โดยรวมมีความสามารถอยู่ในระดับดี และสูงกว่าเกณฑ์ร้อยละ 70 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ และ 2) ครูมีความสามารถในการเขียนรายงานการวิจัยในชั้นเรียนโดยรวมอยู่ในระดับดีและสูงกว่าเกณฑ์ร้อยละ 70 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ.05 3) สรุปข้อมูลสะท้อนผลการส่งเสริมความสามารถในการทำวิจัยในชั้นเรียนโดยรวม พบว่า ครูทุกคนมีส่วนร่วมและมีผลงานทางวิชาการ คือ รายงานการวิจัยในชั้นเรียนฉบับย่อหรือฉบับเต็มอย่างใดอย่างหนึ่ง แต่มีจุดที่ควรพัฒนาคือ โรงเรียนควรจัดอบรมปฏิบัติการให้ความรู้ความเข้าใจการทำวิจัยในชั้นเรียนและฝึกปฏิบัติการทำวิจัยในชั้นเรียนอย่างต่อเนื่องจนเป็นแบบอย่างได้ และผู้บริหารควรให้ความสำคัญวิจัยในชั้นเรียนและถือเป็นนโยบายหลักของสถานศึกษา และส่งเสริมให้ผู้วิจัยจัดทำและเผยแพร่งานวิจัยในรูปแบบต่าง ๆ เช่น วารสารของโรงเรียน

4. ผลการประเมินรูปแบบการนิเทศโดยกระบวนการชุมชนแห่งการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมความสามารถในการทำวิจัยในชั้นเรียน โรงเรียนเทศบาล ๑ (วัดพรหมวิหาร) อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ตามความคิดเห็นของผู้อำนวยการ รองผู้อำนวยการ และครูโรงเรียนเทศบาล ๑ (วัดพรหมวิหาร) โดยรวมมีความคิดเห็นอยู่ในระดับมากที่สุด

โพสต์โดย อินทิรา ปงลังกา : [23 มี.ค. 2566 เวลา 09:30 น.]
อ่าน [4516] ไอพี : 49.228.239.224
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 22,005 ครั้ง
ประโยชน์ของ เมล็ดดอกทานตะวัน
ประโยชน์ของ เมล็ดดอกทานตะวัน

เปิดอ่าน 13,012 ครั้ง
ความลับของกลดึงกระต่ายออกมาจากหมวก
ความลับของกลดึงกระต่ายออกมาจากหมวก

เปิดอ่าน 25,602 ครั้ง
นางสงกรานต์ปี 2556 นามว่า "มโหธรเทวี" ทรงพาหุรัดทัดดอกสามหาว มีนกยูงเป็นพาหนะ
นางสงกรานต์ปี 2556 นามว่า "มโหธรเทวี" ทรงพาหุรัดทัดดอกสามหาว มีนกยูงเป็นพาหนะ

เปิดอ่าน 14,570 ครั้ง
การประยุกต์ใช้ ADSL
การประยุกต์ใช้ ADSL

เปิดอ่าน 12,062 ครั้ง
ฟังหรือยัง เพลง "จากนี้ไปจนนิพพาน"
ฟังหรือยัง เพลง "จากนี้ไปจนนิพพาน"

เปิดอ่าน 30,575 ครั้ง
ใส่หลอดในขวดซอสมะเขือเทศจะทำให้เทออกง่าย
ใส่หลอดในขวดซอสมะเขือเทศจะทำให้เทออกง่าย

เปิดอ่าน 16,614 ครั้ง
ผลิตพืชอินทรีย์ / สมุนไพรกำจัดโรคและแมลง
ผลิตพืชอินทรีย์ / สมุนไพรกำจัดโรคและแมลง

เปิดอ่าน 33,689 ครั้ง
สรรพคุณทางยาของ "ผักแขยง"
สรรพคุณทางยาของ "ผักแขยง"

เปิดอ่าน 23,546 ครั้ง
หมอเตือนอย่ากิน"แมลงทอด"กับ"เหล้า-เบียร์"
หมอเตือนอย่ากิน"แมลงทอด"กับ"เหล้า-เบียร์"

เปิดอ่าน 16,719 ครั้ง
สมุนไพรน่ารู้
สมุนไพรน่ารู้

เปิดอ่าน 23,522 ครั้ง
เป็นหนี้บัตรเครดิต ธนาคารยึดเงินจากบัญชีเงินเดือนลูกหนี้ได้หรือไม่?
เป็นหนี้บัตรเครดิต ธนาคารยึดเงินจากบัญชีเงินเดือนลูกหนี้ได้หรือไม่?

เปิดอ่าน 29,523 ครั้ง
พยาธิใบไม้ในตับ
พยาธิใบไม้ในตับ

เปิดอ่าน 11,345 ครั้ง
รู้จัก "ไวรัสไข้หวัดหมู" มฤตยูสายพันธุ์ล่าสุด!
รู้จัก "ไวรัสไข้หวัดหมู" มฤตยูสายพันธุ์ล่าสุด!

เปิดอ่าน 21,421 ครั้ง
รู้ไว้เพื่อระวัง กรุ๊ปเลือดบอกความสุ่มเสี่ยงของโรคได้นะ
รู้ไว้เพื่อระวัง กรุ๊ปเลือดบอกความสุ่มเสี่ยงของโรคได้นะ

เปิดอ่าน 72,363 ครั้ง
วิธีสะเดาะเคราะห์ (ด้วยตัวเอง)
วิธีสะเดาะเคราะห์ (ด้วยตัวเอง)

เปิดอ่าน 33,973 ครั้ง
ไข่ขาวสามารถใช้รักษาแผลน้ำร้อนลวกได้ จริงหรือ?
ไข่ขาวสามารถใช้รักษาแผลน้ำร้อนลวกได้ จริงหรือ?
เปิดอ่าน 16,085 ครั้ง
ฟื้นฟูตัวเอง 15 วัน เปลี่ยน...ให้สวย
ฟื้นฟูตัวเอง 15 วัน เปลี่ยน...ให้สวย
เปิดอ่าน 11,805 ครั้ง
วิธีทำให้ "แก้วมังกร" ลูกดก
วิธีทำให้ "แก้วมังกร" ลูกดก
เปิดอ่าน 16,047 ครั้ง
ติดพนันเสียคนตอนแก่เนื่องมาจากเป็นเพราะสมองเสื่อมโทรม
ติดพนันเสียคนตอนแก่เนื่องมาจากเป็นเพราะสมองเสื่อมโทรม
เปิดอ่าน 12,018 ครั้ง
5 วิธีชวนขับรถประหยัดน้ำมัน
5 วิธีชวนขับรถประหยัดน้ำมัน

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
แปลงหน่วยวัด
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ