|
|
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์คือ
๑. เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้ ของนักเรียน ก่อนเรียนและหลังเรียน จากการจัดเรียนรู้โดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะด้วยสื่อดิจิทัล
๒. เพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการสืบเสาะทางวิทยาศาสตร์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนชุมชนวัดท่าเดื่อ โดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะด้วยสื่อดิจิทัล พบว่า
๑. จากการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการสืบเสาะทางวิทยาศาสตร์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนชุมชนวัดท่าเดื่อ โดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะด้วยสื่อดิจิทัล พบว่ามีประสิทธิภาพตามเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนด ๘๓.๒๒และ๘๓.๑๗
๒. จากการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้ ของนักเรียน ก่อนเรียนและหลังเรียน จากการจัดเรียนรู้โดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะด้วยสื่อดิจิทัล ก่อนเรียนมีคะแนนเฉลี่ยร้อยละ ๔๖.๖๗ และหลังเรียนมีคะแนนเฉลี่ยร้อย ๗๓.๓๓ แสดงให้ว่าหลังการพัฒนาทักษะกระบวนการสืบเสาะทางวิทยาศาสตร์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ของโรงเรียนชุมชนวัดท่าเดื่อ โดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะด้วยสื่อดิจิทัล นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์เพิ่มที่สูงขึ้นกว่าร้อยละ ๒๖.๖๖
๓. ผลการพัฒนาทักษะกระบวนการสืบเสาะทางวิทยาศาสตร์ เรื่องการละลาย ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนชุมชนวัดท่าเดื่อ
โดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะด้วยสื่อวีดิทัศน์ตามประสงค์ พบว่า ร้อยละการเบี่ยงเบนมาตรฐาน ก่อนเรียนเท่ากับ ๑.๖๕ หลังเรียนเท่ากับ ๑.๕๓ แสดงให้เห็นว่า ภายหลังการเรียนโดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะด้วยสื่อวีดิทัศน์ตามประสงค์ นักเรียนสามารถทำแบบทดสอบได้ดีขึ้น ความผิดพลาดดลดลง ทำให้ร้อยละการเบี่ยงเบนมาตรฐานของผู้เรียนลดลงร้อยละ ๐.๑๒ โดยผู้ศึกษาได้ศึกษากับกลุ่มเป้าหมาย คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนชุมชนวัดท่าเดื่อ จำนวน ๒๐ คน ที่กำลังศึกษาในภาคเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๖๗ เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา คือ แบบทดสอบเพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการสืบเสาะทางวิทยาศาสตร์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนชุมชนวัดท่าเดื่อ โดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะด้วยสื่อวีดิทัศน์ตามประสงค์ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการศึกษาพบว่า แบบทดสอบเพื่อพัฒนาชุดกิจกรรมฝึกทักษะกระบวนการสืบเสาะทางวิทยาศาสตร์ มีประสิทธิภาพโดยรวมเท่ากับ ๘๓.๒๒และ๘๓.๑๗ ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ คือ ๘๐และ๘๐ และเมื่อจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการสืบเสาะ
|
โพสต์โดย wikky : [11 ก.ย. 2567 (15:31 น.)] อ่าน [1108] ไอพี : 118.174.65.182
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก
|
|
|
|
|
|
|
โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2. ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป
3. สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น
7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป
** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**
|
|
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ เปิดอ่าน 80,706 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 30,576 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 11,438 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 42,102 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 8,099 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 28,401 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 15,059 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 105,239 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 11,350 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 14,392 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 21,121 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 37,570 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 25,920 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 23,810 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 7,095 ครั้ง 
| |
|
เปิดอ่าน 26,813 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 23,898 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 122,640 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 17,961 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 2,388 ครั้ง 
|
|

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด
|