ชื่อวิจัย การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดการเรียนรู้แบบเชิงรุกและการสร้างสรรค์เป็นฐาน (CBL) เพื่อเสริมสร้างแรงจูงใจในการสร้างสรรค์งานศิลปะ
กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
ผู้วิจัย นางสาวณิชชา สุวรรณรัตน์ ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ
ปีที่วิจัย 2567
บทคัดย่อ
การวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ ดังนี้ 1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดการเรียนรู้แบบเชิงรุกและการสร้างสรรค์เป็นฐาน (CBL) เพื่อเสริมสร้างแรงจูงใจในการสร้างสรรค์งานศิลปะ กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 2) เพื่อพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดการเรียนรู้แบบเชิงรุกและการสร้างสรรค์เป็นฐาน (CBL) เพื่อเสริมสร้างแรงจูงใจในการสร้างสรรค์งานศิลปะ กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 3) เพื่อทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดการเรียนรู้แบบเชิงรุกและการสร้างสรรค์เป็นฐาน (CBL) เพื่อเสริมสร้างแรงจูงใจในการสร้างสรรค์งานศิลปะ กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 และ 4) เพื่อประเมินรูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดการเรียนรู้แบบเชิงรุกและการสร้างสรรค์เป็นฐาน (CBL) เพื่อเสริมสร้างแรงจูงใจในการสร้างสรรค์งานศิลปะ กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 วิธีดำเนินการวิจัยใช้รูปแบบการวิจัยและพัฒนา (R&D) มี 4 ขั้นตอน คือ ขั้นตอนที่ 1 การศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบ ขั้นตอนที่ 2 การสร้างและพัฒนารูปแบบ ขั้นตอนที่ 3 การทดลองใช้รูปแบบ และขั้นตอนที่ 4 การประเมินรูปแบบ กลุ่มเป้าหมาย คือ นักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนวัดตันติการาม มิตรภาพที่ 109 อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานราธิวาส เขต 3 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2567 จำนวน 19 คน ได้มาโดยวิธีการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) แบบวิเคราะห์เอกสาร 2) แบบสอบถาม 3) คู่มือการใช้รูปแบบ 4) แบบบันทึกการสนทนากลุ่ม 5) แผนการจัดการเรียนรู้ตามรูปแบบ 6) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 7) แบบประเมินด้านแรงจูงใจในการสร้างสรรค์งานศิลปะ และ 8) แบบสอบถามความพึงพอใจ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบค่าสถิติ Nonparametric Test แบบ Wilcoxon Signed Rank Test และการวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis)
ผลการวิจัยพบว่า
1. ผลการศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดการเรียนรู้แบบเชิงรุกและการสร้างสรรค์เป็นฐาน (CBL) เพื่อเสริมสร้างแรงจูงใจในการสร้างสรรค์งานศิลปะ กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ พบว่า สภาพปัจจุบันและปัญหาการจัดการเรียนการสอนรายวิชาศิลปะ กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ โดยรวมครูผู้สอนกลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ มีการปฏิบัติอยู่ในระดับมากเมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ด้านที่มีการปฏิบัติในระดับมาก คือ ด้านการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน ด้านการใช้สื่อการเรียนรู้ และด้านการวัดและประเมินผล ลำดับสุดท้าย คือ ด้านการใช้หลักสูตร
2. ผลการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดการเรียนรู้แบบเชิงรุกและการสร้างสรรค์เป็นฐาน (CBL) เพื่อเสริมสร้างแรงจูงใจในการสร้างสรรค์งานศิลปะ
กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ ที่สร้างขึ้น ประกอบด้วย 1) หลักการ 2) วัตถุประสงค์ 3) ขั้นตอนการจัดการเรียนรู้ 4) ระบบสังคม 5) ระบบสนับสนุน และ 6) การวัดและประเมินผล โดยมีขั้นตอนการจัดการเรียนรู้ ประกอบด้วย 5 ขั้น คือ ขั้นที่ 1 ขั้นเตรียมความพร้อม ขั้นที่ 2 ขั้นศึกษาและจัดกลุ่ม ขั้นที่ 3 ขั้นสร้างสรรค์ชิ้นงาน ขั้นที่ 4 ขั้นนำเสนอและสรุป และขั้นที่ 5 ขั้นตรวจสอบและประเมินผลงาน ผลการประเมินคุณภาพตามความคิดเห็นของผู้ทรงคุณวุฒิ พบว่า มีความเหมาะสมระดับมากที่สุด และประสิทธิภาพของรูปแบบ เท่ากับ 81.53/80.58 ถือว่าเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนด
3. ผลการทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดการเรียนรู้แบบเชิงรุกและการสร้างสรรค์เป็นฐาน (CBL) เพื่อเสริมสร้างแรงจูงใจในการสร้างสรรค์งานศิลปะ พบว่า
3.1 นักเรียนที่ได้รับการจัดการเรียนรู้ตามรูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดการเรียนรู้แบบเชิงรุกและการสร้างสรรค์เป็นฐาน (CBL) มีคะแนนด้านแรงจูงใจในการสร้างสรรค์งานศิลปะ ภาพรวมอยู่ในระดับดี คิดเป็นร้อยละ 84.66
3.2 นักเรียนที่ได้รับการจัดการเรียนรู้ตามรูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดการเรียนรู้แบบเชิงรุกและการสร้างสรรค์เป็นฐาน (CBL) มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
4. ผลการประเมินรูปแบบ พบว่า นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้ตามรูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดการเรียนรู้แบบเชิงรุกและการสร้างสรรค์เป็นฐาน (CBL) เพื่อเสริมสร้างแรงจูงใจในการสร้างสรรค์งานศิลปะ กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ อยู่ในระดับพึงพอใจมากที่สุด