ครูบ้านนอก

บทคัดย่อ

รายงานวิจัย เรื่องการเสริมสร้างความเข้มแข็งและพัฒนาระบบการประกันคุณภาพภายในสถานศึกษาด้วยการนิเทศแบบผสมผสานนี้ มีความเป็นมาและความสำคัญของปัญหาการวิจัยจากการเปรียบเทียบปีการศึกษา 2564 และ 2565 การประเมินคุณภาพภายในสถานศึกษาในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษายโสธร เขต 1 พบว่าทั้งระดับการศึกษาปฐมวัยและระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานมีจำนวนสถานศึกษาที่มีผลการประเมินภายในระดับดีเลิศขึ้นไปอยู่ในระดับ 2 (พอใช้) ผู้วิจัยในฐานะที่รับผิดชอบงานด้านวิชาการของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษายโสธร เขต 1 และโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการ ก.ต.ป.น. จึงได้ดำเนินการวิจัยเพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งระบบประกันคุณภาพภายในสถานศึกษาในสังกัด โดยมีวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้ 1) เพื่อพัฒนาครูผู้รับผิดชอบงานประกันคุณภาพภายในสถานศึกษาให้มีความรู้ความเข้าใจระบบการประกันคุณภาพภายในสถานศึกษาด้วยรูปแบบการนิเทศแบบผสมผสาน 2) เพื่อศึกษาผลการเสริมสร้างความเข้มแข็งและพัฒนาระบบการประกันคุณภาพภายในสถานศึกษาด้วยการนิเทศแบบผสมผสาน และ 3) เพื่อประเมินความพึงพอใจต่อการประชุมเชิงปฏิบัติการของผู้รับผิดชอบงานประกันคุณภาพภายในสถานศึกษาด้วยการนิเทศแบบผสมผสาน กลุ่มเป้าหมาย ประกอบด้วย ๑) กลุ่มเป้าหมายการประชุมปฏิบัติการ คือ ครูที่รับผิดชอบงานประกันคุณภาพภายในสถานศึกษาในสังกัดและ ๒) กลุ่มเป้าหมายผู้รับการนิเทศ คือ ครูผู้สอน ผู้บริหารสถานศึกษาและบุคลากรที่เกี่ยวข้องในสังกัด เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) เอกสารประกอบการประชุมเชิงปฏิบัติการ (Seminar) 2) แบบทดสอบปรนัยชนิดเลือกตอบ จำนวน 20 ข้อ ๓) แบบสอบถามความพึงพอใจ ๔) คู่มือแนวทางการเขียนรายงาน การประเมินตนเองของสถานศึกษา (SELF-ASSESSMENT REPORT : SAR) ๕) แบบนิเทศ ติดตามผลการดำเนินงานตามระบบประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา ปีการศึกษา 2566 โรงเรียนในสังกัด ทั้งนี้วิเคราะห์ข้อมูล จากแบบทดสอบ แบบสอบถามหลังการอบรม ระดับการปฏิบัติในการนำคู่มือไปใช้ และให้สถานศึกษาประเมินตนเองตามองค์ประกอบ และประเด็นพิจารณาว่ามีการดำเนินงานอยู่ในระดับใด สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าเฉลี่ย ร้อยละ และการวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis) สรุปผลการวิจัยได้ ดังนี้ 1) ผลการพัฒนาครูผู้รับผิดชอบงานประกันคุณภาพภายในสถานศึกษาให้มีความรู้ความเข้าใจระบบการประกันคุณภาพภายในสถานศึกษาด้วยรูปแบบการนิเทศแบบผสมผสาน มีค่าเฉลี่ยรวมทั้ง 18 เครือข่ายคุณภาพการศึกษา จำนวน 177 คน มีคะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 18.22 และมีค่าเฉลี่ยร้อยละ 91.10 และมีผลการประเมินหลังการอบรมเชิงปฎิบัติการของครูผู้รับผิดชอบงานประกันคุณภาพการศึกษาภายในสถานศึกษาด้านความรู้ความเข้าใจ มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.55 คิดเป็นร้อยละ 91.08 อยู่ในระดับมากที่สุด 2) ผลการศึกษาการเสริมสร้างความเข้มแข็งและพัฒนาระบบการประกันคุณภาพภายในสถานศึกษาด้วยการนิเทศแบบผสมผสานภาพรวมมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 2.79 คิดเป็นร้อยละ 92.98 และมีระดับการดำเนินงานสมบูรณ์ครบถ้วนมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก ส่วนการนิเทศ ติดตาม สะท้อนผล ระยะที่ 2 โรงเรียนนำร่องการพัฒนาระบบประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา คิดเป็นร้อยละ 90.91 และ 3) ผลการประเมินความพึงพอใจต่อการประชุมครูผู้รับผิดชอบงานประกันคุณภาพการศึกษามีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.51 คิดเป็นร้อยละ 90.11 อยู่ในระดับมากที่สุด

ข้อเสนอแนะเชิงนโยบายสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษายโสธร เขต ๑ ควรนำผลการวิจัยครั้งนี้ไปพัฒนางานระบบการประกันคุณภาพการศึกษาแบบเชิงรุกแบบบูรณาการเพื่อเสริมสร้างการมีส่วนร่วมอย่างเข้มแข็งของผู้มีส่วนได้เสีย (Stakeholders) ในการพัฒนาคุณภาพการศึกษามีระบบการนิเทศภายในการประกันคุณภาพภายในสถานศึกษาที่เข้มแข็งเป็นระบบ และมีความต่อเนื่อง

เว็บน่าสนใจ