ครูบ้านนอก

นางพัณณ์ชิตา แสงใส

รองผู้อำนวยการโรงเรียนวิสุทธรังษี จังหวัดกาญจนบุรี

บทคัดย่อ

การนำรูปแบบการบริหารงานแบบมิตรภาพโมเดล(FRIEND_P MODEL)ไปปฏิบัติตามแผนกลยุทธ์เพื่อพัฒนากลุ่มบริหารงานกิจการนักเรียนโรงเรียนวิสุทธรังษีจังหวัดกาญจนบุรี ปีการศึกษา 2566 มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อนำรูปแบบการบริหารงานแบบมิตรภาพโมเดล(FRIEND_P MODEL)ไปปฏิบัติตามแผนกลยุทธ์เพื่อพัฒนากลุ่มบริหารงานกิจการนักเรียนโรงเรียนวิสุทธรังษีจังหวัดกาญจนบุรี ปีการศึกษา 2566 2) เพื่อศึกษาผลการใช้รูปแบบการบริหารงานแบบมิตรภาพโมเดล (FRIEND_P MODEL) กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ จำนวน 354 คน ประกอบด้วย 1) นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 – 6 ปีการศึกษา 2566 จำนวน 299 คน 2) ผู้บริหารโรงเรียน จำนวน 5 คน 3) ครูผู้สอน จำนวน 50 คน ได้จากการสุ่มอย่างง่ายแบบเจาะจง (purposive sampling) เครื่องมือที่ใช้ เป็นแบบสอบถามการนำรูปแบบการบริหารงานแบบมิตรภาพโมเดล(FRIEND_P MODEL) ไปใช้กับการปฏิบัติงาน และแบบประเมินรูปแบบการบริหารงานแบบมิตรภาพโมเดล(FRIEND_P MODEL) สถิติที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน

ผลการวิจัยพบว่า

1.การนำรูปแบบการบริหารงานแบบมิตรภาพโมเดล(FRIEND_P MODEL) ไปใช้ในการพัฒนากลุ่มบริหารงานกิจการนักเรียน มีลักษณะการบริหารงานแบบมีส่วนร่วม โดยกระบวนการ Demming (PDCA) 1) บุคลากรผู้ปฏิบัติงานจะร่วมกันศึกษาค้นคว้าสภาพปัจจุบัน ปัญหา และแนวทางแก้ไข (SWOT-Analysis) 2) วิเคราะห์และวางแผนกลยุทธ์การดำเนินงานการบริหารกิจการนักเรียน 3) การทำแผนกลยุทธ์ไปสู่การปฏิบัติภายใต้รูปแบบการบริหารงานแบบมิตรภาพโมเดล(FRIEND_P MODEL) รวมทั้งการสร้างนวัตกรรมการแก้ปัญหาการปฏิบัติงานอย่างมีประสิทธิภาพ และประสิทธิผล 4) การกำกับติดตามประเมินผลและการรายงานผลการปฏิบัติงาน และ 5) การนำสภาพปัญหาอุปสรรคจากากรบริหารงานกิจการนักเรียนมาวิเคราะห์และกำหนดเป็นแผนกลยุทธ์ในการพัฒนาต่อไปตามวงจรการบริหารงานแบบมิตรภาพโมเดล(FRIEND_P MODEL)

2. ผลการนำรูปแบบการบริหารงานแบบมิตรภาพโมเดล(FRIEND_P MODEL)ไปปฏิบัติตามแผน

กลยุทธ์เพื่อพัฒนากลุ่มบริหารงานกิจการนักเรียนโรงเรียนวิสุทธรังษีจังหวัดกาญจนบุรี ปีการศึกษา 2566

พบว่า มีความเป็นประโยชน์ ( =4.50) มีความเหมาะสม( = 4.54 ) และมีความเป็นไปได้ ( =4.51) อยู่ในระดับมากที่สุด

เว็บน่าสนใจ